ผุดศาลสีเขียวทั่วปท.ใช้ธรรมชาติขัดเกลาความสงบจิตใจ


เพิ่มเพื่อน    

6 ก.ย.63-​นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินนโยบายสิ่งแวดล้อมของศาลยุติธรรมว่า จากสภาพปัญหาที่สภาพแวดล้อมถูกทำลาย มี ภาวะวิกฤตทางสิ่งแวดล้อม น้ำท่วมน้ำแล้ง ไฟไหม้ป่า ควันพิษที่เกิดทุกปี ศาลมีส่วนในการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมได้มีคำพิพากาไปในหลายคดี แต่เราพบว่าหลังมีคำพิพากษาแล้ว การบังคับใช้ให้เป็นไปตามกฎหมายหรือการพิพากษาไม่มีประสิทธิภาพ จึงได้ตั้งคณะทำงานพัฒนาวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมและศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อม มีอำนาจหน้าที่ศึกษาความเป็นไปได้ในการพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อม และรวมรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทางวิชาการ จนได้ร่างรายละเอียดพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีวิธีพิจารณาที่ออกแบบพิเศษพิจารณาเร่งรัด สภาพการบังคับใช้ที่ยืดหยุ่นรวดเร็ว มีระบบการบังคับใช้คำพิพากษาให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยได้บทเรียนจากในอดีตที่เกิดขึ้นมาออกแบบ จนได้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมประสานกับสภาปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยกันผลักดันเสนอ ครม.และรัฐสภาเพื่ออกบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ในส่วนของการก่อสร้างสถาบันอบรมพัฒนาข้าราชการตุลาการแห่งใหม่ ที่สีคิ้ว จ.นครราชสีมา นั้นการก่อสร้างเราจะดูในส่วนนี้ที่เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ เรื่องนี้ต้องขอบคุณประชาชนที่ห่วงใย แสดงออกไม่พอใจในการก่อสร้างที่ไปทำลายสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา ศาลก็รับฟังความเห็นของประชาชนมาด้วยความเต็มใจในการที่เราจะมาแก้ปัญหานี้ร่วมกัน โดยเราจะขึ้นทะเบียนไม่ตัดต้นไม้แล้ว ยังมีการส่งเสริมให้มีการปลูกต้นไม้ขยายพื้นที่สีเขียวในแต่ละศาล ใครทำได้มากน้อยแค่ไหนใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้มากที่สุดโดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เขาดูแลสวนป่าหรือหน่วยงานที่มีพันธุ์กล้าไม้ต่างๆ เพื่อนำมาสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับศาล 

ในสถาบันฯที่จะสร้างใหม่นั้น ก็แบ่งเป็นสถาบันฝึกอบรม ส่วนที่เหลือกำหนดให้ปลูกป่าเต็มพื้นที่ เรามั่นใจว่าปลูกแล้วสามารถบำรุงรักษาได้ มีเจ้าที่คอยรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ปลูกตามกระแสแล้วทิ้งไป ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนภายใน 5 ปี อาจได้เห็นเป็นรูปร่าง ตอนนี้จากที่เราประสานจากกรมป่าไม้หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เพาะกล้าไม้ ก็จะได้ยางนา ไม้ป่าเบญพรรณ ไม้ป่าอื่นๆ การปลูกป่าครั้งนี้ไม่ใช่ปลูกแบบมั่วๆ มีองค์ความรู้จากนักวิชาการป่าไม้มาช่วย เพื่อให้เกิความสมดุลในป่าพรรณพืชที่อยู่ด้วยกัน 

"คิดว่าจะอาศัยพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นที่เทิดพระเกียรติพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ เราก็จะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นที่ให้คนเข้าไปชื่นชมพระบารมี ในเบื้องต้นเราอาจจะเปิดโครงการในการระดมศาลใกล้ๆ มาช่วยปลูกต้นไม้ในพื้นที่จำนวน 7 ไร่ โดยมีผู้พิพากษาในภาค 3, ส่วนกลาง และบุคคลที่เกี่ยวข้องจะมาร่วมแรงเป็นหนึ่งใจเดียวกันในการปลูก ในวันที่ 17 ก.ย.นี้"

นายไสลเกษ กล่าวว่า สถาบันฝึกอบรมเป็นส่วนสำคัญในการจัดการบริหาร เรามีสถาบันฝึกอบรมหลักให้แก่ประชาชนอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก คือสถาบันเดิม หลักสูตรบางส่วนก็คงแยกไปสถาบันฝึกสถานที่สอง เพราะข้าราชการศาลไม่ได้มีแต่ในกรุงเทพฯ ยังมีที่กระจายอยู่ตามต่างจังหวัด เชื่อว่าหากสถานที่ตรงนี้ถ้าเสร็จแล้วน่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย เราจะเติมจิตสำนึกในเรื่องของการรักธรรมชาติ จะทำให้บุคลากรมีความสมบูรณ์มากขึ้น บุคลกรเราต้องมีพัฒนาทางจริยธรรม มีความรักความเป็นธรรม มีความสงบนิ่งในใจ 

ผู้พิพากษาต้องเป็นผู้ที่อดทนที่ต้องรับฟังคนอื่น ดังนั้นหลักสูตรในใจคือการมีจิตสาธารณะการมีสมาธิ ต้องพัฒนาจิตใจที่ต้องมีความอดทนอดกลั้น รับฟังอะไรได้เยอะ เพราะการเป็นศาลต้องรับฟัง ขณะเดียวกันต้องมีความเมตตา ปัจจุบันนี้สังคมมีสิ่งเร้าจากโซเชียลมีเดีย ทำให้หลายคนหมดความอดทน จึงต้องดึงกลับมาสร้างเสริมภาวะทางจิตใจให้ทุกคน โดยเฉพาะหน่วยงานในศาลพัฒนาจิตใจให้มากขึ้น หน่วยฝึกอบรมที่กำลังจะก่อสร้างจะมีธรรมชาติ มีความเขียวมันสอดคล้องกับการพัฒนา ยกระดับจิตใจ

"ผมเชื่อว่าในยุคผู้บริหารศาลยุคต่อไป คงได้พิเคราะห์กันว่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์คุ้มค่า ศาลมีศักยภาพพอที่จะทำได้หรือไม่ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมก็คงเดินต่อไปข้างหน้า การสิ้นสุดวาระบริหารของตนไม่ได้แปลว่าเป็นการสิ้นสุดวาระของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา เพราะแต่ละคนมีบทบาทอยู่ในแผนกกฎหมายสิ่งแวดล้อมในศาลทุกระดับ เชื่อว่าจะเดินต่อไปข้างหน้า บทบาทของศาลในจุดนี้จะต้องผสมผสานระหว่างการบังคับใช้กฎหมายที่มีจิตบริการสาธารณะด้วย ถ้าเราสร้างบุคลากรของเรา ไม่ว่าจะเป็นศาลหรือธุรการมีจิตสาธารณะ ก็จะทำให้ศาลของเราเป็นสีเขียว มีความยุติธรรมที่ยั่งยืนทางด้านจริยธรรม"
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"