ฆ่าปาดคอหญิงชรา คาร้านเสริมสวย


เพิ่มเพื่อน    


    ฆ่าสยองกลางเมืองพิษณุโลก คนร้ายบุกร้านเสริมสวย ปาดคอหญิงชราวัย 74 ปีทิ้งศพในห้องน้ำ ชิงทองเกือบ 2 บาทหลบหนี ลูกชายเผยแม่อยู่คนเดียวหลังพ่อตาย ชวนไปอยู่ด้วยก็ไม่ไป ซ้ำยังทำงานเปิดรับคนแปลกหน้า พยานระบุเห็นหญิงคล้ายทอมเข้าไปในร้านและมีเสียงคนทะเลาะกัน ตำรวจระดมล่า รับเป็นคดีสะเทือนขวัญ
    เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 กันยายนนี้ ร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุฆาตกรรมภายในบ้านเลขที่ 68/21 ถนนเอกาทศรฐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ
    ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ เปิดเป็นร้านเสริมสวยชื่อร้านช่อทิพย์ ใกล้เคียงกับห้างสรรพสินค้าท็อปแลนด์พลาซ่า บริเวณห้องน้ำพบศพนางบัญญัติ กัลป์ทอง อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน นอนคว่ำหน้า ที่ลำคอถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกจนหลอดลมขาด โดยมีร่องรอยการถูกปาดคอหลายครั้งจนเลือดไหลนองเต็มห้องน้ำ ตรวจสอบพบทรัพย์สินของผู้ตายหายไป  ได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์ และแหวนอีก 1 วง เบื้องต้นทราบว่ามีรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยมาจอดอยู่หน้าบ้านพักในช่วงเช้าวันเดียวกัน 
    นางมนัส กัลป์ทอง อายุ 46 ปี ลูกสะใภ้นางบัญญัติ ผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว ช่วงเวลาประมาณ 11.40 น. ตนมาหาแม่ตามปกติก็เอะใจเพราะประตูหน้าบ้านเปิดอยู่ เข้าไปดูก็เห็นแม่นอนอยู่ตรงห้องน้ำ ทีแรกคิดว่าเป็นลมจึงโทร.แจ้ง 1669 เข้ามาตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นฆาตกรรม 
    ด้านนายสรายุทธ กัลป์ทอง อายุ 51 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พ่อของตนเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากนั้นแม่ก็ขออยู่คนเดียวมาตลอด โดยมีตนและน้องชาย เปิดร้ายขายของอยู่เยื้องกับบ้านแม่คอยดูแล ตนเพิ่งเจอแม่เมื่อคืนตอน 3 ทุ่ม เพราะทุกๆ วันตนจะเป็นคนมาปิดบ้านให้แม่ และสายวันรุ่งขึ้นก็จะเข้ามาอยู่กับแม่ จนวันนี้น้องสะใภ้โทร.ตามว่าแม่โดนฆ่าตาย หัวใจแทบสลาย ทำไมตนไม่มาอยู่กับแม่ให้ไวกว่านี้ เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาดูข่าวแบบนี้มาตลอด ไม่คิดว่าวันนี้หนึ่งจะมาเกิดขึ้นกับแม่ตัวเอง เมื่อก่อนบ้านนี้เคยเปิดเป็นร้านเสริมสวย แต่พอพ่อเสียตนก็บอกว่าอยากให้แม่พัก ไม่ให้ทำงานอีกแล้ว แต่แม่ก็ยังแอบทำผมให้กับลูกค้าอยู่บ้าง เคยเตือนหลายครั้ง เพราะลูกค้าแม่บางทีก็เป็นขาจรที่มาพักโรงแรม ไม่อยากให้แม่ทำ เพราะเราไม่รู้จักว่าใครเป็นใคร เคยขอให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่แม่ไม่ยอม จนมาเกิดเรื่องจนได้
    นายเพชร เรือนชม อายุ 48 ปี เปิดร้านซ่อมรองเท้าอยู่ข้างบ้านผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 9 โมงเช้ามาเปิดร้าน เห็นรถจักรยานยนต์น่าจะเป็นสกู๊ปปี้ สีแดง จอดอยู่หน้าร้าน ไม่ได้เอะใจอะไร เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาก่อนที่จะหายกลับเข้าไป รูปร่างท้วม อายุประมาณ 30 ปี ลักษณะคล้ายทอม 
    ขณะที่ น.ส.อ้อย พัฒนาวรกุล อายุ 47 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ประมาณ 9 โมงครึ่ง ถึงประมาณ 10 โมง ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน มีเสียงมึง-กูดังอยู่พักใหญ่ ตนคิดว่าลูกหลานทะเลาะกันจนมาทราบเรื่องว่าคุณยายเสียชีวิตแล้ว
    พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาร่องรอยคนร้าย ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งชิงทรัพย์ เหตุส่วนตัวทะเลาะวิวาท ขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเพื่อหาข้อมูลประกอบทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม จะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ เพราะคดีนี้เป็นคดีอุกอาจ สะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก มั่นใจจะสามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"