ตำรวจจ่อฟัน‘แอมมี่’! เตรียมตัวสาดสีคุก3ปี


เพิ่มเพื่อน    

 

เป็นเรื่อง! แอมมี่-เดอะบอตทอมบลูส์ อ่วมแน่ สน.สำราญราษฎร์รวบรวมหลักฐาน "สาดสี" ใส่ ตร. 14 นาย อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาเผยโทษคุก 3 ปี ขณะที่ "ศรีสุวรรณ" ฟันธงนอนรอหมายเรียกได้เลย ส่วนอดีตอาจารย์ มธ.ออกตัวแรง รู้สึกรำคาญพวกสันติวิธีเมืองไทยมานานแล้ว
    ความคืบหน้ากรณีนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่  สมาชิกวงดนตรีเดอะบอตทอมบลูส์ กระทำการอันเป็นที่น่ารังเกียจโดยการสาดสีน้ำเงินใส่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ พร้อมกระโดดเข้าชกเจ้าหน้าที่ระหว่างที่ผู้ต้องหาคดีเวทีชุมนุมเยาวชนปลดแอกมารายงานตัวตามหมายเรียก เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่ประชาชนถูกป้ายสีมามากแล้ว พร้อมประกาศหากยังคุกคามประชาชนอยู่ จะคุกคามคืนด้วยศิลปะเช่นนี้อีกนั้น
    ล่าสุด วันที่ 29 ส.ค.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิดฐาน "ทำให้เสียทรัพย์" โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ รวมถึงหลักฐานในภาพและคลิปวิดีโอที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ก็ปรากฏชัดเจนว่านักร้องดังเป็นคนสาดสีใส่เจ้าหน้าที่จริง และในเหตุชุลมุนนั้นมีผู้ชุมนุมพยายามถีบรั้วฝ่าแผงกั้นตำรวจอีกด้วย แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกสาดสีจนเปื้อนชุดเครื่องแบบ 14 นาย ถือเป็นความเสียหาย ทั้งนี้ ตำรวจผู้บังคับบัญชาและประชาชนรวบรวมเงินชดเชยมาให้แล้ว
       ส่วนกรณี น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว และ น.ส.เนตรนภา อำนาจส่งเสริม ผู้ต้องหาอีก 2 คน ตามหมายจับคดี ม.116 กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ตำรวจยังไม่ได้รับประสานการติดต่อขอมอบตัวแต่อย่างใด
    นายวัส ติงสมิตร อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า สาดสีใส่ผู้อื่นกับความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ 1.ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เป็นความผิดที่กระทำต่อตัวทรัพย์ กฎหมายมุ่งคุ้มครองประโยชน์จากการใช้ทรัพย์ หรือคุณค่าของทรัพย์ 2.ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่กิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358)
      3.ตัวอย่างที่เป็นการทำให้ทรัพย์เสียหาย เอาสีไปพ่นบ้านคนอื่น  4.การเอาสีไปสาดใส่ผู้อื่นจนทำให้เสื้อผ้าที่ผู้อื่นสวมอยู่เสียหาย จึงน่าจะเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 358 ได้แล้ว
    ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า การกระทำของแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้กระทั่งในกลุ่มผู้สนับสนุนม็อบนักศึกษาเอง ต่างมองว่าไม่เหมาะสม และทำให้การเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็นที่ด่างพร้อย ทำลายความชอบธรรมในการเคลื่อนไหว แต่ก็มีนักประชาธิปไตยตกรุ่น นักประชาธิปไตยลูกจ้างบางราย พยายามกล่าวอ้างว่าเป็นงานศิลปะ ประเทศอื่นเขาก็ทำกัน เพื่อหวังแก้หน้าแก้ภาพลักษณ์ที่ถูกทำลายย่อยยับเพราะการกระทำของพวกตน โดยเฉพาะภาพที่แพร่ในโซเชียลฯ เต็มไปหมดคือภาพที่นักประชาธิปไตยดวลเหล้าดวดเบียร์กันคืนก่อนปฏิบัติการ
นอนรอหมายเรียกได้เลย
         การกระทำดังกล่าวหาใช่เสรีภาพที่ชอบใช้กล่าวอ้างแล้วพากันหัวเราะสนุกสนานไม่ หากแต่มีเจตนาที่ได้สร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 13 นายที่ถูกสาดสี แม้ผู้ชุมนุมพยายามจะเรี่ยไรเงินมาให้เพื่อให้ตำรวจไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วก็ตาม แต่เป็นการกระทำที่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา อาทิ ม.138 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้นได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
         นอกจากนั้น การที่ทำให้ชุดเสื้อผ้าตำรวจเสียหาย ก็เป็นความผิดตาม ม.358 ด้วยที่ว่า “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และหรือร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 อีก
        “อีกไม่นานแอมมี่กับพวกที่หน้าระรื่นในวันนี้ ควรนอนรอรับหมายเรียกจาก สน.สำราญราษฎร์ได้เลย แล้วอย่ามาโวยวายให้อายชาวบ้านเขาว่าเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพ เพราะการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ แต่กลับไปละเมิดสิทธิผู้อื่นเยี่ยงนี้มีทางเดียวคือ ให้มันจบที่เรือนจำเท่านั้น จึงจะชอบ” นายศรีสุวรรณกล่าว
    นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวไม่เห็นด้วยกับการกระทำในลักษณะนี้ ว่าถ้าสีเข้าตาจะทำอย่างไร ตำรวจเมื่อถอดเครื่องแบบก็คือพลเมืองคนหนึ่ง เมื่อปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องทำตามที่นายสั่ง คนที่เชื่อในสันติวิธีจะอดทนอดกลั้น ใช้วิธีเจรจาต่อรอง ที่ผ่านมาก็ใช้การเจรจาต่อรองมาตลอด เหตุการณ์วันนี้แกนนำต้องชี้แจง
"เพนกวิน"ซูฮก"แอมมี่
    ขณะที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบปลดแอก มองว่าการกระทำของนักร้องหนุ่มเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยโพสต์เฟซบุ๊กว่า "คารวะพี่แอมมี่แห่งวง The Bottom Blues"
     พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวมองว่าจะไม่เกิดความรุนแรงกว่าเดิม เพราะการชุมนุมของคนกลุ่มนี้ยึดแนวสันติวิธีที่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีอาวุธหรือวาจายั่วยุ แต่การสาดสีเป็นรูปแบบประชาธิปไตยในประเทศที่เจริญแล้วเขากระทำ ผู้กระทำมองในมุมศิลปะว่าเขาถูกกล่าวร้ายป้ายสีจากเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดี จึงมาสะท้อนกลับแสดงออกด้วยการใช้สีสาดคืน เพราะการอธิบายด้วยวาจา อาจทำได้อยาก การกระทำเช่นนี้ เป็นการตอบโต้ทางความคิด เมื่อดำเนินการแล้ว ก็รับผิดชอบระดมทุนมาซื้อชุดคืนให้เจ้าหน้าที่
    "ด้วยหลักคิดของเขาไม่ใช่เรื่องความรุนแรง เป็นการแสดงออกเชิงศิลปะ นี้คือเจตนารมณ์สะท้อนสิ่งที่ถูกกระทำ แต่ถ้าเอาไม้ไปไล่ตีแบบนั้นถือเป็นความรุนแรง จึงไม่กังวลว่าการชุมนุมในอนาคตจะเกิดความรุนแรง และเจ้าหน้าที่ต้องเข้าใจวิธีคิดของเยาวชนคนรุ่นใหม่ว่า วัตถุประสงค์เพียงแค่อยากตอบโต้การถูกใส่ร้ายป้ายสี ถ้าเข้าใจตรงนี้ ก็จะไม่มีความรุนแรงต่อกัน"
         เมื่อถามว่า ตอนนี้มีกลุ่มไทยภักดีออกมาเคลื่อนไหวจัดชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่ง จะนำไปสู่การปะทะกันหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ไม่ นี่คือเสรีภาพ เป็นการสะท้อนมุมมองที่ต่างกัน และกลุ่มไทยภักดีก็ไม่ได้แสดงออกว่าจะใช้ความรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ต้องติดตามการชุมนุมว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามนั้นและจัดชุมนุมในพื้นที่ควบคุมได้ก็วางใจได้ระดับหนึ่ง
    รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่า การประท้วงบนท้องถนนอย่างสันติมีได้หลายรูปแบบและหลายระดับ การสาดสีเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้กันเยอะในโลกอารยะ สีที่ใช้ก็มีหลายแบบ ทั้งแบบผงเช็ดออกได้เลย สีน้ำซึ่งล้างออกง่าย ไปจนถึงสีน้ำมันเหนียวเหนอะหนะคนที่ไม่เห็นด้วยย่อมวิจารณ์ได้ แต่ต้องถามกลับว่าแล้วจะให้ทำยังไงอีกนอกจากนั่งพับเพียบ ลุกยืน ปราศรัยสุภาพเรียบร้อย
    "ถ้าอ้างว่าเขาเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยทำตามคำสั่งนาย ก็ต้องใช้เหตุผลเดียวกันกับทหารที่สังหารคนเสื้อแดงตรงราชประสงค์และสไนเปอร์ 6 ศพในวัดปทุมฯ นั่นเขาก็ทำตามคำสั่งนายเหมือนกัน เสื้อแดงที่วิจารณ์การสาดสีน่ะลืมแล้วหรือ"
    "รู้สึกรำคาญพวกสันติวิธีเมืองไทยมานานแล้ว นิยาม สันติวิธี ไว้คับแคบมากจนแทบจะต้องนั่งพับเพียบพนมมือ พูดรุนแรงสักหน่อยก็หาว่าเป็น "Hate Speech" ไปซะหมด เอาแต่ PC จนดูหล่อดูสวย ทำให้การต่อสู้แห้งแล้ง ไม่มีพลัง ขาดจินตนาการและความหลากหลาย กรณีวันนี้ผู้ประท้วงยังเสนอช่วยเหลือ มีทั้งซักเสื้อให้ ซื้อชุดให้ใหม่ บริจาคเงินช่วย ฯลฯ การต่อสู้ทางการเมืองไม่ใช่งานเลี้ยงปาร์ตี้สังสรรค์บนทุ่งลาเวนเดอร์" รศ.ดร.พิชิตระบุ.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"