เปิดพื้นที่ให้หาบเร่ ขยายถนนคนเดิน


เพิ่มเพื่อน    


    ครม.เห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาหาบเร่ แผงลอย เขตใดยกเลิกจุดผ่อนผันต้องหาสถานที่รองรับผู้ค้า จัดถนนคนเดิน พร้อมใช้พื้นที่ว่างของการทางพิเศษฯ และหน่วยงานรัฐให้ผู้มีรายได้น้อยทำมาหากิน 
    บ่ายวันที่ 22 กันยายนนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ตามที่กรุงเทพมหานครได้มีการจัดระเบียบพื้นที่และจัดระเบียบการค้าบนทางเท้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของผู้ค้าหาบเร่และแผงลอยในกรุงเทพมหานคร คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้ทำการศึกษาข้อเสนอเชิงนโยบายการบริหารจัดการหาบเร่และแผงลอยในกรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมประชุมกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อสรุปเสนอให้ ครม.พิจารณา ซึ่ง ครม.ได้มีมติเห็นชอบ และบางเรื่อง กทม.ได้ดำเนินการแล้ว
    น.ส.รัชดากล่าวว่า มาตรการระยะเร่งด่วน 1-6 เดือน เช่น 1.กทม.ให้ทุกสำนักงานเขตที่จะยกเลิกจุดผ่อนผันนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณายกเลิกของคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่และแผงลอยระดับเขต โดยจัดหาสถานที่รองรับผู้ค้าให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปในพื้นที่หรือตลาดของราชการและเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ขายเดิม พร้อมทั้งช่วยเจรจากับเจ้าของตลาดในการยกเว้นเงินกินเปล่า ยกเว้นค่าเช่า 3-6 เดือนแรก คิดค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภคในอัตราที่ต่ำสุด และให้เช่าในระยะยาวพอสมควร สามารถรองรับผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยได้ถึง 12,809 ราย 2.สำนักพัฒนาชุมชนได้จัดทำโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand สู่ Online และ 3.กทม.จัดโครงการถนนคนเดิน (Walking Street) ในบางแห่งไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงจำเป็นต้องเลื่อนแผนการจัดในเขตอื่นๆ ออกไป    
    มาตรการระยะกลาง 6-12 เดือน เช่น 1.กทม.แต่งตั้งคณะกรรมการระดับนโยบายและคณะกรรมการระดับพื้นที่เพื่อพิจารณาจุดผ่อนผัน 2.กทม.พิจารณาจุดผ่อนผันในพื้นที่ว่างของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการเจรจาขอใช้พื้นที่ว่างของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรมธนารักษ์ ฯลฯ หากหน่วยงานดังกล่าวอนุญาตจะเร่งรัดดำเนินการพัฒนาเป็นพื้นที่การค้าสำหรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ และผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส
    รองโฆษกฯ กล่าวว่า มาตรการระยะยาว 1-3 ปี เช่น 1.กทม.จะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เป็นต้น 2.กทม.ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น ถนนข้าวสาร ซึ่งดำเนินการเสร็จแล้ว และจะขยายไปยังพื้นที่อื่น เช่น ถนนไกรสีห์ ถนนตานี ถนนรามบุตรี ท่าน้ำวังหลัง เป็นต้น พร้อมทั้งออกแบบแผงค้าหรืออุปกรณ์การค้าให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ 3.กทม.ออกประกาศหลักเกณฑ์เงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าหรือขายสินค้าในพื้นที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 โดยกำหนดแนวทางและวิธีการจัดทำประชาพิจารณ์ หรือสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการค้าหาบเร่ แผงลอย จำนวน 4 กลุ่ม ที่อยู่ในรัศมี 400 เมตร คือ ผู้ใช้ทางเท้า ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น ผู้มีสถานที่ทำงานบริเวณนั้น และเจ้าของอาคารผู้ประกอบการบริเวณนั้น โดยให้สถาบันการศึกษาหรือสำนักงานเขตพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ
    น.ส.รัชดากล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตามข้อเสนอเชิงนโยบายดังกล่าว เป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก และเป็นมาตรการรองรับเพื่อสร้างสมดุลแก่ผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ในขณะที่ประชาชนสามารถใช้พื้นที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังคงเสน่ห์อาหารริมทาง (สตรีทฟู้ด) ของกรุงเทพมหานครได้เป็นอย่างดี โดยหลายเรื่อง กทม.ก็ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"