"เอนก"หนุนมหา'ลัย ผลิตนวัตกรรม สินค้า ให้คนไทยใช้เอง ชี้ถึงเวลาเลิกนิสัยใช้ของดี ราคาแพง


เพิ่มเพื่อน    


17ก.ย.63-นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) กล่าวถึงนโยบายการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเพื่อการขับเคลื่อนประเทศ ในงานสัมมนา “การพลิกโฉมอุดมศึกษาต่อการผลิตบัณฑิตสมรรถนะสูงและการวิจัยเพื่อการขับเคลื่อนประเทศ” ตอนหนึ่งว่า อว. ถือเป็นการประสานบูรณาการระหว่าง 3 หน่วยงานสำคัญ คือ 1.มหาวิทยาลัย 2.วิทยาศาสตร์ และ3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันเรามีศักยภาพในการผลิตนวัตกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น ถุงพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ภายใน 2 สัปดาห์ เป็นต้น และยังมีอีกหลายงานวิจัยที่อยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติ ทั้งนี้ตนเตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงมีนโยบายสนับสนุนนวัตกรรมหรือสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย เพราะเราต้องช่วยการส่งเสริมอะไรที่คนไทยคิดและทำ เราต้องเลิกนิสัยที่ชอบใช้ของดีราคาแพง และเราหันมาสนับสนุนนวัตกรรมที่เราผลิต เพื่อเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นในเกิดงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคม

นายเอนก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังมีแนวคิดที่อยากจะให้มีการทำวิจัยครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้มีการศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ย้อนลึกถึงกว่า 2,500 ปี และการทำวิจัยครั้งนี้จะดึงดูดให้นักวิจัย นักวิชาการที่เก่งระดับโลก ในเรื่องประวัติศาสตร์สุวรรณภูมิ ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก เข้ามาทำวิจัยในประเทศไทย และจะทำให้งานด้านโบราณคดี งานด้านประวัติศาสตร์ของไทยขึ้นไปสู่ระดับโลกได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งตนมีความต้องการให้มีสมรรถนะสูงในทางธรรมะเพื่อชีวิต ธรรมะเพื่อวิชาการ ธรรมะเพื่อความเจริญทางโลกด้วย คือ มหาวิทยาลัยพุทธศาสนา ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีมหาวิทยาลัยศาสนาอื่นๆ ด้วย อาจจะส่งเสริมให้ขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยที่จะต้องมีเอกลักษณ์ มีเป้าประสงค์ที่ชัดเจนไม่เหมือนมหาวิทยาลัยทั่วไป ทำอย่างไรที่จะใช้หลักศาสนาพุทธสามารถมาชี้นำชีวิตทางโลก ทางวิชาการในมหาวิทยาลัยแบบปกติได้ด้วย   ถ้าเราไม่มีทางธรรมะเข้ามากำกับ เราก็จะเป็นคนที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ชาติของเราก็ไม่ครบถ้วน ไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นจึงตั้งใจที่จะทำให้เกิดมหาวิทยาลัยประเภทพระพุทธศาสนาหรือศาสนาต่างๆ เพื่อที่จะทำให้คนมีปัญญา มีธรรมะ มีหลักวิชา เจริญทั้งทางวัตถุและทางธรรม

“เรื่องเร่งด่วนที่มหาวิทยาลัยควรจะต้องปรับตัวในตอนนี้ คือ การทำให้งานวิชาการนำไปสู่การปฏิบัติ ต้องพยายามให้มีการปฏิบัติอยู่ในการเรียนการสอนให้มาก หลีกเลี่ยงที่จะผลิตคนออกไปแล้วปฏิบัติไม่ได้ ปฏิบัติได้ไม่ดี หรือปฏิบัติได้น้อย พยายามทำให้เขามีความรู้ มีทักษะ มีความชำนาญในการปฏิบัติด้วย อยากให้ทุกสาขาวิชาทำให้ได้อย่างโรงเรียนแพทย์ ที่จบออกไปแล้วก็ต้องเป็นหมอได้ทันที บางวิชายังห่างเหินการปฏิบัติ หรือปฏิบัติน้อยเกินไป มหาวิทยาลัยต้องยินดีต้อนรับโลกแห่งการปฏิบัติให้เข้ามาช่วยสอน และช่วยวางหลักสูตร ซึ่ว อว.เองก็พร้อมจะขับเคลื่อน สนับสนุนเรื่องเหล่านี้อย่างเต็มที่”รมว.อว.กล่าว

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"