26 ก.ย.63 - นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เผยแพร่บทความเรื่อง "รู้จัก “คดีโควต้าบ้านเอื้ออาทร”" ผ่าน www.thaipost.net โดยมีเนื้อหาดังนี้

ถาม   โครงการ “บ้านเอื้ออาทร”คืออะไร?
ตอบ   คือโครงการที่คุณทักษิณ ชินวัตร  ให้การเคหะแห่งชาติ มาทำหมู่บ้านจัดสรรให้ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ตั้งเป้าที่ ๖ แสนหน่วย ลงทุนบ้านและที่ดินไม่เกินหน่วยละ ๔.๒ แสนบาท ขายหน่วยละ ๓.๙ แสนบาท

ถาม   ระบบ “โควต้า” บ้านเอื้ออาทรคืออะไร
ตอบ   สมัยรัฐมนตรีวัฒนา ในปี ๒๕๔๘   เห็นว่าการว่าจ้างเอกชนเป็นรายหมู่บ้านล่าช้า จึงนำหน่วยที่เหลือ ๓ แสนหน่วยมาเปิดให้เอกชนมาทำสัญญาแบ่งจำนวนหน่วยที่ต้องการรับเหมาไปทำเลย เช่นบริษัทหนึ่งรับโควต้าไป ๑๐,๐๐๐ หน่วย ก็ทำสัญญารับโควต้าไปทำพร้อมวางหลักประกัน จากนั้นก็นำโครงการมาเสนอขายเป็นรายหมู่บ้านไป ทำไปหลายหมู่บ้านจนกว่าจะครบ ๑๐,๐๐๐ หน่วย    

ถาม   รับซื้อกันยังไงครับ
ตอบ   การเคหะฯเหมาซื้อที่หน่วยละ ๔.๒ แสนบาท  ได้โควตาแล้วเบิกเงินล่วงหน้าได้ไม่เกิน  ๑๕% ของค่าโควต้าทั้งหมด หมู่บ้านใดที่เสนอแล้วได้รับอนุมัติได้ค่าที่ดินทันที ๑๐๐ %

ถาม   ระบบโควต้าอย่างนี้ผู้รับเหมามีโอกาสกำไรมากกว่าระบบเดิมที่รับซื้อเป็นรายโครงการไหม
ตอบ   ระบบนี้ไม่มีการรับซื้อตามราคาที่ดินจริง เหมาให้เลย หน่วยละ ๔.๒ แสน ถ้าได้ที่ดินราคาถูกก็ยิ่งกำไร ยิ่งยัดบ้านลงไปแน่นอีกเท่าใดก็กำไรหนักขึ้นไปอีก  จากการตรวจสอบของคตส.หมู่บ้านยุคนี้แน่นมากและเข้าถึงยากมาก เคยอยู่แค่รังสิตคลอง ๒ ก็โดดไปคลอง ๙ เลย ที่สมุทรสาครเลี้ยวเข้านากุ้ง นาเกลือก็มี

ถาม   อยู่ไกลแล้วมีคนซื้อหรือครับ
ตอบ   มีคดีโกงชื่อคนจอง เอาผีมาจองหลายโครงการ

ถาม   มีส่วนต่างให้นักการเมืองเรียกค่าโควต้า ถึงหน่วยละ ๑ หมื่นบาทไหม
ตอบ   ผู้รับเหมารายใหญ่ที่จ่ายเงินแล้วสารภาพกับคตส. ๗ ราย  เขาบอกว่าทำได้ครับ สภาพคล่องก็ไม่ยาก ใช้กระดาษ ๓ ใบยื่นคำขอโควต้า ๑๐,๐๐๐ หน่วย มูลค่างาน ๔,๒๐๐ ล้านก็ได้เงินล่วงหน้ามาแล้วไม่เกิน ๖๓๐ ล้าน เท่านี้ก็พอ แบ่งไปจ่ายค่าโควตาได้แล้ว 

อย่างในคดีนี้เราพบว่าจ่ายเงินล่วงหน้าให้ ๑๑ บริษัท ไปกว่าสี่พันล้านบาท พอเราตรวจทางเดินเงินก็พบว่าไหลไปเข้าเครือข่ายรับค่าโควต้าของจำเลยถึง ๑,๔๐๐ ล้านบาททีเดียว อาทิตย์เดียวเท่านั้นวางบิลเสร็จหมดเลย

ถาม   ผู้รับเหมายอมบอกไหมครับว่าค่าอะไร
ตอบ   ๗ ราย เขายอมบอกว่าเป็นค่าโควต้าให้รัฐมนตรี โดยตัวแทนที่เป็นเสี่ยค้าข้าวและลูกน้องเป็นคนเจรจา คนทวง และคนรับครับ

ถาม   เห็นรัฐมนตรีเขายืนยันว่าการให้โควต้าเป็นเรื่องของการเคหะและ จ่ายไปถูกต้องตามระเบียบทุกอย่าง
ตอบ   นั่นก็ถูกของเขาครับระบบโควต้านี้ไม่ผิดกฎหมาย ทุกสัญญาโควต้าที่ให้ก็ไม่ผิดกฎหมาย  มันจึงไม่มีความผิดตามมาตรา ๑๕๗ เกิดขึ้น แต่ที่ผิดมันผิด ตรงที่ไม่มีใครมีสิทธิไปเรียกเก็บตั๋วค่าโควต้าครับ

ถาม   เขาบอกว่าเขาไม่ได้เรียก
ตอบ   แต่หลักฐานมันชัดว่าเสี่ยคนนั้นคอยกำกับจัดการการให้โควต้าและการให้เงินล่วงหน้า ทำตัวเป็นที่ปรึกษาอยู่ในออฟฟิศรัฐมนตรีเลย หน้าห้องรัฐมนตรีก็เคยโทรไปทวงเงินผู้รับเหมา เสี่ยคนนี้อาชีพค้าข้าวแล้วจะไปทำงานเป็นที่ปรึกษาบริษัทรับเหมาได้ค่าปรึกษาเป็น ๑๔๐๐๐ ล้านบาท ได้อย่างไร

ถาม   เขาบอกอีกว่า เขาไม่ได้จับเงินเลย
ตอบ   มาตรา ๑๔๘  แค่เจ้าพนักงานเรียกประโยชน์จากผู้อื่นก็ผิดแล้วครับ ส่วนเงิน  ๑,๔๐๐ ล้านนั้น  คตส.ตามไปติดๆก็เข้าบริษัทส่งออก ทะเบียนตั้งอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว มีหมานอนเกาเห็บ ๒ ตัว เงินเข้าแล้วก็โอนไปธนาคารฮ่องกงเลย เข้าใจว่าเป็นการฟอกเงินกลับมาในนามเงินส่งออกข้าว คุณต้องรู้ว่าเสี่ยคนนี้เป็นมือฟอกเงินของพรรคนี้มาหลายโครงการแล้ว

ถาม   รัฐมนตรีเขาบอกอีกว่าไม่รู้เรื่องเสี่ยเรียกเงิน
ตอบ   ผู้รับเหมาขนาดใหญ่ของเมืองไทยก็ไม่โง่ที่จะถูกหลอกขายโควตาง่ายๆ เสี่ยเองก็วางตัวอยู่ในออฟฟิสรัฐมนตรีสั่งเจ้าหน้าที่ให้ส่งเอกสารรายงานความคืบหน้าให้ตนเองตลอดเวลา ศาลก็เลยตัดสินว่าเสี่ยต้องเป็นตัวการเรียกค่าโควต้าร่วมกันกับรัฐมนตรีรวม ๑๑ ครั้ง ๑๑ กระทง วางโทษรัฐมนตรีจำคุกกระทงละ ๙ ปี รวม ๙๙ปี แต่เสี่ยไม่ใช่เจ้าพนักงาน จึงโดนแค่สนับสนุนโทษ สองในสาม คือ ๖๖ ปี จุดจบก็มาถึงตรงนี้ วันนี้ในที่สุด   

ถาม   ในฐานะที่เป็น คตส.รับผิดชอบสำนวนนี้ รู้สึกอย่างไรที่ศาลตัดสินลงโทษ
ตอบ   คดีนี้ คตส.ได้ทีมตำรวจมือดีมาช่วยงานสืบสวนเจาะลึกปากคำในการเคหะฯได้นักตรวจสอบมือฉกาจจากธนาคารชาติมาไล่ตรวจสอบทางเดินของเงินจนละเอียดยิบ ได้มือทำสำนวนจากกรมพระธรรมนูญมาสมทบอีก รวมกว่ายี่สิบคน พวกเขาทุ่มเทปิดทองหลังพระกันเป็นปี จนสำเร็จมาถึงวันนี้ได้ ช่วยขอบคุณเขาด้วยเถิดครับ

ถาม   อยากบอกคุณวัฒนาว่าอย่างไรครับ
ตอบ   พวกเราไม่ได้แกล้งคุณจริงๆ  คุณจะชนะหรือแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือไม่ก็แล้วแต่ศาลท่าน  พวกผมเสร็จงานของผมแล้ว  

อ้อ...ยังมีรัฐมนตรีอีกคนที่ผมอยากบอกเขาด้วย

ถาม   ใครครับ
ตอบ   ก็คือ คุณพงษ์เทพ เทพกาญจนา ครับ   ผมยังจำได้ดีที่ท่านถามผมอย่างเยาะเย้ยถากถางกลางเวทีอภิปรายที่นิติจุฬาหลายปีก่อนว่า “คดีที่ทำแล้วคุยนักคุยหนานั้น ไปไหนหมดแล้ว ”  วันนี้ก็อยากถามเท่านั้นครับว่า พวกท่านได้คำตอบเป็นยึดทรัพย์ เป็นคุกตะรางไปกี่คดีแล้ว..นับถูกไหม...แล้วนี่ยังอยากจะเป็นรัฐบาลกันอีกหรือ ?