นิพนธ์แฉพิรุธ ฮั้วซื้อรถอบจ. ชงข้อมูลปปช.


เพิ่มเพื่อน    

  "นิพนธ์" เปิดหลักฐานใหม่แฉพิรุธ 2 บริษัทร่วมประมูลจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ อบจ.สงขลา ทั้งปลอมเอกสารเป็นเอเยนต์ต่างประเทศเก๊ สมยอมราคาฮั้วประมูล มีผลให้สัญญาเป็นโมฆะ ยันไม่จ่ายเงินตามคำสั่ง มท. โวย ป.ป.ช.ปิดทางไม่ให้เข้าชี้แจงก่อนหอบหลักฐานยื่น ป.ป.ช.แล้ว รัฐบาลสั่งเร่งรัดติดตามเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวทุจริตคดีจำนำข้าวก่อนหมดอายุความ ม.ค.64

    ที่พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 5 ตุลาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดสมัยที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ไม่อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2  คัน วงเงิน 50,850,000 บาท ที่ทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556
    โดยนายนิพนธ์กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าการจัดซื้อดังกล่าวเป็นการฮั้วประมูล มีผลเป็นโมฆะ ยืนยันว่าตนกระทำโดยสุจริตเพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการ ไม่ได้มีเจตนาละเว้นหรือกลั่นแกล้งเรียกผลประโยชน์กับบุคคลใด ทั้งนี้ เงินจัดซื้อรถซ่อมบำรุงอเนกประสงค์จำนวนดังกล่าวยังเก็บรักษาอยู่ที่คลังของ อบจ.สงขลา ไม่ได้มีเงินแม้แต่บาทเดียว ที่ทำไปเพราะต้องการรักษาประโยชน์ของแผ่นดินโดยแท้ ตนทำหนังสือไปยัง ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 29 เม.ย.63 เพื่อขอชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวด้วยวาจา แต่เมื่อวันที่ 9 ก.ย.63 ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือลงนามโดยนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ภาค 9 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน ตอบกลับมายังตนโดยระบุว่า  ได้ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ ครบถ้วนชัดเจนเพียงพอต่อการวินิจฉัยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงด้วยวาจา
    นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบของคณะกรรมการพบว่าการจัดซื้อครั้งนี้มีการสมยอม เนื่องจากมีการขยายเวลาซื้อแบบการประกวดราคาจากวันที่ 20-24 เม.ย.56 ต่อมา 25 เม.ย.56 กลับประกาศขยายเวลาถึงวันที่ 3 พ.ค.56 ตรงนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุว่าทำไม่ได้ เพราะถ้าจะขยายเวลาจริงๆ ต้องขยายก่อนวันที่ 24 เม.ย. หากขยายหลังวันที่ 24 เม.ย.ถือเป็นการไม่ชอบและต้องประกาศยกเลิก อีกทั้งต้องประกาศให้มีการประกวดราคาใหม่ แต่พบว่าในระยะเวลาที่ขยายดังกล่าว ในวันที่ 3 พ.ค.มีบริษัทเข้ามาซื้อแบบ คือบริษัท เอส พี เค ออโต้เทค จำกัด ซึ่งพบว่าจดทะเบียนก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน ทำให้เห็นได้ว่าการขยายเวลาซื้อแบบมีเพียงบริษัท เอส พี เคฯ ที่ได้รับประโยชน์ เพียงบริษัทเดียว
    "คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังพบว่า บริษัท เอส พี เคฯ ได้อ้างเป็นตัวแทนบริษัทต่างประเทศ ทั้งที่อยู่ในประเทศออสเตรเลียและประเทศสหรัฐอเมริกา จนทำให้เป็นผู้มีคุณสมบัติผ่านเข้าร่วมประมูลเป็นคู่แข่งขันหรือคู่เทียบ แต่ความจริงจากการตรวจสอบได้รับเอกสารยืนยันจากหน่วยงานทางการของทั้งสองประเทศ ยืนยันว่าบริษัทเหล่านั้นไม่มีอยู่จริง และบริษัท เอส พี เคฯ ไม่ได้เป็นตัวแทนตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบยังได้รับเอกสารจากบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ยืนยันว่าบริษัท พลวิศว์ฯ ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทดังกล่าว ดังนั้นจากหลักฐานทั้งหมด บริษัททั้งสองแห่งนี้น่าเชื่อว่ามีการปลอมแปลงเอกสารและการสมยอมกันในการสู้ราคา" นายนิพนธ์กล่าว
    อดีตนายก อบจ.สงขลากล่าวด้วยว่า ยังตรวจพบความเชื่องโยงของกลุ่มบริษัทที่มาร่วมยื่นประมูล เป็นการฮั้วประมูล มีการซื้อตั๋วแลกเงินให้บริษัทที่แข่งขันกับตัวเอง ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดปกติแน่นอน และพบด้วยว่ามีเอกสารปลอมอื่นๆ อีก เช่น การปลอมลายเซ็นบุคคลที่อ้างเป็นกรรมการบริษัท เอส พี เคฯ ซึ่งประเด็นนี้ อบจ.ได้ดำเนินคดีแล้ว
    "พยานหลักฐานที่ได้มาเป็นหลักฐานใหม่ ที่สามารถแสดงให้เห็นว่าการจัดซื้อเมื่อปี 56 เป็นการจัดซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขยายระยะเวลาที่ส่อให้เห็นถึงการสมยอม หนังสือยืนยันจากประเทศออสเตรเลีย กงสุลไทยในออสเตรเลียยืนยันว่าไม่มีอยู่จริง เมื่อไม่มีคู่เทียบมีเพียงบริษัทเดียว  ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยการจัดซื้อดังกล่าวต้องยกเลิก เพราะถือว่าผิดประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และขัดต่อ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560 ที่สำคัญเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.52 มีหนังสือจากกระทรวงมหาดไทยส่งถึง อบจ.สงขลา โดยมีสาระสำคัญให้ชำระเงินต่อเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ขณะนี้คดียังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นช่วงบ่ายวันนี้ผมให้ตัวแทนนำเอกสารที่ได้มาใหม่ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาเพิ่มเติมต่อไป" นายนิพนธ์กล่าว
    วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการดำเนินการเกี่ยวกับการทุจริตตามโครงการรับจำนำข้าว โดยมี พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าร่วมประชุมด้วย
    ภายหลังการประชุม พ.ต.ท.วันนพให้สัมภาษณ์ว่า มีการหารือเกี่ยวกับข้าวที่เก็บอยู่ในโกดังของ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีของหลายหน่วยงาน ในส่วนของ ป.ป.ท.ก็รับผิดชอบอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งมีการชี้มูลไปบางส่วนและอยู่ระหว่างการไต่สวน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้า ซึ่งนายวิษณุได้กำชับจะต้องติดตามเร่งรัดดำเนินคดีโดยเร็ว โดยเฉพาะคดีที่อยู่ใน ป.ป.ท., ป.ป.ช.และตำรวจ สำหรับการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในคดีแพ่งนั้น ป.ป.ท.ไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว โดย อ.ต.ก.และ อคส.จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการติดตามค่าเสียหายจากทุจริตโครงการจำนำข้าวในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่จะหมดอายุความในเดือน ม.ค.64 ว่า รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งในเรื่องนี้ ติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลลงไปติดตามว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไร ซึ่งคดีความที่จะขาดอายุความในเดือน ม.ค.64 นั้นยังมีเวลาอยู่.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"