ประหารผอ.กอล์ฟ ชิงทอง-ฆ่า 'น้องไตตั้น'


เพิ่มเพื่อน    


    ประหารชีวิต "ผอ.กอล์ฟ" ฆ่าชิงทองร้านออโรร่าในห้างโรบินสันลพบุรี ศาลระบุการกระทำเป็นภัยร้ายแรงคุกคามสังคม ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ญาติผู้ตายถึงหลั่งน้ำตาขณะฟังคำพิพากษา
    เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่น, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน กรณีก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าที่ จ.ลพบุรี 
    คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2563 จำเลยซึ่งมีอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธพร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงนายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไป จนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ หรือน้องไตตั้น และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า ถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
    ในวันนี้ ศาลได้เบิกตัวนายประสิทธิชัย จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีอัยการโจทก์ ทนายจำเลย และญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาศาลร่วมกระบวนพิจารณา 
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจน ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดี ข้ออ้างที่จำเลยให้การต่อศาลว่าเป็นความคิดชั่ววูบ เพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก รับฟังไม่ขึ้น เนื่องจากมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด 
    สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิต จำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่นายธีระฉัตร ผู้เสียหายที่ 1 รปภ.ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดน ด.ช.ภาณุวิชญ์ จนเสียชีวิต ศาลถือว่าเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย
    ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบา เพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุม ประกอบกับมีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัว และให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐานหรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ก็สามารถนำสืบจนทราบได้ และคำให้การไม่ให้ประโยชน์ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุให้พิจารณาบรรเทาโทษ ทั้งนี้ คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามต่อสังคม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษตามกฎหมาย คำขอของจำเลยฟังไม่ขึ้น
    เมื่อพิจารณาโทษทั้งหมด จำเลยมีความผิดตามฟ้องหลายกรรมต่างกัน พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม รวมโทษทุกกระทง ประหารชีวิต และปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายทุกคน รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ
    หลังฟังคำพิพากษา มารดาของ ผอ.กอล์ฟถึงกับร้องไห้ซบบิดาจำเลย ส่วนจำเลยลุกขึ้นไปก้มกราบผู้เสียหายทีละคน พร้อมกับพูดว่า "ขอโทษครับ" ซึ่งผู้เสียหายก็รับไหว้ โดยจำเลยมีนัยน์ตาแดงก่ำ กล่าวว่า เสียใจกับสิ่งที่ทำไปและยอมรับในโทษที่ได้รับ
    ด้านบิดามารดาของ ด.ช.ภาณุวิชญ์ หรือน้องไตตั้น กล่าวว่า คำตัดสินวันนี้ถือว่าคืนความเป็นธรรมให้กับบุตรชายแล้ว ส่วนตัวก็ไม่ติดใจกับจำเลย แต่ยอมรับว่ายังคิดถึงลูกชายอยู่ทุกวัน ยังทำใจไม่ได้ที่จะเข้าไปใช้บริการห้างที่เกิดเหตุอีก 
    ส่วนนายอัฒพล ทองทิพย์ พี่ชาย น.ส.ธิดารัตน์ หรือกวาง ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า กล่าวว่า ทุกวันนี้ครอบครัวของตนเองยังไม่สามารถทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ รู้สึกเสียใจ ส่วนลูกสาวของน้องกวางก็ถามอยู่ทุกวันว่า “แม่กวางไปไหน” ตนก็ตอบว่า แม่กวางไปอยู่บนสวรรค์ ซึ่งเด็กคงยังไม่เข้าใจว่าสวรรค์คืออะไร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"