อาหารเสริมดารา สอท.แฉผสมยาบ้า


เพิ่มเพื่อน    

   ผู้ต้องหาเมจิก สกิน ทยอยมอบตัวหมดแล้ว รองเลขาฯ อย.เผย 7 ดารากระทำผิดชัดเจนโฆษณาสินค้าโดยไม่ขออนุญาต อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ประธานอุตสาหกรรมเสริมอาหารเผยผลิตภัณฑ์ของดาราบางคนใส่สารตั้งต้นยาบ้าเพื่อลดน้ำหนัก ชี้ตลาดเครื่องสำอางอาหารเสริมโตหมื่นล้าน โรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานมีแค่ 1 ใน 10
    มีรายงานว่า เมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 909/49 ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในคดีที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายบริษัท เมจิก สกิน จำกัด บริษัทผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจกองปราบปราม จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.มธุรสให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้สั่งผลิตสินค้าจากบริษัท เมจิก สกิน โดยอ้างว่าเป็นเพียงผู้ค้าคนกลางที่ไปรับสินค้าจากบริษัทดังกล่าวเพื่อนำมาขายต่อให้ลูกค้า โดยไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย.
    ล่วงเข้าวันพุธ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เปิดเผยว่า น.ส.ธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้เข้ามอบตัวแล้ว นับเป็นผู้ต้องหาคนสุดท้ายในจำนวน 8 คนที่ตำรวจแจ้งข้อหา
    พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวว่า กรณีการออกหมายเรียกดารานักแสดง และเน็ตไอดอล ที่รับจ้างรีวิวผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิก สกิน จำกัด ต้องรอคำสั่งจาก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. อีกครั้ง แต่ตำรวจกองปราบฯ ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานของดารานักแสดงทั้งหมดไว้พร้อมแล้ว และเตรียมประสานกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อขอข้อมูลลักษณะฐานความผิด และรายชื่อดารานักแสดงมาให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 25 เมษายนนี้ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ในฐานะหัวหน้าชุด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค (ปคบ.) และเจ้าหน้าที่ อย. ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในบ้านจัดสรรภัสสร 8 บ้านเลขที่ 55/134 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เนื่องจากเป็นสถานที่ที่อยู่ตามฉลากของผลิตภัณฑ์เมจิก สกิน ว่าเป็นบริษัท พีโอเอส คอสเมติกส์ ประเทศไทย จำกัด รับผลิตเครื่องสำอาง เวชสำอาง ครบวงจร เมื่อเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พล.ต.ต.อังกูรนำหมายค้นแสดงต่อนางสาวณัฏญา ปัญญา ผู้อาศัยและดูแลบ้าน เพื่อขอเข้าตรวจค้น
    หลังการตรวจค้น พล.ต.ต.อังกูรเปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นเพียงบ้านพักอาศัย ไม่ได้เป็นโรงงานหรือบริษัท ซึ่งไม่พบตราประทับผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์หรือเครื่องมือเกี่ยวกับบริษัท เมจิก สกิน แต่พบว่ามีการส่งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เมจิก สกิน ส่งมาที่บ้านหลังนี้ เช่น เอกสารจาก อย. และหมายศาล โดยคนในบ้านอ้างว่าไม่ได้ให้ความสนใจกับเอกสารดังกล่าว แต่เป็นไปได้ว่าคนที่อาศัยภายในบ้านหลังนี้อาจเกี่ยวข้องกับบริษัท เมจิก สกิน หลังจากนี้จะต้องเรียกมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
    ภก.สมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการ อย. กล่าวถึงกรณีจะมีการเรียก 7 ดาราเข้าสอบปากคำกรณีรับรีวิวสินค้าเมจิก สกิน ซึ่งอาจมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมว่า เนื่องจาก อย.มีข้อมูลชัดเจนว่ากระทำการโฆษณาที่ผิดกฎหมายที่ อย.ควบคุมดูแล ทั้งในเรื่องของการโฆษณาอาหารเสริมโดยไม่ขออนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาหาร หรือการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ซึ่งมีทั้งประเด็นเรื่องของผิวขาวใส การลดสัดส่วน เป็นต้น จึงได้รวบรวมส่งข้อมูลให้ทางตำรวจในการออกหมายเรียกมาดำเนินการสอบสวน ส่วนศิลปิน ดาราคนอื่นที่กระทำผิดก็ยังมี ซึ่งอยู่ในรายชื่อของทางตำรวจแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในตอนนี้ได้ เท่าที่มีข้อมูลออกไปก่อนหน้านี้ก็คือประมาณกว่า 50 คน 
    “ขอเตือนกลุ่มดารานักแสดงว่า ในการที่จะรับเป็นพรีเซนเตอร์หรือรีวิวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขอให้มีการตรวจสอบก่อนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมี อย.จริงหรือไม่ เพราะเมื่อถูกดำเนินคดีแล้วจะออกมาระบุว่าไม่รู้ว่าผิดกฎหมายไม่ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของโฆษณาโอ้อวดเกินจริง เช่น ข้อความที่ระบุว่าทำให้ผิวขาวใสภายใน 7 วัน ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เป็นต้น ต้องใช้วิจารณญาณด้วย” รองเลขาธิการ อย.กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า อาหารเสริมและเครื่องสำอางควรมีการยกระดับตรวจสอบควบคุมก่อนให้เลข อย.หรือไม่ เนื่องจากปัญหาผลิตภัณฑ์ปลอม ลอบใส่สารอันตราย มีเป็นจำนวนมาก ภก.สมชายกล่าวว่า การกระทำผิดเหล่านี้เกิดจากผู้ประกอบการบางรายย่อยๆ เท่านั้น และก่อให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการที่ทำถูกกฎหมายหรือทำได้ดี หากไปสร้างหลักเกณฑ์และยิ่งเข้มงวดกับการมาขอ ก็จะทำให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่หรือรายเล็กที่ทำถูกกฎหมายลำบากยิ่งขึ้น ไม่สามารถแข่งขันกับตลาดส่งออกได้ ซึ่งจริงๆ แล้วการทำผิดเหล่านี้เป็นเรื่องของคนที่ใช้ช่องทางมาทำเรื่องไม่ถูกต้อง ทุจริต แทนที่จะทำตามสูตรที่แจ้ง ก็ไปใส่สารตัวอื่นเข้าไป หรือจดแจ้งที่ไม่ใช่สถานที่ผลิตจริง
    เมื่อถามถึงการตรวจสอบเลข อย.ของประชาชนผ่านเว็บไซต์ อย.จะเห็นชัดเลยหรือไม่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม ภก.สมชายกล่าวว่า ประชาชนอาจจะไม่ทราบ เพราะเลขที่จดแจ้งหรือที่อยู่ในการผลิตที่แสดงในระบบก็เป็นไปตามที่เขามาจดแจ้งไว้ ซึ่งหากเขาต้องการหลอกลวง เขาก็จะทำฉลากให้เป็นเลขที่จดแจ้งหรือที่อยู่เดียวกันกับที่แจ้งไว้ ซึ่งหากขายหรือโฆษณาค่อนข้างโอ้อวดเกินจริง ผู้บริโภคต้องระวัง เช่นเดียวกับคนที่จะไปรับโฆษณาให้เขายิ่งต้องระวัง เพราะหากโฆษณาอะไรที่เป็นเท็จ โอ้อวดเกินจริง ก็จะมีความผิดด้วย ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกหรือผิดกฎหมายก็ตาม แต่หากผลิตภัณฑ์นั้น อย.ตรวจสอบพบว่าผิดกฎหมาย เช่น เครื่องสำอางเมจิก สกิน ตอนนี้ หากไปค้นดูในระบบของ อย.ก็จะแจ้งสถานะว่ามีการเพิกถอนออกไปแล้ว
    นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มภัณฑ์อาหารเสริมอยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่จะให้พิจารณาความผิดในกรณีจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของสารอันตรายต่างๆ เช่น ไซบูทรามีน หรือสารตั้งต้นยาบ้า ไวอะกร้า สารปรอท ให้เป็นความผิดในการขายยาปลอม แทนการขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปนเปื้อน 
    "ล่าสุดได้เข้าไปหารือกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันให้มีการเพิ่มโทษ โดยเปลี่ยนคำจำกัดความอาหารเสริมที่มีส่วนผสมในสารต่างๆ ที่เป็นอันตราย จากเดิมที่เคยเรียกว่า 'อาหารปนเปื้อน' เป็น 'ยาปลอม' เนื่องจากอาหารเสริมบางชนิดมีการใส่ตัวยาที่เป็นสารเสพติดลงไป ซึ่งจะเป็นช่องทางที่จะเพิ่มโทษได้ จากปัจจุบันโทษของการขายอาหารที่มีสารปนเปื้อน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3-5 ปี แต่หากเปลี่ยนคำจำกัดความได้ อาจจะเพิ่มโทษเหมือนการค้ายาเสพติด คือจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต เพื่อให้มีความเกรงกลัวมากขึ้นต่อความผิด" นายนาคาญ์กล่าว
    นายนาคาญ์กล่าวด้วยว่า กรณีดารานักแสดงที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปัจจุบันมี 2 กรณีคือ กรณีแรกดารารับเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งกรณีนี้มีโทษไม่รุนแรง ถือว่าตกเป็นเหยื่อและใช้เครดิตการเป็นดาราในการช่วยโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่อีกกรณีคือ ดาราเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เอง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีผลิตภัณฑ์ดาราบางตัวใส่สารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาบ้าเพื่อลดน้ำหนัก หรือใส่สารปรอทเพื่อให้ผิวขาว ขณะที่ผลิตภัณฑ์กาแฟบางยี่ห้อมีส่วนผสมไวอะกร้าของจีน และสารออริสแตท เพื่อดักจับไขมัน ก็ต้องระวางโทษตามข้อกฎหมายกำหนด
    สำหรับภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดเกือบ 10,000 ล้านบาทต่อปี จากเดิมมีมูลค่าตลาดประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยผลิตภัณฑ์ในตลาด 40% เป็นผลิตภัณฑ์ปลอมที่มีการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้านโรงงานผลิตอุตสาหกรรมนี้ มีโรงงานผลิตสินค้าได้มาตรฐานประมาณกว่า 1,000 โรงงาน ขณะที่โรงงานไม่ได้มาตรฐานมีประมาณกว่า 10,000 โรงงาน และเนื่องจากการขอทะเบียนจาก อย.เป็นเรื่องยาก แต่การผลิตง่าย จึงมีการผลิตอย่างไม่ถูกต้องออกมาค่อนข้างมาก ซึ่งทางกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส.อ.ท.จึงร่วมมือกับทางราชการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ออกสุ่มซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง มาตรวจสอบคุณภาพและทะเบียน อย.ว่าได้รับทะเบียนจาก อย.จริงหรือไม่  
    ยังมีความเคลื่อนไหวของเหล่าดาราที่มีความเกี่ยวข้องกับเมจิก สกิน โดย ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ ดาราสาวที่เคยโพสต์ภาพสินค้าดังกล่าว โพสต์ชี้แจงเรื่องนี้ว่า "จากกรณีที่ขวัญเคยรีวิวสินค้าแบรนด์เมจิก สกิน ซึ่งมีข่าวว่าสินค้าดังกล่าวมีปัญหา ขวัญต้องขออภัยกับทุกคนที่ได้รับความเสียหาย เนื่องมาจากสินค้าและการรีวิวสินค้า หรือการโฆษณาสินค้าแบรนด์ดังกล่าวของขวัญด้วย ขวัญประมาทเองที่ไม่ตรวจสอบให้ดีและด้วยตัวเอง แต่ขวัญลงรีวิวในฐานะที่ขวัญได้ใช้สินค้านั้นจริง โดยขวัญได้สินค้านี้มาจากบุคคลที่ขวัญเคยเคารพ ไว้ใจ และเป็นบุคคลที่เคยใกล้ชิดขวัญมากในอดีต ทำให้ขวัญเกิดความเชื่อมั่นในสินค้า จึงลงคำโฆษณาต่อ ขวัญต้องกราบขออภัยทุกคนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีผลมาจากการที่ขวัญลงโฆษณาสินค้า โดยไม่เช็กข้อมูล อย. แท้จริงด้วยตัวเอง แต่กลับเชื่อถือจากคำบอกเล่าหรือสื่อต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้น"
    ขณะที่พระเอกหนุ่ม "พอร์ช ศรัณย์" ก็โพสต์ขอโทษเช่นกัน ระบุว่า "ผมต้องกราบขออภัยกับทุกๆ คนด้วยครับ ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ ขอโทษที่ไม่ได้เช็กข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน​ ขอโทษจริงๆ ครับ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"