'ไพศาล'แฉรัฐบาลในรอบ10ปีหนุนซื้อ'เรือดำน้ำ'ซ้ำร้ายปีที่แล้วทุกพรรคการเมืองก็ไฟเขียว!


เพิ่มเพื่อน    

26 ส.ค.2563-  นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความพร้อมรูปผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ!!!!” ระบุว่า 1.ผมตั้งตัวเป็นผู้คัดค้านการจัดซื้อเรือดำน้ำ3ลำมาตั้งแต่ 30 ปีก่อนแล้ว เพราะขณะนั้นไม่มีประเทศใดในย่านนี้ที่มีเรือดำน้ำเลย และศักยภาพของกองทัพเรือในขณะนั้นก็เพียงพอที่จะดูแลอธิปไตยของชาติได้

2.ในระยะ 7 ปีมานี้ ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ ได้จัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการกันโดยทั่วไป เพื่อดูแลผลประโยชน์ทางทะเลและอธิปไตยของชาติ ประเทศเล็กๆ บางประเทศมีถึง 12 ลำ แม้ว่าเราจะเป็นมิตรประเทศกัน แต่ในเรื่องอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาตินั้น ย่อมจำเป็นที่จะต้องพิทักษ์รักษา ให้มีความมั่นใจ จึงเป็นเหตุความจำเป็นที่ต้องมีเรือดำน้ำ มิฉะนั้นแล้วกองเรือผิวน้ำก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย

3.เรือดำน้ำนั้นต้องมีอย่างน้อย 3 ลำ เพราะสองฝั่งทะเลของประเทศไทยยาวเหยียด การพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ ด้านอ่าวไทยและแปซิฟิกก็สำคัญ ทางด้านมหาสมุทรอินเดียก็สำคัญ จึงต้องมีเรืออย่างน้อยด้านละ1 ลำ และต้องมีสำรองไว้อีก 1 ลำ  เพราะเรือแต่ละลำนั้น สามารถปฏิบัติภารกิจใต้น้ำได้ 25 วัน ต้องเข้าฝั่ง และต้องส่งเรือสำรอง ไปปฏิบัติภารกิจแทนสลับกันไป นี่คือความจำเป็นที่ต้องมี 3 ลำเป็นอย่างน้อย

4.รัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ในระยะ 10 ปีมานี้ล้วนเห็นชอบในแผนการจัดหาเรือดำน้ำ 3 ลำ และเมื่อมีความพร้อมและจำเป็นขั้นสูง รัฐบาลและรัฐสภาในปีที่แล้วก็ได้อนุมัติโครงการนี้โดยจัดซื้อลำแรกก่อน ซึ่งต้องชำระเงินปีละประมาณ 3,000 ล้านบาท มาปีนี้จึงดำเนินการต่อ จัดหาลำที่ 2 และที่ 3 เพื่อให้ เป็นไปตามแผนปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งจะใช้งบประมาณปี 64 เพียงประมาณ 3,000 ล้านบาทเท่านั้น

5.การจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกเหมือนกับการซื้อรองเท้าก่อน 1 ข้าง มาปีนี้จึงตั้งงบซื้อข้างที่ 2 และสำรองอีกข้างหนึ่งจึงจะใช้ได้ ทุกพรรคการเมืองในปัจจุบันนี้เมื่อปีที่แล้วก็เห็นชอบเรื่องนี้เกือบเป็นเอกฉันท์ มาปีนี้ถ้าหากไม่เห็นชอบก็เท่ากับให้ใช้รองเท้าข้างเดียว ก็จะสูญเสียเงินเปล่าและใช้การไม่ได้ ที่สำคัญคืออธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาตินั้นเสี่ยงไม่ได้!!!!

6.รายละเอียดเกี่ยวกับสมรรถนะของเรือดำน้ำทั้ง 3 ลำนี้ เท่าที่ดูจากการเปิดเผยข้อมูลก็เห็นใจฝ่ายทหาร เพราะมีความจำเป็นที่ไม่อาจเปิดเผยในรายละเอียดได้ แต่ผมยืนยันได้ว่าเรือดำน้ำทั้ง 3 ลำนี้สมรรถนะไม่เบา แม้มีรัศมีปฏิบัติการทางด้านแปซิฟิกถึงทะเลจีนใต้ ฝั่งมหาสมุทรอินเดียถึงย่านศรีลังกา แต่รัศมีทำการของขีปนาวุธและตอร์ปิโดนั้น ไม่ได้อยู่แค่นั้นนะครับ!!!! อาจจะมีรัศมีทำการถึง 5,000 ไมล์ก็ได้ ใครจะล่วงรู้ 5555 แต่ยืนยันได้เลยว่า สมรรถนะไม่ด้อยกว่าใครเลยในภูมิภาคนี้!!!!

7.ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินที่ต้องใช้เพราะปี 2564 ใช้เพียงแค่ 3 พันล้านบาทและอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณที่ตั้งประมาณการไว้ตั้งนานแล้ว และที่สำคัญน้อยกว่ามีประโยชน์กว่าเงินที่ไปล้างผลาญซื้อเครื่องพ่นยาฆ่าไวรัสนับหมื่นล้านบาทโดยไม่เข้าท่ามากมายนัก สำหรับราคาเรือ3ลำนี้ ผมยืนยันได้ว่า ราคาถูกมากเกือบจะเหมือนได้เปล่า จนกล่าวได้ว่าซื้อ 3 ลำรวมกันราคายังไม่เท่ากับซื้อจากบางประทศแค่ลำเดียวเท่านั้น 
ข้อสำคัญอยากจะบอกให้ทราบว่า ราคาเรือ 3 ลำนี้ที่ลดราคามากมายเหมือนได้เปล่านั้น เกิดจากการตัดสินใจของท่านประธานสีจิ้นผิงโดยตรง โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ไทยจีนนั่นเอง!!!!

ลองนึกย้อนก็คงจำภาพครั้งท่านผู้บัญชาการทหารเรือ ไปร่วมฉลองวันกองทัพเรือจีน แล้วประธานสีจิ้นผิงให้เกียรติจัดให้ยืนแถวหน้าสุด ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของหลายประเทศยืนอยู่แถวที่ 2 ด้วยซ้ำไป และท่านประธานสีเดินกุมมือท่านผู้บัญชาการทหารเรือไม่ปล่อยก็จะเข้าใจได้ว่านั่นเพราะอะไร? มีความลึกซึ้งขนาดไหนจึงไม่ต้องห่วงว่าจะมีเงินใต้โต๊ะบนโต๊ะในเรื่องนี้!!!!

ผมนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างนี้แหละ และเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภา ย่อมทราบและเข้าใจในเรื่องนี้ ทั้งเห็นความจำเป็นในการพิทักษ์รักษาอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติอย่างแน่นอน เราอาจจะเห็นต่างกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างแต่ก็ยังเป็นคนไทยด้วยกัน  แต่เรื่องผลประโยชน์แห่งชาติและอธิปไตยนั้น ควรจะมีความคิดเห็นที่ยึดถือชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เล่นการเมืองเป็นหลักครับ
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"