'จับกัง 1' ชม 'ปลาวาฬ' กล้าพูดในสิ่งที่คิด เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพปกป้องสถาบัน เปรียบใครด่าพ่อแม่ก็โกรธ


เพิ่มเพื่อน    

22 ก.ย.63 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลมีเดีย ตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวทางในการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่เกี่ยวกับโรงแรมศรีพันวา ภายหลัง นายวรสิทธิ์ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ เจ้าของโรงแรม ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแกนนำม็อบนักศึกษาว่า อำนาจของรมว.แรงงาน ไม่มีสิทธิไปรู้เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนและการบริหารเงินของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซึ่งบริหารงานโดยบอร์ดสปส. มีปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธาน และผู้เกี่ยวข้องต่างๆ พร้อมด้วยกฎหมายและระเบียบต่างๆ ซึ่งตนไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้

ทั้งนี้จากการสอบถามปลัดกระทรวงแรงงาน เขาก็ไม่รู้ว่ามีการนำไปลงทุนอะไรเพียงแต่อนุมัติกรอบเท่านั้น ว่ามีการลงทุนได้ในความเสี่ยงกี่เปอร์เซ็นต์ตามกรอบของกฎหมาย ขณะเดียวกันตนได้สอบถามไปยังบอร์ดการลงทุน ที่กองทุนสปส.จ้างมาบริหาร โดยมีรายได้จากการลงทุนประมาณปีละกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การลงทุนในโรงแรมศรีพันวา ลงทุนตั้งแต่ปี 2556 ขณะที่การตั้งบอร์ดสปส.ตามอำนาจมาตรา 44 เกิดขึ้นในปลายปี 2558 ซึ่งเราเข้าไปดูการลงทุนไม่ได้ แต่ทราบว่าผู้ที่รับการบริหารการลงทุนจะมีการรับประกันผลตอบแทน

เมื่อถามว่า ภายหลังมีกระแสให้บอยคอตไม่เข้าพักในโรงแรม ทางสปส. จะมีการทบทวนการลงทุนหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า การลงทุนของสปส. ที่ผ่านมาเป็นการทุนในภาพใหญ่มาก ส่วนการลงทุนที่มีความเสี่ยงจะลงทุนไม่มาก ที่ผ่านมาลงทุน 500 กว่าล้านบาท จากวันที่ลงทุนจนถึงวันนี้ได้กำไร 200 กว่าล้านบาท และขอย้ำว่าในช่วงนี้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถือเป็นเรื่องปกติที่ผลประกอบการจะขาดทุน

“ประเด็นของโรงแรมศรีพันวา เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวของผู้บริหารโรงแรม ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของเขาไม่เกี่ยวกับการลงทุน และผมคิดว่าคนที่รักสถาบันมีเยอะแยะก็น่าจะไปพักโรงแรมดังกล่าวนี้เยอะ ผมอยากให้มองมุมกลับ คนที่รักสถาบันทั้งประเทศ คาดว่าจะไปพักโรงแรมนี้ ขอย้ำว่าจะไปสั่งให้สปส. เลิกลงทุนนั้นผมสั่งไม่ได้"

นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับโรงแรมด้วย เพราะถ้าเรามีธุรกิจก็มีสิทธิจะวิจารณ์ เรานึกถึงสิ่งที่เราเคารพนับถืออยู่และเทิดทูนในประเทศไทย เปรียบเหมือนใครด่าพ่อแม่เราก็จะโกรธใช่หรือไม่ ถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นการแสดงออกของนายวรสิทธิ์นั้น ผมไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิดแต่ถือเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ ส่วนความเสี่ยงนั้นเราไม่ได้ลงทุนเป็น 1-2 หมื่นล้าน เราลงทุนแค่ 500 ล้าน และได้กำไรมา 200 กว่าล้าน นอกจากนี้ผมขอชื่นชม นายวรสิทธิ์ ที่กล้าพูดในสิ่งที่คิด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"