ระดม60 ช่างภาพ เปิดภาพเมืองไทย " Amazing "ยิ่งกว่าเดิม


เพิ่มเพื่อน    

ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ 


    ภาพถ่ายแต่ละใบล้วนมีความหมาย ที่สามารถส่งต่อเรื่องราวของสถานที่นั้นๆ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนเมื่อได้เห็นภาพแหล่งท่องเที่ยว มันจะเป็นแรงดึงดูดและแรงบันดาลใจหลัก ในการพาตัวเองออกเดินทาง และหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เราต้องหยุดอยู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อรายได้ในทุกอาชีพ การได้เปิดมุมมองผ่านภาพถ่ายแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ นับว่าเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และพลิกฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว
    เพื่อปลุกการท่องเที่ยวให้กลับคืนมา  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงร่วมกับสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (RPST) และภาคีเครือข่ายช่างภาพ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “60 ช่างภาพ เปิดภาพเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” โดยมีจุดประสงค์เพื่อบันทึกภาพความงดงาม ในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย และคัดเลือกภาพเพื่อจัดนิทรรศการภาพถ่ายสะท้อนถึงเมืองไทยในมุมมองใหม่หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยผ่านการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ
    โดยช่างภาพทั้ง 60 คน มีทั้งศิลปินภาพถ่ายมืออาชีพจากหลากหลายสาขา ทั้งธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม สารคดี แฟชั่น สตรีต ข่าว หรืองานภาพโฆษณา  อาทิ วรนันท์ ชัชวาลทิพากร, จีรนันท์ พิตรปรีชา, วสันต์ ผึ่งประเสริฐ, สงคราม โพธิ์วิไล, ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์, วินิจ รังผึ้ง, นพดล กันบัว, อภินันท์ บัวหภักดี, นัท สุมนเตมีย์หัสชัย, บุญเนือง หรรษา, ตั้งมั่น ภูวดล, สายัณห์ ชื่นอุดมสวัสดิ์, นคเรศ ธีระคำศรี, มาเรีย ณ ไกลบ้าน ฯลฯ โดยช่างภาพ จะได้เดินทางลงพื้นที่และบันทึกภาพตามความคิดสร้างสรรค์และสไตล์ที่ตนเองถนัด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ วิถีชีวิตท้องถิ่น วัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ต่างก็สะท้อนถึงมุมมองใหม่ และจะนำมาภาพทั้งหมดมาคัดเลือกภาพเพื่อจัดแสดงเป็นนิทรรศการภาพถ่าย 120 ภาพ  ในประมาณปลายเดือนกันยายน 2563 และจัดทำเป็นหนังสือเพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว

    วินิจ รังผึ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบรรณาธิการบริหารอนุสาร อ.ส.ท. กล่าวว่า นับว่าเป็นโอกาสที่ดีเนื่องจากเป็นปีที่ทั้ง ททท. และ อสท. ครอบรอบวาระ 60 ปี และยังเป็นการดำเนินงานของโครงการเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น โดยเป็นการส่งเสริมท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นการรวมช่างภาพฝีมือเยี่ยมของเมืองไทยทั้ง 60 คน ในการมาบอกเล่ามุมมองสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไทย หลังจากนั้นภาพเหล่านี้จะถูกนำมาจัดนิทรรศการภาพถ่ายในกรุงเทพฯ และขยายไปจัดในพื้นที่ต่างๆ และจะนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้เดินทาง กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวให้คักคึกอีกด้วย

 

ดาว วาสิกสิริ  ,ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ และวินิจ รังผึ้ง


    ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในตลอด 60 ปีที่ผ่าน อสท. ได้ทำหน้าที่เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้การท่องเที่ยวไทยมาโดยตลอด เพราะสิ่งที่แรงดึงดูดให้ผู้คนสนใจออกเดินทาง ที่สำคัญภาพถ่ายที่ได้ถ่ายทอดความงดงามของเมืองไทย ดังที่ได้เห็นใน อนุสาร  อ.ส.ท.  ทุกฉบับ และในปีนี้ควรจะเป็นปีที่ที่สุด ในการท่องเที่ยวไทย เพราะตั้งแต่เดือนมกราคม นับว่าเป็นการเริ่มต้นปีได้ดี มีการการท่องเที่ยวมีความคึกคัก  จนกระทั่งในปลายเดือนมกราคม ก็เกิดวิกฤตโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวชะลอตัว และการทบหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี 


“แต่เราเชื่อว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ แน่นอน เพราะในวิกฤตก็ยังมีโอกาสในการเตรียมพร้อมที่จะเปิดประเทศเมื่อถึงเวลาอันสมควร ดังนั้นในช่วงนี้ประชาชนไทยจึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในประเทศ ภาพถ่ายจากช่างภาพทั้ง 60 คน ก็จะสามารถสื่อสารออกไปได้ว่า หลังวิกฤตโควิด-19 แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้มีการฟื้นฟูและกลับมาสวยเหมือนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือวิถีชีวิต ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวไทย” ธเนศวร์ กล่าว


ดาว วาสิกสิริ นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเสริมว่า โครงการถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวไทย เป็นเรื่องที่ท้าทายเพราะมีภาพสถานที่ท่องเที่ยยมากมายที่เราได้เห็นและสวยงามเยอะมาก จึงเป็นอีกโจทย์ที่ช่างภาพจะต้องหามุมมองใหม่แม้ว่าจะเป็นสถานที่เดิม หรือสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนั้นๆ ที่คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เคยไป  จึงมีช่างภาพในหลากหลายแนวเพื่อที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่หลากหลายและแตกต่างมากขึ้นด้วย 


ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ อุปนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  เป็นความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจการท่องเที่ยว เพราะเป็นอีกส่วนสำคัญในการนำรายได้เข้าประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่เราไม่คาดคิด ทำให้ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่ก็มีข้อดีสำหรับการท่องเที่ยวคือ ภูเขา ทะเล ป่าไม้ หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆได้หยุดพัก และฟื้นฟู เกิดความสวยงามใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง อย่าง ปากแม่น้ำชุมพร หรือ ที่ดอยตาปัง จ.ชุมพร ที่เล็งไว้ว่าจะต้องไปเก็บภาพให้ได้ เพราะบางมุมเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะไม่เคยเห็น และ ไม่ค่อยนิยมไปเที่ยว ทั้งต้นไม้ที่มีรูปทรงความสวยงาม หรือดอยที่มีทะเลหมอก ซึ่งเราอาจจะมีส่วนในการทำให้เป็นสถานที่อันซีนอีกแห่งของเมืองไทยก็ได้ 

 

มาเรีย ณ ไกลบ้าน 

มาเรีย ณ ไกลบ้าน เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 4 แสนคน บอกว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เป็น 1 ใน 60 ช่างภาพ เพราะส่วนตัวเราไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ เป็นเพียงแค่นักเดินทางที่ได้ออกไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆของเมืองไทย และเก็บภาพความประทับใจมาบอกเล่า ซึ่งเป็นความท้าทายที่เราจะต้องเก็บมุมมองใหม่ในสถานที่ท่องเที่ยว ที่คิดไว้ในใจตอนนี้คืออยากไปเก็บของ จ.แม่ฮ่องสอน เพราะมีโอกาสได้เดินทางไปบ่อย อีกทั้งยังมีอีกหลายจุดที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยได้เดินทางไป หรือบางครั้งเราเองก็ไม่เคยไปด้วยซ้ำ และอาจจะนำเสนอในจังหวัดอื่นๆด้วย จะดีมากถ้าภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้ถ่ายเผยแพร่ออกไปแล้วมีคนตามไปเที่ยว เกิดความประทับใจ เราก็จะมีความสุขมากๆ เพราะชุมชนก็จะเกิดรายได้ด้วย

 


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"