'ดอกไม้-ก้อนอิฐ' เลือกเอง


เพิ่มเพื่อน    

   วันนี้ขอเสียบดอกไม้ 2 ช่อใหญ่ๆ ให้ 2 นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่ ดอกไม้ อาจจะกลายเป็น ก้อนอิฐ ได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับผลของการกระทำของทั้ง 2 นายตำรวจ
    ช่อแรกให้กำลังใจ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา หรือชื่อเดิม สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. กับท่าทีขึงขังเอาจริงเอาจังประกาศ เอาผิด ดารา นักร้อง นักแสดง ที่เข้าไปรีวิวสินค้าให้สินค้าในเครือบริษัท เมจิกสกิน จนสร้างควมร่ำรวยให้บริษัทแห่งนี้มหาศาล ทั้งที่ผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ปลอมเครื่องหมาย  อย. 
    จนสร้างความเสียให้แก่ผู้บริโภค!!!
    แม้ตามจริง ดารา เน็ตไอดอล คงยากที่จะไปตรวจสอบว่าสินค้าตัวไหนมี อย.จริง อย.ปลอม แต่สิ่งที่ต้องรับผิดชอบเต็มๆ คือการโฆษณาเชิญชวนผู้บริโภค ผู้ที่ชื่นชมตัวเองให้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ด้วยเนื้อหาข้อความว่าใช้แล้วดี ใช้แล้วขาว ใช้แล้วเต่งตึง ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยได้ใช้ ไม่เคยได้กิน ถือว่าขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างร้ายแรง 
    ไม่อยากใช้คำว่า โกหก ไม่อยากใช้คำว่า หลอกลวง เพราะนั่นเป็นบท เป็นคำโฆษณาที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ให้ดารามาพูด แลกกับตัวเงิน 5 หลัก 6 หลัก แต่เมื่อยอมพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และรับผลที่ตามมาเมื่อผลิตภัณฑ์ เมื่อสินค้าที่ตัวเองรับประกันไปไม่ใช่อย่างที่ตัวเองบอกไว้ เพราะต้องไม่ลืมว่า หากเป็นชาวบ้านร้านตลาดพูดก็คงไม่มีน้ำหนัก ไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครสนใจ แต่เมื่อเป็นดารา เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมได้รับความเชื่อถือ ย่อมเป็นแรงกระตุ้นในการตัดสินใจหลายส่วน 
    เหมือนอย่างที่ พล.ต.อ.วิระชัย บอกไว้...
    "จะวิเคราะห์และพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เพื่อเป็นตัวอย่างให้ดารารายอื่นๆ ว่าก่อนจะรับรีวิวโฆษณาสินค้าอะไร ก็จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน และจะต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน รวมถึงต้องอยู่บนหลักของความถูกต้อง ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น"
    ถูกต้องที่สุด!!!
    ยกมือสนับสนุนการเดินหน้าดำเนินการตามกฎหมาย เอาผิด ผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น นายทุน จะเป็น ดารา จะเป็น เน็ตไอดอล จะเป็น คนมีชื่อเสียง อย่างจริงๆ จังๆ ของ พล.ต.อ.วิระชัย เต็มที่ 
    ขออย่างเดียวอย่าขึงขังเพียงแค่ให้เป็นข่าว ให้คดีตื่นเต้น แล้วพอสุดท้ายก็แค่ "ปาหี่" เป็นพอ ไม่เช่นนั้นช่อดอกไม้อาจกลายสภาพเป็นก้อนอิฐได้ทันที
    ดอกไม้อีกช่อเสียบชื่นชม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.ที่เพิ่งลงนามคำสั่งแทน  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ที่ติดราชการบินไปงานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้าย 14 ตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาถึงชั้นประทวน ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการรับเงินจากสถานบริการ
    เพราะหลังจากเซ็นคำสั่งทั้ง 14 รายชื่อเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาด 2 ใน 14 รายชื่อโยกย้าย คือ ร.ต.อ.สมปอง หีบแก้ว และ ด.ต.วิชัยรัตน์ มงคลเคหา ถูกให้ออกจากราชการไปก่อนหน้านี้แล้ว พอ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ทราบเรื่องก็รีบมีหนังสือเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งตำรวจทั้ง 2 นาย
    พร้อมๆ กับแจ้งสื่อมวลชนยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และอธิบายสาเหตุความผิดพลาดทางธุรการ มาจากไม่มีการรายงานผลข้อมูลของหน่วยงานในสังกัดที่รับผิดชอบภายในกำหนดเวลา ทำให้สำนักงานกำลังพลไม่ทราบสถานภาพของตำรวจทั้ง 2 นายดังกล่าว
    ชื่นชมๆ ครับ...เมื่อผิดพลาดก็ออกมายอมรับผิดและชี้แจงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น 
    หากการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ที่มีการแก้ไขคำสั่ง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบ จนทั้งตำรวจ ทั้งชาวบ้านงง มีการชี้แจงแถลงไขเหตุผลการเปลี่ยนแปลง การแก้ไขคำสั่งแบบนี้บ้าง 
    เสียงเรียกร้อง "ปฏิรูปตำรวจ" เพราะข้องใจสงสัยการแต่งตั้งมีนอกมีใน มีเส้นมีสาย มีผลประโยชน์คงไม่ดังระงมเช่นทุกวันนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"