"กนกวรรณ" จวกปธ.สารสาสน์ "ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่น่านับถือ"เล็งแก้กม. กำกับรร.เอกชน ป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุอีก


เพิ่มเพื่อน    


1ต.ค.63-นางกนกวรรณ วิลาวัลย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับกรณีครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์  ในรายการ "เรื่องลับมาก "ทางช่องเนชั่นทีวี หมายเลข  22 ที่ออกอากาศทุกจันทร์-ศุกร์ เวลาประมาณ 15.00น. โดยมีดร.เสรี วงษ์มณฑา เป็นพิธีกรในรายการ  ได้ซักถามปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขว่าเป็นอย่างไร

ดร.เสรี:สิ่งที่เจ้าของโรงเรียนพูดเขาเลือกครูที่หน้าตา ต้องไปขูดหินปูน รู้สึกยังไงกับคำแถลงการณ์แบบนี้ 


กนกวรรณ : สิ่งที่ท่านพูด เป็นสิ่งที่รับไม่ได้หรอกค่ะ ทั้งสังคมที่ปรากฎชัด ดิฉันเองไม่ต้องไปตัดสินแล้ว และโดยส่วนตัว หลังจากการรับฟังที่ท่านพูด ท่านเป็นผู้ใหญ่ ดิฉันไหว้ท่านก่อนด้วยความเคารพนับถือ เราคนไทยนะคะอาจารย์ แตสิ่งที่ท่านแสดงออก คำพูดของท่าน ท่านไม่ใช่ผู้่ใหญ่ที่น่านับถือ และก็ไม่มีความสง่างาม ไม่เหมาะสม ที่จะจัดการศึกษา ดิฉันมอบหมายเลขา กช.(สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน )ส่งมาหารือ มอบหมายให้ประสานงาน เชิญให้ผู้มีอำนาจ มาหารือกัน มาหามาตรการที่เหมาะสม การประสานงานก็ให้ลูกชาย ลูกสาวมา ดิฉันก็ถามยืนยันว่า คนที่มาต้องเป็นคนที่มีอำนาจอย่างถูกต้องนะ   มาแล้วเราต้องเดินหน้า  เพราะคำตอบที่ได้เราจะต้องแถลงให้ประชาสชนและคนทั้งประเทศ ได้รับทราบรับรู้  เป็นสิ่งที่จำเป็น จะมาแบบอะไรว่างเปล่าไม่ได้  ในช่วงายวันนั้น ประชาชนจำนวนมาก  แม้แต่ผู้ปกครองที่ไม่ได้มีลูกอยู่ในห้องเรียนนั้นน ก็วิตกกังวล ดิฉัน ก็ต้องแก้สถานการณ์  ให้เจ้าหน้าที่เอากระดาษ เอ 4 หลายใบ ไปให้ผู้ปกครองเขียนข้อให้ปรับปรุง ให้เขียนเลยค่ะ ลงลายมือชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ แล้วให้ถ่ายเอกสาร  มอบให้ตัวแทนทางรร. ฝ่ายกม.โรงเรียน  และถือคึนละชุด และให้การบ้านไป คุณต้องกลับไปทำเจรจา สิ่งใดที่ทำได้เลย ทำเลย สิ่งใดที่ต้องแถลงต้องยึดตามบันทึกข้อตกลง 


ดร.เสรี :มีอยู่ประเด็นฟังแล้่วตกใจมาก  มาเพราะอยากได้เงิน 

 


กนกวรรณ: ท่านพูดไม่ถูก เป็นคำพูดไม่ให้เกียรติผู้ปกครอง ไม่ต้องอะไรมากหรอกอาจารย์  อย่างอื่นที่เราไปทำเล็กๆน้อย เหมือนเราขับรถชน เกิดอุบัติเหตุ  คู่กรณีของเราเป็นมอเตอร์ไซค์  คนยากคนจน ผิดถูกยังไง เราต้องแสดงน้ำใจก่อน แล้วเขาเป็นผูู้บริหาร เป็นเจ้าของโรงเรียน ทำไมไม่มีน้ำใจ เราเป็นคนไทยต้องแสดงน้ำใจ ดิฉันคิดว่า เป็นความอัดอั้น เหมือนเกิดกรณีต่างๆ เกิดในสังคม ที่มีการเรียกเงินไป แต่จริงๆไม่อยากได้ เอาเงินไปบริจาคต่อ เมื่อเป็นอย่างนี้ ถูกกระทำแบบนี้ๆ ก็สมควรเรียกไปก่อน  


ดร.เสรี :มีอยู่เรื่องหนึ่ง ท่านบอกตัวท่านเองเป็นครูอายุ 18 ไม่เคยมีใบอนุญาติเลย รมต.คิดว่าอย่างไร คนที่เป็นครูบาอาจารย์ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ 


กนกวรรณ : ใบประกอบวิชาชีพมันเกิดทีหลังนะคะ แต่วิญญาณรวามเป็นคนครู ต้องมีจิตสำนึกก่อน  มีหัวใจ จิตสำนึกความเป็นครูสำคัญกว่า การมีใบอนุญาตไม่ได้บ่งบอกคุณเป็นครูของแผ่นดิน ให้คนมากราบไหว้


ดร.เสรี: ครูของเขา 400 กว่าคน บอกมีใบอนุญาตไม่ถึง 200 คน 


กนกวรรณ : ดิฉันได้เรียนกับพี่น้องประชาชน ดิฉันได้มอบให้เลขาคุรุสภา พร้อมฝ่ายกฎหมายไป แจ้งความร้องทุกข็กล่าวโทษ ถ้าเกิดเจอพบใหม่อีก และตอนนี้ฮาร์ดดิส อยู่กับผู้กำกับสน..ชัยพฤกษ์ และทางตำรวจ ให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองอย่างมาก ผู้ปกครองท่านไหนอยากไปท่านให้เบอร์ ไปพบ ประสานงานได้เลย  ถ้าเกิดเหตุแบบนี้อีก ดำเนินคดีได้เลย


ดร.เสรี :ผ่านมาหลายวัน รู้สึกกรณีทำความผิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆจำนวนคนก็เพิ่ม สถานการณ์ก็เพิ่ม เป็นแบบนี้ ทางศธ. จะจัดการอย่างไร


กนกวรรณ : วันนี้ ปลัดศธ.ท่านใหม่ ดิฉันปรึกษาหารือกับท่านและข้าราชการ  มารวบรวมความคิด และเรื่องระเบียบ แน่นอนอยืนยัน ว่าไม่ใช่ศธ.คุยกันเอง แต่ ทางกระทรวงสาะารณสุข(สธ.)ก็มาด้วย วันแรก เย็นวันนั้น ดิฉันโทรหาไปปลัดศธ. และท่านอนุทิน ชาญวีรกูล ท่านรองนายกฯ บอกว่า เราต้องทำควบคู่กัน และท่านอนุทิน บอกว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ไลน์มาบอกว่า ทำดีแล้ว ให้ทำให้ดีที่สุด  ท่านรมว.ว่าการ ฯ ก็ห่วงใย ลงไปที่โรงเรียนเอง  คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ก็ให้กำลังใจ  บอกว่าทำดีแล้ว พวกเราทำงานร่วมกันสองกระทรวง เราเยียวยาให้ผู้ปกครอง ทางกระทรวงสาธารณสุข เยียวยาเรื่องจิตใจ  เพื่อให้สังคมได้เห็นเราทำถึงไหน และในแง่จิตเวช ทิศทางไปทางไหน 


ดร . เสรี: เขาบอกว่าคนไม่มีใบอนุญาติ ไม่ใช่ครู เป็นเพียงพี่เลี้่ยง เห็นท่านรมต.บอกว่าไม่มีในระบบ


กนกวรรณ : ไม่มีในระบบ เขาไม่เรียกพี่เลี้ยงว่าเป็นครู เป็นคำที่เรียกกันเอง   คือคนที่เจ้ามาปฎิบัติหน้าที่นี้ได้ต้องขอ ใบอนุญาต ทางโรงเรียนต้องติดต่อขอกับคุรภสภา ในการที่จะดูแลนักเรียน โรงเรียนมีความผิดค่ะ


ดร.เสรี และถ้าผิดขนาดนี้ ศธ.มีอำนาจเข้าไปสั่งปิดโรงเรียนได้ไหม   

กนกวรรณ: ในเรื่องการดูแลจะมีระบบ สั่งการอะไรต่างๆ  แต่เราคิดถึงผู้เรียนก่อน สงสารเด็ก ถ้าเราจะจัดการปุ๊ปปับ ๆเนี่ย ไม่ได้ ตอนนี้ที่เราทำคือ ณ เวลานี้ ปลัดกระทรวงกำลัง เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ไปหาที่เรียนก่อน ดิฉันสั่งไปว่า ดูหาโรงเรียนที่แวดล้อม  หลักสูตรตรงกัน และดูจำนวนนักเรียนแต่ละที่เป็นยังไง และโรงเรียน.หลักสูตรพิเศษแบบนี้ จริงๆ  ต้องขอ ให้เรมว.ศธ. เป็นคนเซ็นอนุมัติ  แต่ดูแล้ว โรงเรียนทำเกิน นี่ก็ผิดอีก  เราต้องไปดูว่า จำนวนนักเรียนต่อห้องของโรงเรียนใกล้เคียงได้มาตรฐาน เราก็จะไปขอให้เด็กเข้าไป 


ดร.เสรี :นร.3,800 คน สำรวจรร.โดยรอบติดว่ามีโรงเรียนไหน มีหลักสูตรคล้ายคลังกันจะรองรับได้ไหม


กนกวรรณ:  คิดว่าระยะ 10กม.ใกล้ๆ น่าจะม เท่าที่พูดคุยผู้ปกครองส่วนหนึ่งเขามี โรงเรียนในใจแล้ว


ดร.เสรี :เท่าที่ดำเนินการตามกม. ดำเนินคดีอะไร


 กนกวรรณ:ดคีอาญา ผู้ไม่มีใบอนุญาตเป็นครู และผู้ไม่มีความชอบธรรม คุณสมบัติที่จะทำการสอน และคุรุสภาเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี และ สช.ศธ.จะดำเนินการ ขั้นตอนเกี่ยวคดีอาญา เราเดินหน้าต่อ สิ่งใดที่ปรากฎว่าเป็นความผิด ก็จะดำเนินการต่อ


ดร.เสรี :ตอนนี้เ เห็นบอกว่าชายชุดดำไปปรากฎหน้ารร.


กนกวรรณ : เราก็แจ้งตร.ไป แต่ดิฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะเป็นข่าว ทางศธ. ขอความร่วมมือไปทางตร.ท่านผู้กำกับ บอกว่า ถ้ามีสถานการณ์อะไร  มีตร.ดูแลทุกเรื่อง  แต่ถ้าเป็นแค่ข่าวลืออย่างเดียว ก็อาจสร้างความไม่สบายใจให้สังคมได้


ดร.เสรี :มีคนบอกว่าเรื่องเกิด 20กว่าปี  เคยมีการร้องเรียนเงียบหายไป ถ้าไม่เกิดเรื่องครูจุ๋ม


กนกวรรณ :ดิฉันให้ความสำคัญ  รับฟังปัญหา รับฟังความเห็นประชาชน จากลูกๆเบาวชน  ตอนนี้ ดิฉันเป็นแม่โอ๊ะ ของลูกๆ ไปแล้ว เมื่อประเด็นนี้มา อะไรที่เป็นปัญหาเราก็ไล่เรียงกันไป  เราได้เห็นพ.ร. บ. การศึกษาเอกชน  กฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ที่ต้องยึดโยงกับกม.หลัก เรามาดู กม.หลักสิ่งใด ต้องแก้ไขปรับปรุงได้ ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่บนไป  หลายสิ่งแก้ไขไปแล้ว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ ถือว่าวิกฤติเป็นโอกาส  ให้ต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดสิ่งที่เหมาะสม และต้องเป็นการป้องปราม สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต     
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"