'เก้า'โต้เห็นแก่เงิน ยันไม่เคยได้รับการติดต่อโดยตรงจาก'เจนนี่'


เพิ่มเพื่อน    

เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น - เก้า เกริกพล

 

          หลังจากมีประเด็นโจมตีอย่างหนักหลายเรื่องในโลกโซเชียล ของสองนักร้องสาว เจนนี่-รัชนก สุวรรณเกตุ กับนักร้องหนุ่มอย่าง เก้า เดอะวอยซ์คิดส์ หรือ เกริกพล เพชรรัตน์ ซึ่งวันก่อนฝั่งของสาวเจนนี่และลิลลี่ ได้เปิดใจถึงประเด็นดราม่าในรายการคุยแซ่บSHOW
          ซึ่งทางสาวเจนนี่ได้พูดถึงประเด็นเกาเหล่กับศิลปินหนุ่มเก้า เกริกพล ว่าตอนเกิดเรื่องแรกๆมีการทักเฟซบุ๊กไปหาอีกฝ่ายแต่ไม่ได้มีการตอบกลับ จนเป็นข่าวใหญ่โต ช่วงหลังมีผู้ใหญ่ไปคุยเรื่องตัวเลขแต่ก็ไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเคลียร์ไม่ลงตัวจนมาทราบว่าอีกฝ่ายฟ้อง ซึ่งตนมาคิดดูว่า 70/30 ก็โอเค แต่ที่อีกฝ่ายมาแถลงมันมากกว่าเงินจำนวนนั้น คือ 3 ล้าน ตนจึงคิดว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะรายได้จากเพลงได้ประมาณ 4 ล้านกว่า ตนอยากให้จบแบบคนละ 1 ล้านบาททั้ง เก้า ลิลลี่ และตัวเจนนี่เอง ส่วนที่เหลือเป็นของทีมงาน
          เมื่อรายการดังกล่าวได้ออนแอร์ไปก็มีกระแสวิจารณ์หลากหลาย โดย เก้า เกริกพล ได้โพสต์ชี้แจงในมุมของตนเองที่โดนหาว่าเห็นแก่เงิน ที่เรียกเงินอีกฝ่ายไป 3 ล้านบาท ซึ่งนักร้องหนุ่มเผยว่าเป็นการตอบคำถามนักข่าวของ ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต ว่าหากจะเรียกร้องค่าเสียหายจะเรียกเท่าไหร่ ซึ่งเป็นการประมาณมาจากรายได้ที่ศิลปินหนุ่มเคยได้รับจากยูทูบแต่ก็ต้องมีเอกสารแสดงรายละเอียดยืนยันที่จัดเจนอีกครั้ง
          โดย นักร้องหนุ่มโพสต์ว่า "ตามที่มีข่าวว่า พี่เจนนี่เสนอเงินให้ผม 1 ล้านบาท แต่ผมไม่ยอมรับไว้ จนทำให้มีคนวิจารณ์ผมในทำนองเสียหายว่า ผมเห็นแก่เงินนั้น ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงครับ ในประเด็นนี้ ผมไม่เคยได้รับการติดต่อโดยตรงจากพี่เจนนี่เลย พี่เจนนี่เคยส่งข้อความมาใน Facebook แต่ผมไม่ได้เปิดอ่าน เพราะผมคิดว่า เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ควรให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจแทนจะดีกว่าครับ
          ในการเจรจาแม่ของผมได้มอบหมายให้พี่ทนายเจมส์เป็นตัวแทน ซึ่งก็มีคนกลางเข้ามาเจรจาให้ ตอนแรกคนกลางเสนอตัวเลขมา 300,000 บาท และต่อมาเสนอเพิ่มให้ 500,000 บาท พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าเพิ่มเป็น 1 ล้านจะจบไหม จะไปคุยกับพี่เจนนี่ให้ แต่คนคนกลางก็เงียบไป จนพี่ทนายเจมส์และทีมงานได้ยื่นฟ้องต่อศาลตามที่เป็นข่าว
          ส่วนประเด็นเรื่องที่มีข่าวว่า ผมเรียกเงิน 3 ล้านบาท ขออธิบายว่า เป็นการตอบคำถามของพี่นักข่าว ซึ่งในการสัมภาษณ์พี่นักข่าวถามว่า ถ้าจะเรียกร้องค่าเสียหายจะเรียกร้องเท่าไหร่ พี่ทนายเจมส์ตอบไปว่า เรียกประมาณ 3 ล้านบาท โดยประมาณการจากรายได้ที่ผมเคยได้รับจาก YouTube ซึ่งต้องมีเอกสารยืนยันที่ชัดเจนอีกครั้ง และพี่ทนายจะออกหมายเรียกเอกสารแสดงรายได้จากสรรพากร เพื่อให้ทราบรายได้ที่แท้จริงที่เกิดจากมิวสิควิดีโอเพลงและเพลง เพื่อการต่อรองหรือฟ้องคดีต่อไป เรื่องราวทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยดีนะครับ ถ้าเราคุยกันด้วยความจริง"

 

 

 

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม gerkpon_petcharat

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"