โพลเตือน'ม็อบจาบจ้วง' 'ประยุทธ์'สอบผ่านหวิว


เพิ่มเพื่อน    


    โพลตอกย้ำประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 96.7 ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมจาบจ้วงสถาบัน แนะให้ชุมนุมเรียกร้องเฉพาะเรื่องการเมือง ขณะที่ "บิ๊กตู่" สอบผ่านเฉียดฉิว เต็ม 10 ได้ 5.79  คะแนน ชมม็อบเยาวชนเรียบร้อยกว่าม็อบสีเสื้ออื่นๆ
    เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง จุดร่วม คนไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวนหน่วยในการวิเคราะห์ทั้งสิ้น 3,135 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง 18-23 ตุลาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา
    ถามความเห็นของประชาชนต่อม็อบเยาวชน พบว่า ส่วนใหญ่ที่สุดหรือร้อยละ 96.7 ระบุควรจะชุมนุมเรียกร้องเฉพาะเรื่องการเมือง อย่าจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ในขณะที่ร้อยละ 96.4 ระบุ เป็นการชุมนุมด้วยความสงบ ไม่วุ่นวาย เป็นความหวังให้ประเทศได้ ชุมนุมได้ดีกว่าม็อบเสื้อสีต่างๆ ที่สร้างความแตกแยกรุนแรงบานปลายในอดีต และร้อยละ 93.7 ระบุม็อบเยาวชนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สงบ ไม่รุนแรงบานปลาย เป็นแบบอย่างให้ม็อบเยาวชนทั่วโลกทำตาม
    ที่น่าสนใจคือ ความต้องการให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทำเพื่อเด็กและเยาวชน เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า อันดับแรก ได้แก่ ช่วยเหลือให้เด็กมีอนาคตที่ดี มีงานทำ มีรายได้ดี ได้ 8.04 คะแนน รองลงมาอันดับสอง คือ เป็นแบบอย่างพลเมืองที่ดี มีจิตอาสา ช่วยเหลือเกื้อกูลเด็กและเยาวชน ได้ 7.94 คะแนน, อันดับที่สามได้แก่ เป็นแบบอย่างที่ดี มีวินัย เป็นทั้งคนเก่ง คนดี คนกล้า ให้เยาวชนทำตาม ได้ 7.90 คะแนน, อันดับที่สี่ ได้แก่ สำนึกรักชุมชนท้องถิ่น รู้คุณแผ่นดิน ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ได้ 7.75 คะแนน และอันดับที่ห้า ได้แก่ มีทัศนคติที่ดีต่อชาติบ้านเมือง ได้ 7.49 คะแนน ตามลำดับ
    ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงจุดร่วมคนไทยระหว่างคนรุ่นใหม่ กับคนรุ่นเก่า พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.1 ระบุสำนึกรู้คุณแผ่นดิน สำนึกรักบ้านเกิด ชุมชนท้องถิ่น รองลงมาคือ ร้อยละ 63.4 ระบุความสะดวกสบาย ในขณะที่ร้อยละ 63.2 ระบุมีทัศนคติที่ดีต่อชาติบ้านเมือง, ร้อยละ 62.8 ระบุต้องการความปลอดภัยในชีวิต, ร้อยละ 62.5 ระบุเป็นพลเมืองที่ดี มีจิตอาสา, ร้อยละ 62.1 ระบุมีความมั่นคงในชีวิต, ร้อยละ 61.8 ระบุมีอนาคตที่ดี, ร้อยละ 60.4 ระบุมีงานทำ มีรายได้ดี และร้อยละ 58.8 ระบุมองหามหามิตรต่างชาติ จีน สหรัฐอเมริกา ช่วยทำประเทศไทยสงบสุข ไม่วุ่นวาย ไม่แทรกแซงภายในประเทศไทย
    เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นคนดี จริงใจแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้ 5.79 คะแนน ถือได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสอบผ่าน มีความหมายว่าประชาชนยังคงเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนดี จริงใจแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง
    ดร.นพดลเผยว่า ผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ม็อบเยาวชนเด็กไทยที่ทำต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันกว่า 3 เดือนแล้วเป็นม็อบที่วันนี้ค่อนข้างเรียบร้อย มีเหตุวุ่นวายบ้างเป็นจุดๆ แตกต่างจากม็อบคนรุ่นใหม่ ฮ่องกง ที่ยาวนานกว่า 1 ปีจนเกิดความแตกแยกรุนแรงบานปลายในฮ่องกง เศรษฐกิจพังพินาศ ยิ่งกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางที่เกิดม็อบคนรุ่นใหม่ คนตะวันออกกลาง ยิ่งเสียหายหนักกว่า แต่ม็อบเด็กเยาวชนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าจะควบคุมได้ เพราะเด็กเยาวชนไทยส่วนใหญ่มีพื้นฐานจิตใจที่ดีบริสุทธิ์ เพียงแต่เจอขบวนการปั่นกระแสอันเป็นเท็จในโลกโซเชียลที่ส่วนใหญ่ แรง ๆ มาจากต่างประเทศ หรือคนเพียงหยิบมือที่หลอกลวงให้เข้าใจผิดว่าอยู่ในต่างประเทศ ถ้าจะจัดการต้องจัดการกับพวกอยู่เบื้องหลังการปั่นกระแสแตกแยกของคนในชาติ ไม่งั้นจะกลายเป็นเล่นตามเกมของพวกจ้องทำลายประเทศไทย ไม่ใช่อยู่เหนือเกมนี้
    ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวต่อว่า การปั่นกระแสในโลกโซเชียลนี้ ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อความแตกแยกของคนในชาติที่จะรุนแรงบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าขาดการบริหารจัดการอารมณ์ของประชาชนที่ดี ทั้งบนโลกออนไลน์ (Online) และบนโลกจริงลงพื้นที่ (On-ground) ผลที่ตามมาคือ การคุกคาม ทำร้ายกลุ่มคนที่เห็นต่าง จะเกิดขึ้นในวงกว้างจนยากจะควบคุมได้ ดังนั้น “ชาติ สร้าง เยาวชน” คือ ทางออก โดยนำ จุดร่วม คนไทย มาวิเคราะห์ขยายผล ให้นายกรัฐมนตรีเร่งสั่งการทุกภาคส่วนของอำนาจรัฐ (State Power) และรณรงค์ประชาชนที่ไม่เกี่ยวกับอำนาจรัฐ (Non-State Power) ร่วมแรงร่วมใจตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการของกลุ่มย่อยๆ เป็นการเฉพาะกลุ่มในม็อบเด็กเยาวชน เช่น กลุ่ม LGBT จะช่วย “ทอน” กำลังของ “ธร” และพรรคพวกเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำให้ม็อบฝ่อลงไปได้
    เขาแนะนำว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนและฐานสนับสนุนได้มากขึ้นอีก โดยนำผลงานที่ริเริ่มในรัฐบาลปัจจุบันเกี่ยวข้องกับความหวัง (Hope) อนาคต (Future) ของกลุ่มเด็กและเยาวชน เช่น โครงการต่างๆ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่เกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนพิเศษหลายแสนรายทั่วประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ดูแลพวกเขาและผู้ปกครองของพวกเขาให้มีงานทำ มีอนาคตที่ดี ตัวอย่างเหล่านี้ ทำไมรัฐบาลไม่เอามาขยายผลให้เด็กๆ รู้ เข้าใจ เชื่อมั่นและสนับสนุน ถ้าทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีกองทุนนี้ ผลที่จะตามมาคือ ทัศนคติที่ดีของเด็กเยาวชนต่ออนาคตของตนเอง ต่อชาติบ้านเมือง ต่อสถาบัน และต่อรัฐบาลที่ดี ย่อมเกิดขึ้นจนสามารถเปลี่ยนจากการรับรู้ (Perception) กลายเป็นเรื่องราว (Story) ที่จดจำ (Remarkable) ได้ในกลุ่มประชาชนทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผู้รักชาติบ้านเมืองและสถาบันอย่างเข้มแข็ง” ผศ.ดร.นพดลกล่าว
    ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จากผลโพลชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยต่อข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเสียงสะท้อนที่กลุ่มผู้ชุมนุม และนักการเมืองต้องรับฟัง
    “ผลโพลที่ระบุว่าประชาชนยังให้ความเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ สอบผ่านเกินครึ่ง (5.79 คะแนน) เพราะเป็นคนดีจริงใจในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองว่า ผลโพลชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศชาติมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะผลงานที่โดดเด่นคือการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กล้าตัดสินใจตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. ทำให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและตรงจุด และขณะนี้กำลังอยูในกระบวนการฟื้นฟูประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั่วโลก โดยมีการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือ ศบศ. ขึ้นมาโดยใช้แนวคิดรูปแบบเดียวกัน ฉะนั้นจึงไม่ควรสร้างเงื่อนไขหรือปัจจัยใดที่จะขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูประเทศ” 
    น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามอาจกังวลว่า คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์จะเพิ่มสูงขึ้นหากสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีมากขึ้นได้ แล้วพวกเขาจะหมดโอกาสที่จะเข้าสู่อำนาจ ดังนั้นจึงพยายามขัดขวางเพราะไม่อยากให้กระบวนการฟื้นฟูประเทศทำได้อย่างราบรื่น แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนเองก็เริ่มมองเห็นและรู้เท่าทันแล้ว ประชาชนมองเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรือง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"