เลขาฯประธานรัฐสภายันคำวินิจฉัยศาลรธน.ไม่กระทบกมธ. เหตุกฎหมายสูงสุดให้อำนาจเรียกบุคคล-เอกสารได้


เพิ่มเพื่อน    

7 ต.ค.63 - นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้มาตรา5 มาตรา8 มาตรา 13 ของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพ.ศ. 2554 มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ว่า ประเด็นนี้เมื่อมีความชัดเจนจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็จะเห็นได้ว่า 3 มาตราของพ.ร.บ.ดังกล่าว ก็จะไม่สามารถที่จะใช้บังคับกับกรณีคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการได้อีกต่อไป แต่ด้วยเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญที่ให้มีคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการสอบสวนพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาแล้วแต่กรณีนั้น จะเห็นได้ว่าการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก

นายราเมศ กล่าวต่อว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวไม่ได้ถึงขั้นมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ให้อำนาจคณะกรรมาธิการในการที่จะกระทำการกิจการสอบหาข้อเท็จจริง และกำหนดให้มีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคลใดหรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นในคณะกรรมาธิการแต่ละชุดที่มีหน้าที่ เพื่อสอบหาข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ ฉะนั้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ของคณะกรรมาธิการแต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"