สลด!สังเวยงานบุญ18ศพ!


เพิ่มเพื่อน    


    กฐินเลือดสังเวย 18 ศพ! รถบัสคณะทำบุญชนสนั่นรถไฟจุดทางลักผ่าน เสียชีวิตเกลื่อนราง บาดเจ็บอีก 44 ราย  ขนส่งฯ ชี้เจอ 3 ข้อหา ปรับ 1.5 แสนบาท ด้านบิ๊กตู่สั่งเร่งหาสาเหตุล้อมคอกไม่ซ้ำรอยอนาคต
    เมื่อวันอาทิตย์ เวลาประมาณ 08.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนคณะขบวนกฐิน เป็นรถบัสที่เดินทางมาจากสำโรง บางนา จ.สมุทรปราการ เพื่อทำบุญทอดกฐินที่วัดบางปลานัก จ.ฉะเชิงเทรา เหตุเกิดขึ้นที่สถานีคลองแขวงกลั่น (ไม่มีไม้กั้น) หมู่ที่ 7 ต.บางเตย จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ ขบวนรถไฟดังกล่าวบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ถึง สทล.51/1 บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางลักผ่าน ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้ายและสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ ได้มีรถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว
     ทั้งนี้ พนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือน ก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ 44 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย โดยรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร 22 ราย ออกจากโรงพยาบาลพุทธโสธรแล้ว 9 ราย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ 7 ราย โรงพยาบาลคลองเขื่อน 6 ราย และโรงพยาบาลบ้านโพ 9 ราย ซึ่งได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ คนขับรถบัสเสียชีวิตคาที่ทราบชื่อ นายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี
     นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของการรถไฟฯ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ในการประสานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ และทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย และโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทุกฝ่ายให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ 
    ขณะที่นางเนตรนภา จัทรา ผู้โดยสารบัสคันดังกล่าว กล่าวว่า เดินทางออกมาจากสมุทรปราการประมาณ 06.30 น. พอมาถึงที่เกิดเหตุ ตอนนั้นฝนตก รถวิ่งมาไม่ได้เร็วมาก ขับมาเรื่อยๆ ตนเองนั่งอยู่ตรงกลาง มองเห็นรถไฟมา ก็คิดว่ารถบัสจะจอด ก็ไม่จอด ซึ่งไม่รู้ว่าไม่มีที่กั้น รถขึ้นไปบนทางรถไฟแล้วแต่เร่งผ่านไปไม่ทัน เพราะรถไฟมาประชิดแล้ว
    นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าว ว่า เท่าที่ได้สอบถามผู้บาดเจ็บทราบว่าเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุกำลังจะข้ามทางรถไฟ คนในรถได้ตะโกนบอกว่ารถไฟกำลังมา คนขับคงไม่ได้ยิน พยายามเร่งเครื่องช่วงเนินทางขึ้นจุดตัด เป็นจังหวะที่รถไฟมาถึงพอดีและถูกชนอย่างแรง 
    นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบริหารการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และอำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด นอกจากนี้​ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต​ 
    ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า อนุกรรมการฯ เคยศึกษาปัญหาเรื่องอุบัติเหตุในจุดตัดระหว่างทางรถไฟกับเส้นทางคมนาคมทางถนนที่มีมาอย่างต่อเนื่องมาแล้ว โดยมีสถิติจุดตัดรถไฟกับถนน 2,684 แห่ง มีเหตุอันตรายส่วนใหญ่เกิดขึ้นลักษณะขบวนรถไฟชน หรือทับคนมากที่สุดประมาณ 400 ครั้ง ยานพาหนะชนกับขบวนรถไฟบริเวณจุดตัดทางรถไฟจำนวน 383 ครั้ง และจากสถิติพบว่าในแต่ละปีที่เกิดอุบัติเหตุปีละประมาณ 77 ครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย ผู้บาดเจ็บ 74 รายโดยสาเหตุ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมากที่สุดคือ ประเภททางลักผ่าน รองลงมาคือบริเวณจุดตัดประเภทที่ไม่มีเครื่องกั้นถนน
    "ทางกรรมาธิการได้สรุปปัญหาดังกล่าว เสนอผ่านสภาและส่งไปยังรัฐบาลแล้ว เพื่อให้มีการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนระบบ ดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดตัดที่ไม่มีแผงกั้น จะมีแต่สัญญาณเสียง เช่นเดียวกันกับเหตุที่เกิดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจุดตัดลักษณะนี้จะใช้ได้ผลกับคนที่ใช้เส้นทางประจำในพื้นที่เท่านั้น แต่ถ้าเป็นรถที่มาจากที่อื่น เช่น รถบัสท่องเที่ยว ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าบริเวณดังกล่าวมีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงขอเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาจุดตัดโดยให้มีแผงกั้น และติดกล้องวงจรปิด เพื่อนำผู้ฝ่าฝืนมาลงโทษตามกฎหมายได้ ติดจีพีเอสรถไฟ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ว่ารถไฟถึงไหน และสามารถแจ้งระยะเวลาผ่านให้ประชาชนทราบได้ด้วย" นายนิกรระบุ 
    นายนิกรระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2564 กรมการขนส่งทางรางได้ของบประมาณ แต่ไม่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางรางได้ขอใช้เงินในกองทุนเลขสวย กระทรวงคมนาคม เพื่อทำของการศึกษาทั้งระบบทั่วประเทศ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
    นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอใช้งบประมาณจากกองทุนความปลอดภัยทางถนน (กปถ.) นำมาศึกษาวิธีการแก้ปัญหาอย่างถาวร หากงบประมาณกองทุน กปถ.ไม่เพียงพอ ให้ทำเรื่องเสนอขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง เพื่อนำมาดำเนินการต่อไป
    "นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ รฟท.ไปตรวจสอบสาเหตุและวิธีป้องกันแก้ไขปัญหาโดยด่วน ซึ่ง รฟท.จะต้องเข้าไปพิจารณาบริเวณจุดตัดทางรถไฟอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ขณะเดียวกัน รฟท.จะต้องไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศด้วย โดยแยกประเภทว่ามีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยหรือไม่ จากนั้นให้สรุปรายละเอียด และรายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคม" นายศักดิ์สยามกล่าว
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจาก รฟท.ระบุว่า รถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว พนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 
    สำหรับจุดตัดทางถนนและทางรถไฟนั้น มีทั้งสิ้น 2,684 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย เสมอระดับ 2,278 จุด (ได้รับอนุญาต 1,657 จุด และทางลักผ่าน 621 จุด), ทางลอด 214 จุด และทางข้าม 192 จุด ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุจุดตัดทางรถไฟในช่วงปีงบประมาณ 2558-2562 พบว่ามีจำนวนอุบัติเหตุบริเวณจุดตัด จำนวน 383 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 371 ราย และมีผู้เสียชีวิต 138 ราย หรือเฉลี่ยในแต่ละปี เกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับปีละประมาณ 77 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 74 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย
    รายงานข่าวระบุอีกว่า จากกรณีดังกล่าว สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น ทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ประกอบด้วย 1.ค่าทำศพ 40,000 บาท เนื่องจากเสียชีวิตไม่ใช่ระหว่างทำงาน 2.เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต และ 3.เงินชราภาพ (กรณีที่ 2 และ 3 อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล และคำนวณจำนวนเงินสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับของผู้เสียชีวิตแต่ละราย)
    ขณะที่กรมการขนส่งทางบกรายงานอุบัติเหตุเบื้องต้น พบผิด 3ข้อหา โดนโทษปรับ 150,000 บาท คือบรรทุกผู้โดยสารเกิน, ขาดชำระภาษีประจำปี และขับรถไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้นรถที่เกิดเหตุมีประกันไว้ 2 ประเภท คือ 1.มีประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัย หมดอายุ 30 ก.ย.64 2.มีประกันภัยประเภท 3 บ.สินมั่นคงฯ หมดอายุ 30 ก.ย.64.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"