เลื่อนซื้อเรือดำนํ้า1ปี จีนไฟเขียวหลังทร.ต่อสาย 'โจ้'ขู่รบ.ดื้อยื่นศาลล้มดีล


เพิ่มเพื่อน    


     จับตา “กมธ.วิสามัญฯ” ถกประเด็นร้อนเรือดำน้ำ 2.2 หมื่นล้านบาท สะพัดทัพเรือต่อสายจน "จีน" ยอมเลื่อนโครงการให้ 1 ปี “จุรินทร์” โยนเผือกร้อนให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ เคาะ “ยุทธพงศ์” ลั่นตามขยี้ ถามหาหลักฐานจีทูจีของจริง ฟุ้งถ้ารัฐบาลดึงดันเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ 
ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม เวลา 09.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณในการจัดซื้อดำน้ำ 2 ลำของกองทัพเรือ ในวงเงิน 22,500 ล้านบาท หลังจากอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน มีมติ 5 : 4 เห็นชอบเรื่องดังกล่าว แต่มีเสียงต่อต้านจำนวนมาก จนทำให้ กมธ.วิสามัญฯ ต้องเลื่อนเรื่องดังกล่าวมา
     ล่าสุด มีรายงานข่าวจากคณะ กมธ.วิสามัญฯ ว่าตั้งแต่เกิดกระแสสร้างความไม่สบายใจแก่หลายฝ่าย ทางกองทัพเรือได้ประสานไปยังจีนเพื่อร่วมหาทางออกอย่างดีที่สุด ซึ่งจีนได้ตอบกลับมาว่าให้เลื่อนการจัดซื้อออกไป 1 ปี โดยคาดว่าประธาน กมธ.งบประมาณฯ จะแจ้งเรื่องดังกล่าวในที่ประชุม กมธ.งบประมาณฯ  
     ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงจุดยืนของ ปชป.ในเรื่องนี้ว่า พูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องเรือดำน้ำอยู่ขั้นตอนของ กมธ.ในวาระที่ 2 ควรเป็นเรื่องของ กมธ.ไปหาข้อยุติที่ประชุมให้ได้ก่อนเอากลับเข้ามาสู่ที่ประชุมสภาใหญ่ในการพิจารณาวาระ 2 เรียงตามลำดับมาตรา และวาระที่ 3 ในขั้นตอนสุดท้าย โดยพรรคให้ความสำคัญในเรื่องของปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ และปัญหาความมั่นคงของประเทศควบคู่กัน 
     ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ยืนยันว่าจะต่อสู้ต่อไปเพื่อยับยั้งไม่ให้ซื้อ โดยต้องติดตามดูการประชุม กมธ.วิสามัญฯ ว่าจะดึงเกมเรื่องนี้ออกไปอีกหรือไม่ เพราะในรายงานของคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ มีสาระสำคัญที่ไม่กล้าให้ชี้แจง โดยเฉพาะหน้า 17 ที่ระบุว่า สัญญาการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และบันทึกการเจรจาไม่มีข้อผูกมัดในการเลื่อนการจัดซื้อเรือดำน้ำ หมายความว่าสามารถเลื่อนได้ แต่มีความพยายามบอกว่าเลื่อนไม่ได้ เพราะจะโดนค่าปรับ ซึ่งผลสรุปของคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ชัดเจนว่าไม่เกิดความเสียหาย อีกทั้งทางสภานัดประชุมวาระ 2-3 แล้วในวันที่ 21-22 ก.ย. 
     “ถ้าเรื่องนี้ยังไม่สรุปก็ต้องรอกันไป และเกรงว่าสุดท้ายถ้าพิจารณากันไม่ทันภายใน 105 วันต้องประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเดิมของรัฐบาลไปเลย หากดูไทม์ไลน์แล้วกลัวว่าจะไม่ทัน”
     นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ขอเรียกร้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่บอกว่ามีเอกสารครบถ้วน ถ้าเรื่องนี้เป็นจีทูจีต้องมีหนังสือรับมอบอำนาจฉบับเต็มจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนไปลงนาม ขอให้ พล.อ.ประวิตรนำมาแสดง แต่คิดว่าไม่มีหนังสือดังกล่าว เพราะสงสัยว่าไม่ใช่การซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริงๆ และไม่เคยเห็นรัฐบาลจีนส่งใบเสนอขายเรือดำน้ำมาให้รัฐบาลไทย และเมื่อไปดูสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก มีการจ่ายเงินให้ไปบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (CHOC) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทำไมไม่มีการโอนเงินไปให้กระทรวงการคลังหรือกระทรวงกลาโหมของจีน และบริษัทดังกล่าวก็ไม่มีใบมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน จึงมีความผิดปกติ
     “ถ้าพยายามดึงดันให้ผ่าน กมธ.งบประมาณฯ ผมจะเสนอพรรคเพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความตกไป ที่สำคัญโครงการใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เซ็นร่วมมือกันเรื่องเรือดำน้ำเลย” นายยุทธพงศ์กล่าว
     มีรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าเมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กล่าวในการลงพื้นที่พิจิตรว่า งบประมาณเรือดำน้ำกว่า 2.2 ล้านบาท สามารถช่วยเด็กในกลุ่มเปราะบางที่สุดในประเทศไทยที่ไม่มีเงินไปเรียนหนังสือได้ 6.7 แสนคน สามารถสร้างเขื่อนหรือบ่อน้ำขนาดกลาง-ขนาดเล็กได้เป็นจำนวนมาก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วมในวันนี้ได้
     นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวว่า การซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่ว่าทำไม่ได้เลย แต่ต้องไม่ซื้อตอนนี้ ตอนนี้ต่างประเทศมีโดรนใต้น้ำใช้กันแล้วในราคาร้อยล้าน เพื่อเอามายิงเรือดำน้ำราคาหมื่นล้าน ความมั่นคงในยุคสมัยนี้เปลี่ยนรูปแบบไปมากแล้ว และเมื่อตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทัพ ก็ถูกฝ่ายกองทัพโจมตีว่าเป็นพวกชังชาติ ซึ่งวันนี้ประเทศไทยยังเต็มไปด้วยถนนลูกรัง ไม่มีการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ สวัสดิการยังเข้าไม่ถึงคนส่วนใหญ่ในประเทศ โดยเฉพาะผู้ขาดโอกาสในสังคม สภาพเช่นนี้กองทัพยังคงใช้งบประมาณมหาศาลไปในการซื้ออาวุธที่ไม่มีประโยชน์ จึงขอถามว่าการตรวจสอบการใช้งบประมาณของกองทัพเป็นเรื่องชังชาติอย่างนั้นหรือ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"