‘ปอท.’ไล่บี้ก๊วนหมิ่นฯ ‘เพนกวิน’โดนอีกเพียบ


เพิ่มเพื่อน    

 ปอท.ได้เวลาไล่ตามม็อบหมิ่นสถาบัน ตรวจยิบ "เพนกวิน" ไม่รอดโดนเพิ่มหลายข้อหา เจ้าตัวยังมันมาก โต้ "จักรทิพย์" น้ำลายใครจูงคุณให้มาดูถูกประชาชนและคนรุ่นเรา "วันชัย" เหน็บฝ่ายค้าน อ่อนแอ ไม่เป็นเอกภาพ ทำให้สู้รัฐบาลไม่ได้ ข้องใจอยากแก้ รธน.จริงหรือเปล่า

         หลังนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก ประกาศเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมปักหลักพักค้างคืนเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เป็นการยกระดับการชุมนุมจากกรณีที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีการลงมติตั้งกรรมาธิการศึกษาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จนทำให้กระบวนการลงมติในวาระรับหลักการต้องเลื่อนออกไปนั้น
         เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตำรวจได้เฝ้าจับตามองทางการข่าวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว หากมีการชุมนุมตามประกาศจริง ตำรวจก็มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุม และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทั่วไปให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
        เขากล่าวว่า จำนวนของผู้ชุมนุมนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวล แต่สำคัญคือต้องเป็นการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธ และไม่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจจะใช้แผนการชุมนุม 63 ซึ่งพัฒนามาจากแผนกรกฎ 52 ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมให้สอดคล้องกับเนื้อหา พ.ร.บ.การชุมนุม และรูปแบบการชุมนุมที่เปลี่ยนแปลงจากแต่ก่อน
    ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เผยว่า ยังไม่ได้รับการประสานคำสั่งให้เตรียมดูแลเรื่องการชุมนุมตามที่มีกระแสข่าว ทั้งนี้ หากจะมีการนัดชุมนุมจริง ก็ต้องจัดกำลังตำรวจไปดูแลความเรียบร้อยให้เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งที่ผ่านมาก็สั่งการให้ตำรวจอดทน อดกลั้น ทำหน้าที่รักษาความสงบเป็นหลัก
         ส่วนการชักชวนประชาชนไปพักค้างแรม แม้ว่าจะอ้างเรื่องใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การแสดงออกก็ต้องไม่ผิดหลักกฎหมาย ที่สำคัญต้องดูแลควบคุมผู้ชุมนุมให้ได้ ไม่เช่นนั้นหากเกิดการกระทำความผิดกฎหมาย แกนนำผู้ชุมนุมในฐานะผู้รับผิดชอบก็ต้องถูกดำเนินคดีแทน
    พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปอท. เปิดเผยกรณี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าแจ้งความกับตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ 5 บัญชี ที่เผยแพร่ส่งต่อข้อความในลักษณะหมิ่นสถาบันว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชีโซเชียลมีเดียทั้ง 5 บัญชี ต้องรอผลการตรวจสอบเนื้อหาที่โพสต์ข้อความก่อนว่า เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ รวมถึงต้องสอบสวนพยานอื่นเพิ่มเติม เช่น ความเห็นจากนักวิชาการ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจการออกหมายเรียกผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชี
        รองผู้บังคับการ ปอท. คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะมีความชัดเจน ขณะนี้ข้อมูลเจ้าของบัญชีดังกล่าวที่มีผู้นำมาแจ้งความพบว่า เจ้าของบัญชี 2 ใน 5 คือนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอีก 1 บัญชี เป็นหนึ่งในแกนนำที่เคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย
    รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยถึงการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาดำเนินคดีผู้กระทำผิดในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลครั้งต่างๆ ช่วงที่ผ่านมาว่า ได้แบ่งหน้าที่ให้ชุดสืบสวนในแต่ละกองบังคับการตำรวจนครบาลไปรวบรวมหลักฐาน ภาพและคลิปของผู้ที่ส่อจะกระทำผิด เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลก่อนให้ฝ่ายกฎหมายนำไปตีความว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายใด
"เพนกวิน"ชน"ผบ.ตร.
        โดยในการชุมนุม 19 กันยา ทวงอำนาจ คืนราษฎร ตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จับกุมผู้ต้องหาเป็นแอดมินเพจที่นำสติกเกอร์ชื่อเพจเฟซบุ๊กไปติดบนที่ที่ไม่เหมาะสมหน้าศาลฎีกา ตามหมายจับในคดีเก่า 1 ราย
         นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบผู้เข้าข่ายทำความผิด 16 คน ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้จัดการชุมนุม 2.กลุ่มที่เชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม และ 3.กลุ่มคนที่ร่วมปราศรัยบนเวที ซึ่งเป็นบุคคลเดิมๆ มีกลุ่มใหม่ไม่กี่ราย
         ส่วนการแห่รถปราศรัยจัดกิจกรรมเรียก ส.ว.ลงหม้อ ใน 6 พื้นที่ ไล่ตั้งแต่กองบัญชาการกองทัพบก, กระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพเรือ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการกองทัพอากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย (ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ) ของคณะประชาชนปลดแอก เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา รวมถึงการชุมนุมที่รัฐสภา เกียกกาย เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ยังอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสรุปภาพรวมในทุกคดีการชุมนุมอีกครั้ง
         ขณะที่นายพริษฐ์โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ผบ.ตร.เปรียบม็อบ นศ.เหมือนเชือกจูงควาย น้ำลายจูงคน โดยระบุว่า น้ำลายใครจูงคุณให้มาดูถูกประชาชนและคนรุ่นเรา
       ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร และคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดเสวนาหัวข้อ “เยาวชนกับการเมือง” โดยนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี กลุ่มเยาวชนปลดแอก, น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส กลุ่มนักเรียนเลว, น.ส.ทิพอัปสร แก้วมณี กลุ่มลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ และนายธนวัฒน์ วงค์ไชย อดีตผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง
      นายทัตเทพกล่าวว่า การประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ไม่มีการลงมติในญัตติเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการไม่เห็นหัวประชาชน เป็นการปิดสมัยประชุมที่อัปยศที่สุดของรัฐสภาไทย ทั้งที่กลไกรัฐสภาจะเป็นทางออก แต่เหตุใดถึงปิดประตูรัฐสภาใส่ประชาชน เป็นการผลักประชาชนลงมาต่อสู้ในถนน ภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะต้องไม่มี ส.ว. 250 คน และการแก้รัฐธรรมนูญต้องคืบหน้า ไม่เช่นนั้นเราจะกลับมายกระดับการชุมนุมแบบใหญ่ๆ ในเดือน ต.ค.แน่นอน
คุณภาพชีวิตไม่ดี
      นายธนวัฒน์กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของตนทำให้ชีวิตเปลี่ยน มีทหารตำรวจมาเฝ้าติดตามที่บ้านพักและหอพักทุกวัน ตนก็คิดว่าหากเป็นเช่นนี้ตนก็ออกมาเคลื่อนไหวได้ทุกวันเหมือนกัน ส่วนการประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา ในส่วนการทำหน้าที่ของนายชวน อยากถามว่าเป็นมีดโกนอาบน้ำผึ้ง หรือมีดโกนขนหน้าแข้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ 250 ส.ว.จะต้องเสียใจอย่างที่สุดที่ตัดสินใจโหวตตั้ง กมธ. เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา
    พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ส.ส.เมื่อวันที่ 24 กันยายนต้องล่มลง และเลื่อนเวลาไปสมัยประชุมหน้า เพราะ ส.ว.ขู่ว่าจะไม่ยอมผ่านให้ เหิมเกริมขอลองของประชาชน เลยหลงเหลี่ยมเปลือยความเป็นลิ่วล้อของผู้นำสืบทอดอำนาจ
    "หนทางปฏิบัติที่จะทำให้ปัญหามันจบลงที่รุ่นเรา เมื่อผู้แทนราษฎรจัดการให้ไม่ได้ จึงคาดการณ์ว่าพี่น้องประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริงจะออกมาแสดงบทบาทเอง โดยร่วมชุมนุมใหญ่เบิ้มๆ กลางเดือนตุลาคม เพื่อขับไล่นายกฯ สืบทอดอำนาจแบบชนิดเล่นไม่เลิก จนต้องตกเก้าอี้ไปเท่านั้นเรื่องจึงจะยุติ โดยพลังประชาชนเป็นเรือนแสนย่อมใช้เวลาจัดการไม่นาน เพื่อทำข้อเรียกร้องหลักทั้ง 3 ข้อเป็นรูปธรรมได้อย่างลงตัว บ้านเมืองจะเดินหน้าสู่เป้าหมายของ อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน และแผ่นดินนี้ต้องเป็นธรรม" พล.ท.ภราดรกล่าว
    นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้สนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และการจัดตั้ง ส.ส.ร.ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีหลักการเดียวกัน ซึ่งควรจะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาค ส่วนทั้งสมาชิกฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล สมาชิกวุฒิสภา และถ้าหากญัตติของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอันตกไป ก็จะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน" นายเทพไทกล่าว
เกิดอาการขาดสติ
    นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่าผลการประชุมรัฐสภาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีทั้งกลุ่มที่ทั้งพอใจและไม่พอใจ ถึงขั้นมีกลุ่มคนบางกลุ่มออกมาพาดพิงถึงท่านประธานชวน หลีกภัย อย่างเสียๆ หายๆ ซึ่งต้องเข้าใจว่าผลของการประชุมนั้นเกินการควบคุมของประธานรัฐสภา ท่านประธานมีหน้าที่เพียงกำกับการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมอย่างเป็นกลาง ซึ่งท่านประธานชวน หลีกภัย ได้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว อีกทั้งยังเปิดพื้นที่บริเวณรัฐสภาให้มีการชุมนุมอย่างเสรี เพื่อให้เป็นพื้นที่แสดงออกของประชาชน และเชื่อว่าท่านชวนเข้าใจความรู้สึกของประชาชนดี เพราะท่านเป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชนยาวนานถึง 16 สมัย และท่านเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่การกระทำใดๆ นั้นจำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
        "จึงอยากให้ทำความเข้าใจกับคำว่า ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มากยิ่งขึ้น ว่าการแสดงออกทางการเมืองต้องไม่เอาแต่ความต้องการคนตนเองเป็นใหญ่ ต้องไม่ให้ความไม่ได้ดั่งใจมาทำให้เกิดอาการขาดสติ จนไม่ยอมรับกระบวนการหรือระบบอันอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่ประธานรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายนิติบัญญัติ พยายามพาทุกคนให้ช่วยกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศในเวลานี้ บนเส้นทางที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับ" รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
    นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า ตลอด 2 วันของการอภิปรายในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ผิดหวังกับการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเป็นอย่างมาก ไม่โทษพรรคร่วมรัฐบาล หรือส.ว.เลยที่ใช้ข้อบังคับเพื่อขอตั้ง กมธ.พิจารณาก่อนรับหลักการ 30 วัน แต่ขอโทษไปที่พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่เป็นเอกภาพ อ่อนแอ ไม่ได้วางยุทธศาสตร์ในการทำงานสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาอย่างจริงจัง ทั้งๆ ที่กระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่กลับไปทำงานเฉพาะหน้า ไม่ได้เตรียมเกมตั้งรับวางคนไว้สู้เลย ทั้งๆ ที่ก็น่ารู้กันอยู่แล้วว่าจะมีเกมอะไรที่จะเกิดขึ้นจากฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลกับ ส.ว.บ้าง
       “การที่พรรคร่วมรัฐบาลกับ ส.ว.เล่นเกมนี้ ผมไม่โทษเขาหรอก แต่ผมโทษว่าคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่ง ซึ่งความล้มเหลวที่ทำให้รัฐธรรมนูญยังนำไปสู่การแก้ไขไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลวของฝ่ายค้านที่ไม่เป็นเอกภาพ อ่อนแอเกินไป ไม่เป็นระบบ จนผมผิดหวังมาก ผมนั่งฟังการอภิปรายแล้วยังถามตัวเองอยู่ในใจเลยว่า เห้ย ตกลงตั้งใจจะแก้รัฐธรรมนูญกันหรือเปล่า" นายวันชัยกล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"