ฟันคลินิกดูดไขมัน โฆษณาไร้อนุญาต


เพิ่มเพื่อน    


    สบส.นำตำรวจบุกตรวจคลินิกศัลยกรรมดูดไขมันเสริมอกสาวเสียชีวิตปริศนา พบโฆษณาโดยไม่ขออนุญาต มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 2 หมื่น เตรียมส่งหลักฐานให้แพทยสภาพิจารณาก่อนฟันวินัยและอาญา ด้านสามีผู้ตายเผยได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์เสนอเยียวยา 2 ล้าน แต่ขอรอผลชันสูตรสาเหตุการตายให้แน่ชัดก่อน
    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 สิงหาคมนี้ ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.จุมพล คณานุรักษ์ ผกก.สน.บางโพงพาง นำเจ้าหน้าที่ สบส. และตำรวจ สน.บางโพงพาง เข้าตรวจสอบคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามแห่งหนึ่งริมถนนพระราม 3 ช่องนนทรี ที่ตกเป็นข่าวดูดไขมันหญิงคนหนึ่งเพื่อฉีดเสริมหน้าอกแล้วมีอาการเจ็บป่วย เสียชีวิต จนมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.บางโพงพาง โดยใช้เวลาตรวจสอบนานประมาณ 1 ชั่วโมง
    ทันตแพทย์อาคมกล่าวว่า จากการตรวจสอบคลินิกดังกล่าวพบว่าได้เปิดทำการถูกต้องตามกฎหมาย มีเครื่องมือ ยา เวชภัณฑ์ ห้องผ่าตัดเล็ก และอุปกรณ์กู้ชีพพร้อม ซึ่งแพทย์ผู้ผ่าตัดเป็นแพทย์ที่มิได้อยู่ประจำ แต่หมุนเวียนมารักษา สามารถผ่าตัดได้จริง แต่ไม่ได้ยื่นใบ สพ.6 (หนังสือแสดงความจำนงเป็นผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของผู้ประกอบวิชาชีพ) กับ สบส.ตามระเบียบ นอกจากนี้ยังพบว่าการโฆษณาฉีดไขมันของคลินิกแห่งนี้ไม่ได้ขออนุญาตกับ สบส. ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 3 ปี จากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานให้แพทย์สภาตรวจสอบตัวแพทย์ รวมถึงคลินิก ก่อนดำเนินการทางวินัยและอาญาต่อไป
    รองอธิบดี สบส.กล่าวว่า ขั้นตอนในการดูดไขมันนั้นต้องตรวจสอบว่าร่างกายมีไขมันส่วนใดเยอะ เช่น ต้นขาหรือหน้าท้อง โดยแพทย์จะดูดไขมันออกมาเพื่อแยกชั้น ก่อนฉีดกลับเข้าไปในจุดที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ หากฉีดในจุดที่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อนอาจเกิดการติดเชื้อได้จากอุปกรณ์หรือสาเหตุอื่น แต่หากไม่ติดเชื้อ ไขมันอาจหลุดรอดเข้าไปในกระแสเลือดจนเกิดการอุดตันและเสียชีวิตได้
    ด้าน พ.ต.อ.จุมพลกล่าวว่า เรื่องทางคดีขณะนี้ตำรวจกำลังรอรวบรวมพยานหลักฐานบางส่วนจาก สบส. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เบื้องต้นได้ประสาน สน.ลุมพินี ท้องที่ที่คนไข้เสียชีวิต เพื่อส่งศพไปผ่าชันสูตรซ้ำอีกครั้งที่นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ ตามความประสงค์ของญาติผู้เสียชีวิต
    วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ นายพลชนะ จันทร์เกษม อายุ 29 ปี สามี น.ส.ศรัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ที่เสียชีวิตหลังทำศัลยกรรมดูดไขมันและเสริมทรวงอก พร้อมกับ น.ส กุสุมา พี่สาวผู้ตาย เดินทางไปรับศพ น.ส.ศรัญญา โดยนายพลชนะเปิดเผยว่า ทางครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งครั้งแรกแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้ผ่าชันสูตร พบติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดศพ และขอให้ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ ส่งศพมาที่นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
    "ที่ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะก่อนทำศัลยกรรม แฟนยังมีสุขภาพแข็งแรงดี แต่หลังจากทำศัลยกรรมก็มีอาการทันที รวมถึงตั้งข้อสังเกตของเจ้าหน้าที่คลินิก ก่อนไปโรงพยาบาลก็มีเจ้าหน้าที่ 3 คนที่มารับ และไม่เห็นแพทย์ที่ทำการฉีดยาแก้ปวดและให้น้ำเกลือ ก่อนจะรับกลับมาบ้าน กระทั่งมาเสียชีวิต ซึ่งผมเองไม่มั่นใจว่าขั้นตอนดังกล่าวต้องผ่านการทำของแพทย์หรือไม่ หรือทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่สามารถทำกันเองได้" นายพลชนะกล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุทางคลินิกติดต่อมาเพื่อจะช่วยเหลือหรือไม่ นายพลชนะกล่าวว่า มีโทรศัพท์อ้างว่ามาจากคลินิก เสนอเงินให้ 2 ล้านบาท เป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าคอร์สที่เสียไป และค่าทำศพ ซึ่งตนยังไม่ตอบรับ เพราะอยากจะรู้ผลชันสูตรที่แท้จริงก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังไม่สามารถนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลได้ เนื่องจากผลชันสูตรยังไม่ออก ทำให้ต้องฝากศพไว้ที่ รพ.ตำรวจก่อนจนกว่าจะได้รับรายงานผลชันสูตรอย่างเป็นทางการ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"