ไทยภักดีชู5ข้อสู้ปลดแอกตั้งกองทุนป้องบูลลี่


เพิ่มเพื่อน    


    นิด้าโพลเผย นร.ชูสามนิ้วผูกโบสีขาวเป็นสิทธิเสรีภาพ หากไม่ทำผิดกฎหมาย เชื่อเด็กมีความคิดของตัวเอง หวั่นขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ระหว่างวัย "กลุ่มไทยภักดี" รวมตัวแสดงพลังคึกคัก ประกาศอุดมการณ์ 5 ข้อ "หมอวรงค์" ซัดนักการเมืองคือปัญหา สถาบันกษัตริย์คือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ปัดจัดม็อบชนม็อบพร้อมเดินสายให้ความรู้ทุกภูมิภาค ผุดกองทุนดูแลคนถูกคุกคาม "อุ๊ หฤทัย" ดึงสติเด็กอย่าก้าวล่วงสถาบันฯ จัดหนัก "ปิยบุตร" จตุพรชี้ไทยภักดีขวาจัดอย่างรุนแรงคล้าย "นวพล-กระทิงแดง" ยุค 6 ตุลา 
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “ชูสามนิ้วและผูกโบขาวในโรงเรียน” ระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคม 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 1,317 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการที่นักเรียนจำนวนหนึ่งรวมกลุ่มในโรงเรียน เรียกร้องเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการชูสามนิ้วและผูกโบขาว พบว่า ส่วนใหญ่  51.25% ระบุว่า เป็นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก หากไม่กระทำผิดกฎหมาย,  21.18% ระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมในสถานศึกษา,  16.17% ระบุว่าเป็นการแสดงออกเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ, 15.79% ระบุว่าเป็นการแสดงออกด้วยพลังบริสุทธิ์ของนักเรียน, 13.67% ระบุว่าเป็นแค่แฟชั่นการแสดงออกทำตามกระแสตาม social media/คำชักชวนของเพื่อน, 11.77% ระบุว่าเป็นการแสดงออกเพื่ออนาคตของประเทศ, 9.26% ระบุว่า เป็นการแสดงออกที่มีกลุ่มการเมือง/พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง,  6.99% ระบุว่าเป็นการแสดงออกเพื่อล้มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 3.80% ระบุว่าเป็นการสร้างความแตกแยกในสถานศึกษา
    ด้านการเห็นด้วยกับการที่นักเรียนจำนวนหนึ่งรวมกลุ่มในโรงเรียนเรียกร้องเชิงสัญลักษณ์ พบว่า 34.78%ระบุว่าเห็นด้วยมาก เพราะเป็นสิทธิและเสรีภาพของนักเรียน แต่ควรอยู่ในขอบเขต และครู/อาจารย์ ผู้ปกครองควรดูแลและให้คำแนะนำ, 17.23% ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย เพราะเป็นสิทธิของนักเรียน,  15.41% ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปียังไม่สมควรเกี่ยวข้องเรื่องการเมือง เนื่องจากความคิดและวุฒิภาวะที่ยังไม่มากพอ, 25.82% ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย เพราะเป็นการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม ก้าวร้าว เนื่องจากเป็นสถาบันการศึกษา และควรทำหน้าที่ของตนเอง คือเรียนหนังสือ 
    ส่วนความเชื่อว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างวัย พบว่า 29.31% ระบุว่าเชื่อมาก เพราะเด็กในยุคสมัยนี้มีความคิดเป็นของตัวเอง มีความเชื่อมั่นในตนเองค่อนข้างสูง ไม่ค่อยเชื่อผู้ใหญ่ และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากตนเอง, 28.63% ระบุว่าค่อนข้างเชื่อ เพราะอิทธิพลทางโซเชียลมีเดียส่งผลให้เด็กมีความก้าวร้าวรุนแรง นำมาซึ่งความขัดแย้ง และมีความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างวัยมากขึ้น, 14.88% ระบุว่าไม่ค่อยเชื่อ เพราะเป็นการแสดงสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของเด็กจำนวนหนึ่งเท่านั้น, 24.75% ระบุว่าไม่เชื่อเลย เพราะคนทุกวัยมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น 
    เมื่อถามถึงความเชื่อว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์ทางการเมือง พบว่า  51.33% ระบุว่าเชื่อมาก เพราะแต่ละฝ่ายต่างคิดว่าอุดมการณ์ทางการเมืองของตนเองถูกต้องเสมอ เป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย, 28.17% ระบุว่าค่อนข้างเชื่อ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นและอุดมการณ์ต่างกันอย่างชัดเจน, 8.43% ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ เพราะคนทุกวัยมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความเห็น และ 9.11% ระบุว่าไม่เชื่อเลย เพราะเป็นสิทธิและเสรีภาพของแต่ละบุคคล
นักการเมืองคือปัญหา
    วันเดียวกัน ที่อาคารกีฬาเวศน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กลุ่มไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม  ได้นัดรวมตัวสมาชิก และเครือข่ายที่มีจุดยืนเดียวกัน เพื่อทำกิจกรรมแสดงจุดยืนภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยภายในงานมีการจำหน่ายเสื้อยืดและเสื้อคอปกโลโก้รูปหัวใจลายธงชาติ
    นพ.วรงค์ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการพบปะสมาชิกของกลุ่มไทยภักดีและพี่น้องประชาชนผู้สนใจ ที่กล่าวหาว่าเราจะจัดม็อบชนม็อบ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เจตนาของกลุ่มไทยภักดีเพื่อใช้ความรู้และข้อเท็จจริงในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เราจัดเวทีในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก หลังจากนี้ก็จะเดินสายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เราเชื่อว่าวันนี้มีการปั่นกระแสสร้างข่าวเท็จหลอกลวงลูกหลานประชาชน หน้าที่ของพวกเราคือเอาความจริงกับประชาชน เราเชื่อว่าจะชนะด้วยความจริง
    "วันนี้เกิดการทำลายล้างทั้งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงเรื่องรัฐธรรมนูญด้วย ฉะนั้นการให้ความรู้ประชาชนจึงเป็นเป้าหมายหลัก พวกเรายังยืนยันว่าปัญหาของ ประเทศเกิดจากนักการเมือง ไม่ได้มีปัญหามาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันกษัตริย์คือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เกี่ยวร้อยสังคมไทยอยู่ด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นในตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เกิดจากการกระทำของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตการใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือการแบ่งแยกประชาชน เมื่อเกิดปัญหาแล้วนักการเมืองบางกลุ่มที่กระทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด กล่าวหาว่านี่คือนิติสงคราม กลายเป็นว่ามากล่าวหากฎหมายของประเทศ" 
    นพ.วรงค์กล่าวด้วยว่า วันที่ 31 ส.ค. จะไปยื่นถึงผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น ผ่านสถานทูตเวลา 10.00 น. การเรียกร้องผู้ทำลายพระมหากษัตริย์ที่อาศัยแผ่นดินโจมตีประเทศไทย ครั้งต่อไปจะจัดวันที่ 20 ก.ย. ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เราจะเดินสายไปเรื่อยๆ ให้ความรู้ทุกภูมิภาค
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานคือนายโคลเซ อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นชาวเยอรมันที่รักในสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยเป็นอย่างมาก มาพร้อมด้วยนางหทัย โคลเซ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ โดยนางหทัยเปิดเผยว่า สามีมาอยู่เมืองไทยกว่า 13 ปีแล้ว รักเมืองไทย รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ทุกวันที่ 5 ธ.ค.สามีจะไปร่วมงานที่สนามหลวงทุกปี เพราะตั้งแต่เขามาอยู่ ก็เห็นในหลวงทรงงานเพื่อให้ประชาชนคนไทยกินดีอยู่ดี มีโครงการต่างๆมากมาย ซึ่งไม่มีกษัตริย์ประเทศไหนมีเหมือนประเทศไทย จึงรัก สถาบันกษัตริย์มาก
    ด้านนางหฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ แกนนำกลุ่มไทยภักดี กล่าวถึงกรณีที่มีการบอยคอตอดีตดารานักร้องนักแสดงที่เข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส.ว่า ไม่เป็นไร เพราะน้องๆ เหล่านั้นไม่ได้รับรู้ถึงบริบทการเมืองของไทย เขาขาดช่วงขาดตอนในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์การต่อสู้กับอำนาจระบอบเผด็จการรัฐสภา ดาราศิลปินนักร้องที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้กับ กปปส. คือการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน คนทั้งโลกเขายังยอมรับ แต่เด็กๆ เหล่านั้นเขาไม่เข้าใจเราไม่ต้องไปโกรธ ไม่ต้องแบนสินค้าธุรกิจของคนไทยด้วยกัน อย่าสร้างความเกลียดชัง ขอให้ยุติทั้งหมด 
    เมื่อถามถึงกลุ่มเยาวชนนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ นางหฤทัยกล่าวว่า ขอให้เยาวชนเหล่านั้นมีสติ ค่อยๆศึกษา ทำความเข้าใจชีวิต พวกคุณกำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่  ความหวังทั้งหมดคุณจะไม่มีค่า คุณเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่กับเป็นประเทศที่มีแต่ซากปรักหักพังอย่างฮ่องกง ประเทศกัมพูชา ฉะนั้น น้องๆ ต้องค่อยๆ ตั้งสติ ค่อยๆ เรียนรู้ว่าสิ่งใดคือความสงบร่มเย็น สิ่งใดคือความมั่นคงของชาติ  
ซัดก๊วนสีส้มล้มสถาบันฯ
    ต่อมาช่วงบ่าย ก่อนที่แกนนำจะขึ้นเวที ได้มีการเปิดเพลงยามเย็น ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ และมีการชูพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 พร้อมธงตราสัญลักษณ์และธงชาติ มีการใช้สัญลักษณ์ของธงชาติมาตกแต่งร่างกาย เช่น ใช้ริบบิ้นลายธงชาติมาคาดหัว ผูกผมเป็นโบ แสดงออกถึงความจงรักภักดี
    จากนั้นหมอวรงค์ได้ขึ้นเวทีนำผู้เข้าร่วมงานยืนตรงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะประกาศจุดยืนปฏิเสธการถูกว่าจ้าง และยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มไม่ใช่สร้างม็อบชนม็อบตามที่มีการโจมตี 
    โดยนางหฤทัย ม่วงบุญศรี กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล มีการพูดถึงพระมหากษัตริย์ในการหาทางออก มาตรา 112 แต่มีการยกประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสของนักการเมืองทรราชที่ใช้วาทกรรมสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง และสำเร็จโทษพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แต่กลับเอามาเปรียบเทียบกับมาตรา 112 ที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทยได้อย่างไร นายปิยบุตรเป็นบุคคลที่หน้าด้าน สร้างความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิดในเรื่องประวัติศาสตร์ ใครที่ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์มีความเข้าใจเรื่องนี้ดีว่าทำไมประเทศไทยของเราจึงมีความสงบสุขร่มเย็น ผ่านพ้นช่วงวิกฤติการเข่นฆ่ามาได้ 
    "นายปิยบุตรเอาเพียงเสี้ยวเดียวของประวัติศาสตร์มาใส่ในความคิดคนไทยได้อย่างไร หลังวันที่ 24 มี.ค.62 สถานภาพของเขากลายเป็นนักการเมือง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เราได้เห็นเขาเปิดหน้าออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันชัดเจนว่าพรรคการเมืองนี้พยายามเข้ามามีบทบาทในรัฐสภาของประเทศไทย มีจุดมุ่งหวังในการทำลายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย"
    นางหฤทัยกล่าวต่อว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีคนหน้าด้านอย่างนายอานนท์ นำภา ที่พูดบนเวทีว่าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเพราะนายปิยบุตรไปกล่าวพาดพิงบางอย่าง แต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเพราะพวกคุณโง่ในเรื่องของกฎหมายว่าด้วยเรื่องของพรรคการเมือง แต่คุณกลับมาโยนบาปให้สถาบันฯ  โยนบาปให้กับศาลรัฐธรรมนูญ แล้วลูกหลานคนไทยก็กำลังจะเชื่อทำไมโกหกหน้าด้าน แม้แต่ในรัฐสภายังมีหน้าด้านใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จจากเว็บไซต์ของนายแอนดรูว์ ซึ่งเป็นคนที่พยายามมุ่งร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ใส่ความสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยมาโดยตลอด ส.ส.คนนี้คือนายรังสิมันต์ โรม 
    "แล้วนักการเมืองคนอื่นที่นั่งหัวโด่ในรัฐสภา คุณทำอะไรอยู่ เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยหรือเปล่า กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าจะต้องปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นักการเมืองเหล่านั้นไม่มีใครแก้ต่างให้สถาบันพระมหากษัตริย์แม้แต่คนเดียว  นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการชั่ว พวกปัญญาอ่อน ไม่ใช้เหตุและผล ใช้แต่มโน แค่แสดงความคิดเห็นของตัวเองในเรื่องการเมืองการปกครองมันก็ได้เป็นรองศาสตราจารย์แล้ว"
    แกนนำกลุ่มไทยภักดีกล่าวอีกว่า ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมายุยงปลุกปั่นให้ประเทศชาติมีความวุ่นวาย ทั้งๆ ที่แผ่น ดินนี้ทำให้ประเทศไทยร่ำรวย ช่อ พรรณิการ์ วานิช ไม่มีความยุติธรรมในหัว และนักวิชาการที่ไม่ใช้หลักเหตุและผล ขอให้สำเหนียกตัวเองด้วยว่ารับเงินมาจากองค์กรต่างชาติ มีการเสนอ ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปรียบเสมือนการปล้นสมบัติของชาติ ขอเตือนว่าอย่าทำตัวเหมือนคณะราษฎรที่เข้ามาปล้นสมบัติของราชวงศ์จักรี  
    นอกจากนี้ อุ๊ หฤทัย ยังกล่าวถึงโจชัว หว่อง ที่ดูถูกประเทศไทยมากเกินไป ที่ประกาศปลุกระดมเยาวชนปลดแอกในฮ่องกง ไต้หวัน และในประเทศไทย และมีการประกาศกฎหมายความมั่นคง จากนี้โจชัว หว่อง คงมีอนาคตที่ยากลำบาก   
     จากนั้น เวลา 15.00 น. นายคชโยธี เฉียบแหลม แกนนำกลุ่ม เยาวชนช่วยชาติ อายุ 15 ปี ขึ้นร้องเพลงคนดีไม่มีวันตาย พร้อมกล่าวระหว่างร้องเพลงว่า เมื่อไหร่พวกชังชาติจะหมดไป เมื่อไหร่คนหนักแผ่นดินจะหมดไป และหากประเทศไทยยังมีพวกชังชาติ ประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร สร้างความชื่นชอบให้ผู้มาร่วมชุมนุมอย่างมาก จน นพ.วรงค์ได้ขึ้นมาสวมเสื้อของกลุ่มไทยภักดีให้ 
ประกาศอุดมการณ์ 5 ข้อ
    จากนั้นนายคชโยธีกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมพร้อมยอมตายเพื่อชาติ จะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีประเทศไทย ตอนนี้มีพวกจังไรออกมาทำลายบ้านเมือง ออกมาทำลายเศรษฐกิจ จึงขอให้ทุกคนหนักแน่น รักชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบันฯ เพื่อให้เด็กรุ่นหลังได้เข้าใจ คุณไม่ไปวิจารณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์บ้างล่ะ โกงจำนำข้าว แล้วหนี้กยศ.จ่ายหมดรึยัง" พร้อมยืนยันด้วยว่าไม่มีใครจ้างตนมาชุมนุม มาชุมนุมด้วยความจงรักภักดี 
    ทั้งนี้ บนเวทีได้มีแกนนำสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีแสดงออกถึงการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยนายวิชัย ล้ำสุทธิ เลขาธิการกลุ่มไทยภักดี ได้ประกาศอุดมการณ์ 5 ข้อ 1.ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.สืบสานรากเหง้าเอกลักษณ์อัตลักษณ์ความเป็นไทย 3.อำนาจควบคุมตรวจสอบทุนผูกขาด 4.เสริมสร้างความเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในการประกอบอาชีพของทุกชนชั้น และ 5.สร้างรากฐานความมั่งคั่งของชาติอย่างมั่นคงด้วยระบบเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง พร้อมเรียกร้อง 3 ข้อคือ 1.ต้องไม่ยุบสภา 2.ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกกลุ่มที่ก้าวล่วงสถาบันฯ และ 3.ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560
    ในเวลา 17.47 น. นพ.วรงค์ได้ขึ้นเวทีปราศรัย จากนั้นได้ย้ำอุดมการณ์ 5 ข้ออีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าไม่มีแนวคิดจัดม็อบชนม็อบ แต่เราจะใช้ความจริงในการต่อสู้ และเชื่อว่าชัยชนะต้องเป็นของเรา เพราะเราอยู่บนความเป็นจริง พร้อมเล่าเรื่องย้อนไปถึงรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อนจะมาถึงการเลือกตั้งในปี 2562 ต่อด้วยการโหวตเลือกนายกฯ โดยได้มีการปราศรัยถึงอดีตพรรคการเมือง และพฤติการณ์ต่างๆ ก่อน รวมถึงการชุมนุมของนิสิตนักศึกษา
โดยยังได้เรียกร้อง 3 ข้อคือ 1.อธิการบดีมหาวิทยาลัยต้องปิดพื้นที่ และใช้วิจารณญาณในการดูแล 2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต้องเรียกผู้บริหารระดับสูงและระดับจังหวัดมอบนโยบายเพื่อดูแลนักเรียน และ 3.ขอให้รัฐบาลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
    “กลุ่มยังจัดตั้งกองทุนต่อสู้ช่วยเหลือผู้ถูกคุกคาม ซึ่ง นพ.วรงค์ยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าจะมีการรายงานต่อประชาชนทุกเดือนเพื่อความโปร่งใส พร้อมรับสมัครทนายความอาสาทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุกคาม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ เชื่อว่าเราสามารถทำให้มหาอำนาจเกรงใจประเทศไทยได้ ให้เรารักสามัคคีกัน และต้องรักแผ่นดินไทย” นพ.วรงค์กล่าว ก่อนร่วมร้องเพลงชาติและจบกิจกรรมในเวลา 18.50 น. 
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามการปราศรัยของกลุ่มไทยภักดี พูดได้เลยว่าเป็นกลุ่มขวาจัดอย่างรุนแรงที่สุด เพราะเนื้อหาต่างๆ หากนึกถึงบรรยากาศปี 2519 คล้ายๆ กับกลุ่มนวพลรวมกับกลุ่มแม่บ้านกองทัพบก กลุ่มกระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้านมาผูกรวมกัน ทุกฝ่ายต้องไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือของตนเอง และไว้ทำลายฝ่ายตรงกันข้าม เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นักการเมืองหรือใครก็ตามไม่มีความดีเป็นของตัวเอง และสุดท้ายสู้กันไม่ได้ระหว่างตัวเองกับคู่ต่อสู้ ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดคือไปชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพวกล้มสถาบันฯ และตัวเองก็กลายเป็นผู้จงรักภักดี บรรยากาศบ้านเมืองก่อนหน้านี้มักจะเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด 
    นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ถ้าเกิดรัฐประหารหรือเหตุพิสดารทางการเมืองขึ้น ให้ชี้นิ้วไปที่คนเซ็น ถ้าคุณไม่เซ็นทหารกลายเป็นกบฏ แต่ถ้าคุณเซ็นคุณเป็นกบฏต่อประชาชน".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"