อันซู ฟาตี กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของ สเปน ที่ทำประตูได้ในเกมทีมชาติ หลังนำ ทัพกระทิงดุ ไล่ถล่ม ยูเครน 4-0 ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับ อีก 311 วัน ขณะที่ เฟร์ราน ตอร์เรส เด็กใหม่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำประตูแรกในทีมชาติ ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์
    อันซู ฟาตี เรียกจุดโทษให้ทีม และเป็นประตูขึ้นนำจากการสังหารของ แซร์โจ้ รามอส ช่วยทีม"กระทิงดุ" สเปน ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม หลังเริ่มเล่นมาได้แค่ 3 นาทีเท่านั้น จากนั้น ปราการหลังตัวเก๋าจาก เรอัล มดริด ยังบวกลูกสองของตัวเองในเกมนี้ ด้วยลูกโหม่ในนาทีที่ 29
    สองประตูในเกมนี้ของ รามอส ทำให้เขามีสถิติทำสกอร์ให้ทีมชาติไปแล้ว 23 ลูก แซงหน้า ดาเนียล พาสซาเรลล่า อดีตนักเตะอาร์เจนติน่า ที่เคยครองสถิติกองหลังทำประตูได้มากสุดในเกมทีมชาติ
    แต่ไฮไลท์ของค่ำคืนนี้กลายเป็นฟอร์มการเล่นของ ฟาตี ที่กดประตูแรกให้ทีมชาติ นาทีที่ 33 ก่อนจะยิงให้ทีมได้ลุ้นอีกหลายครั้งหลังจากนั้น
    เฟร์ราน ตอร์เรสส ตัวสำรอง วัย 20 โชว์หวดวอลเลย์เข้าไปตุงตาข่ายเป็นลูกปิดท้าย ก่อนหมดเวลา 6 นาที เป็นประตูแรกของตัวเขาเองในนามทีมชาติ  เกมนี้สเปนยังใช้นักเตะดาวรุ่งอีกหลายคน รวมถึงสองกองหลัง เอริค การ์เซีย กับ แซร์ฆิโอ เรกีลอน ประเดิมแมทช์แรกให้ทีมชาติ
    "ผมตร้องขอแสดงความยินดีกับอันซู เขาเป็นผู้เล่นที่ยังอายุน้อยมากๆ ที่ข่วยเพิ่มความสดให้กับทีมเราได้เป็นอย่างดี รวมถึงความกระตือรือร้นในแบบที่เราต้องการ มันยอดมากที่ สเปน มีหลายเลือดใหม่ถ่ายเข้ามาหลายคน เรามีความสุขมากที่มีผู้เล่นอย่างเขา" รามอส กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมวัยทีน
    "แต่มันไม่ใช่แค่เขา มันคือผู้เล่่นทุกคนที่ได้พิสูจน์ตัวเองในวันนี้ นี่เป็นช่วงเวลาของพวกเขา และเราหวังว่าพวกเขาจะไปถึงระดับท็อปเลเวลได้"
    "ผลการแข่งขันที่ออกมาถือว่าสมควรอย่างยิ่ง เราเก็บบอลได้ดี เราเล่นได้อย่างแข็งแกร่งทีเดียวในแนวรับ และเปิดเกมรุกได้อย่างดุดัน กดดันพวกเขาได้ทั่งทั้งสนาม และเอาชนะได้หมดในการเข้าแย่งบอลในแต่ละครั้ง"
    ชัยชนะนัดนี้ ช่วยให้ สเปน รั้งตำแหน่งท็อปของ ลีก เอ กลุ่ม 4 มี 4 คะแนนจาก 2 เกม
    สรุปผลการแข่งขันศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สเปน ชนะ ยูเครน 4-0, เซอร์เบีย เสมอ ตุรกี 0-0, สวิตเซอร์แลนด์ เสมอ เยอรมนี 1-1, โคโซโว แพ้ กรีซ 1-2, มอลต้า เสมอ ลัตเวีย -1-1, ฮังการี แพ้ รัสเซีย 2-3, สโลวีเนีย ชนะ มอลโดวา 1-0, ไอร์แลนด์ แพ้ ฟินแลนด์ 0-1, เวลส์ ชนะ บัลแกเรีย 1-0, อันดอร์ร่า แพ้ ฟาโร ไอส์แลนด์ส 0-1