อานนท์-ไมค์ยอมนอนคุก ปลุกปชช.ไปเอาคืน19กย.


เพิ่มเพื่อน    

 "อานนท์-ไมค์" ติดคุกสมใจ หลังศาลสั่งถอนประกัน เหตุทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัว แต่ทั้งคู่ไม่ยื่นขอประกันตัวอีก ยอมถูกส่งเข้าเรือนจำ "อานนท์" โพสต์ "การขังผมในวันนี้ เป็นใบเสร็จของการคุกคาม" พร้อมปลุกประชาชน 19 ก.ย.ไปเอาคืน "ศาลอุทธรณ์" ยืนปรับ “เพนกวิน-บอล” คนละ 2 พันชุมนุมหน้ากองทัพบก

    ที่ศาลอาญา วันที่ 3 ก.ย. ศาลนัดไต่สวนคดีเพิกถอนประกัน นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำคณะประชาชนปลดแอก และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย สองผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่เป็นการกระทำในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนฯ, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุม ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดฯ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค กระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ, ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคด้านความปลอดภัย หรือความไม่สะดวกในการจราจรฯ, ร่วมกันวางหรือแขวนสิ่งหนึ่งสิ่งใดหรือกระทำด้วยประการใดในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร, ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
    หลังพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลถอนประกันนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ เนื่องจากผิดเงื่อนไขประกัน ที่ทั้งสองยังคงขึ้นปราศรัยที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ในลักษณะที่อาจเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับการปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 โดยก่อนหน้านี้ ศาลอนุญาตฝากขังและปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2563 กำหนดวงเงินประกันคนละ 1 แสนบาท ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทำที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
    ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยนำแผงเหล็กมาวางกั้น พร้อมตั้งจุดคัดกรอง ซึ่งสื่อมวลชนสามารถติดตามถ่ายภาพได้นอกแนวแผงเหล็กกั้น ส่วนกลุ่มมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจเพียงเล็กน้อย โดยให้ติดตามสถานการณ์อยู่ด้านนอกแนวแผงเหล็กกั้นด้วยเช่นกัน
    โดยที่ห้องพิจารณา 714 ศาลไต่สวนคดีเพิกถอนประกันนายอานนท์ ซึ่งมี พ.ต.ท.หญิงจิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ผู้ร้อง กับนายอานนท์ ผู้คัดค้านขึ้นเบิกความ โดยพ.ต.ท.หญิงจิตติมาเบิกความถึงการร้องขอถอนประกัน เพราะหลังจากนายอานนท์ได้รับการประกันตัววันที่ 8 ส.ค. ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รับรายงานว่า วันที่ 9 ส.ค.2563 นายอานนท์เข้าร่วมการชุมนุมปราศรัยที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ หัวข้อการขยายอำนาจของสถาบันกษัตริย์ที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตย ในกิจกรรมชุมนุมเชียงใหม่ #คณะประชาชนปลดแอก และวันที่ 10 ส.ค.2563 นายอานนท์ปราศรัยที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นเหตุให้ สภ.คลองหลวง ขอศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ นายอานนท์ถูกจับเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2563 ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี
    ส่วนนายอานนท์เบิกความถึงการร่วมชุมนุมทั้ง 2 แห่ง คำปราศรัยมีสาระสำคัญทำนองเดียวกับคำถอดเทป กรณีถูกหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อมีการยื่นฝากขังครั้งแรกได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราวโดยศาลไม่กำหนดเงื่อนไข เนื้อหาปราศรัยเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ อยากเห็นสังคมอยู่ในร่องรอยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตั้งแต่การรัฐประหาร มีการออกกฎหมายขยายพระราชอำนาจ ไม่สอดคล้องการปกครองระบอบประชาธิปไตย จึงมีข้อเสนอให้แก้ไขด้วยวิธีการทางรัฐสภา ข้อความปราศรัยกล่าวตามความเป็นจริงตรงไปตรงมา
    ด้านนายภาณุพงศ์ ขึ้นไต่สวนเพิกถอนประกันที่ห้องพิจารณา 712 จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ ว่ามีการชุมนุมใหญ่แน่นอน ตนรับปากว่าจะไป ไม่ว่ามีการชุมนุมที่ใดถ้าเชิญเราพร้อมที่จะไปทุกที่ เป็นเรื่องที่เราสามารถแสดงออกได้  เป็นบรรทัดฐานที่ประชาชนทุกคนแสดงออกได้
    ต่อมาเวลา 16.00 น. ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานชั้นไต่สวนและคำคัดค้านแล้วเห็นว่ามีพฤติการณ์หลังปล่อยตัวแล้ว นายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหา ยอมรับว่าไปปราศรัยที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันที่ 10 ส.ค.63 จริง แต่จำเนื้อหาไม่ได้ ประกอบกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจากศาลจังหวัดธัญบุรีในข้อเดียวกันอีกด้วย พยานหลักฐานของผู้ร้องจึงเพียงพอและเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำจนอาจจะก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เห็นว่าผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวของศาลจริง
    เมื่อพิเคราะห์อายุและอาชีพการงานของผู้ต้องหาแล้วจึงให้โอกาสกลับตัว ศาลจึงใช้ดุลยพินิจ เพิ่มวงเงินประกันจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และให้รายงานตัวทุก 15 วัน นับตั้งแต่วันนี้ หากกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวอีก ศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัวต่อไป อย่างไรก็ตาม นายภาณุพงศ์ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว
    เวลา 16.25 น. ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกันตัวนายอานนท์ โดยเห็นว่าจำเลยทำผิดเงื่อนไขประกันตัว เนื่องจากการขึ้นปราศรัยที่เชียงใหม่ และที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการกระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคดีม็อบเยาวชนปลดแอก แต่ศาลไม่ตัดสิทธิ์ในการยื่นประกันใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม นายอานนท์ไม่ได้ขอยื่นประกันเช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่ต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำนอนคุก
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลสั่งถอนประกันตัว นายอานนท์ได้โพสต์ข้อความที่เขียนไว้บนแผ่นกระดาษว่า "ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมดเพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 กันยายนนี้ ช่วยยืนยันที่ว่า เรามาถูกทาง เชื่อมั่นในทุกคน 3 ก.ย.63 ณ ศาลอาญา ให้การขังผมในวันนี้ เป็นใบเสร็จของการคุกคามประชาชน 19 ก.ย. 63 ไปเอาคืน"
    วันเดียวกัน ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ330/2563 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (แขวงดุสิต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ กับ นายธนวัฒน์ หรือ บอล วงค์ไชย สองนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งทั้งสองได้ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะที่บริเวณเกาะกลางถนน หน้ากองบัญชาการทหารบก ถ.ราชดำเนินนอก กทม.
    โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 มาตรา 10 วรรคหนึ่ง, 14, 28  เนื่องจากไม่มีการปิดกั้นสถานที่ให้คนเข้าร่วมชุมนุม ให้ปรับเงินคนละ 2,000 บาท ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ หลังตรวจสำนวนศาลอุทธรณ์วินิจฉัยจำเลยทั้งสองจัดการชุมนุมทำกิจกรรมอันเป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดตามฟ้อง อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นสาระแก่คดีที่จะต้องวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดฐานจัดการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน สั่งปรับคนละ 2,000 บาท.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"