ภาคเหนือเริ่มหนาวเย็น ภูชี้ฟ้าเหลือ 12 องศา กิ่วแม่ปานลดฮวบแตะ 9 องศา ดอยอินทนนท์ 10 องศา นักท่องเที่ยวแห่ชมความงามทะเลหมอกและอาทิตย์ยามเช้า ส่วนที่บ้านใหม่ร่องกล้า ชาวบ้านต้องพาลูกเด็กเล็กแดงล้อมวงผิงไฟ โคราชยังเผชิญน้ำท่วม 9 อำเภอ-จักราชอ่วมต้องปิดโรงเรียน จับตาสุราษฎร์จ่อวิกฤติ 
    สภาพอากาศในจังหวัดเชียงรายเริ่มหนาวเย็นเป็นลำดับ เมื่อเช้ามืดวันที่ 25 ตุลาคมนี้ อุณหภูมิต่ำสุดในเขตพื้นราบ อ.เมืองเชียงราย วัดได้ประมาณ 18 องศาเซลเซียส ส่วนภูชี้ฟ้า วนอุทยานภูชี้ฟ้าเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง คาบเกี่ยวกับหมู่บ้านร่มฟ้าทอง หมู่ 18 ต.ปอ อ.เวียงแก่น อุณหภูมิลดต่ำเหลือเพียง 12 องศาเซลเซียส ช่วงเช้ามีพระอาทิตย์ขึ้นจากฝั่ง สปป.ลาว และแม่น้ำโขง ทำให้เกิดเป็นทะเลหมอกและภาพอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก
    นายบันเทิง เครือวงศ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.เชียงราย เจ้าของที่พักร่วมสรรค์สร้างภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า เปิดเผยว่า บรรยากาศบนภูชี้ฟ้าคืนสู่สภาพหนาวเย็น ทำให้ช่วงวันหยุดเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนมากขึ้น โดยเช้าวันอาทิตย์พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังยอดภูชี้ฟ้าเพื่อชมความงดงามจำนวนเกือบ 200 คน
    ด้านนายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวว่า สภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่เริ่มเย็นลง เป็นสัญญาณเข้าสู่ฤดูหนาวและฤดูกาลท่องเที่ยว ล่าสุดนักท่องเที่ยวพากันเดินทางไปสัมผัสกับลมหนาวและไอหมอกที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก ล่าสุดอุณหภูมิยามเช้าที่บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน กิโลเมตรที่ 42 และบนยอดดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดของประเทศไทย ลดลงเหลือ 9 -13 องศาเซลเซียส โดยที่บริเวณกิ่วแม่ปาน อุณหภูมิลดลงแตะที่ 9 องศา ที่ยอดดอย 10 องศา และที่ทำการอุทยาน 13 องศา นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปไม่ผิดหวังในวันหยุด ได้สัมผัสลมหนาวพร้อมกับชมทะเลหมอกและแสงแรกยามเช้าอย่างสวยงาม     
    พิษณุโลก ที่บ้านใหม่ร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุณหภูมิลดลงเหลือเพียง 10 องศา ช่วงเช้ามืดมีหมอกรอบหมู่บ้าน กระทั่งสายก็ยังมีอากาศหนาวเย็น ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านต้องก่อกองไฟผิงไฟคลายหนาว
    นายธนกร เฉลิมศรี ครูโรงเรียนบ้านห้วยน้ำไซ สาขาร่องกล้าวิทยา กล่าวว่า สภาพอากาศที่บ้านใหม่ร่องกล้าวันนี้ต่ำลงมาก ปีนี้คาดว่าอากาศจะหนาวเย็นลงอีก น่าจะมีอุณหภูมิลงลดเหลือเพียงเลขตัวเดียว และเตรียมลุ้นว่าจะเกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้งที่บ้านใหม่ร่องกล้า เหมือนทุกปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่
    ขอนแก่น สภาพอากาศโดยทั่วไป มีลมหนาวพาดผ่านพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากการวัดอุณหูมิล่าสุดเช้าวันอาทิตย์ บนยอดภู มีอุณหภูมิแตะ 18-22 องศาเซลเซียส ขณะที่พื้นที่ในเขตชุมชนเมืองอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างนำเสื้อกันหนาวและเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมาสวมใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย ขณะที่ภายในตลาดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น ประชาชนออกไปซื้อเสื้อกันหนาวและเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกันอย่างคึกคัก 
    ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วม ที่บ้านทองหลาง ต.ทองหลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา มวลน้ำจากลำน้ำมูลที่ไหลต่อเนื่องมาจาก อ.ปักธงชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ทำให้บางส่วนล้นตลิ่ง ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนในที่ลุ่มต่ำริมน้ำ จากการลงพื้นที่บ้านทองหลาง กระแสน้ำในลำน้ำมูลแรงขึ้น รวมถึงระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางจุดน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมถนนภายในหมู่บ้านหลายแห่ง รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ นอกจากนี้มวลน้ำเริ่มท่วมบ้านเรือนที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำ ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพปิดบ้านหนีน้ำ ย้ายขึ้นไปตั้งเพิงพักชั่วคราวในที่สูง ส่วนโรงเรียนบ้านทองหลางมีมวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ภายในโรงเรียนแล้วเช่นกัน ห้องเรียนชั้นล่างต้องขนย้ายอุปกรณ์การเรียนและสิ่งของขึ้นที่สูง โรงเรียนต้องประกาศปิดเรียนชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 10 หลังคาเรือนแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำมูลอย่างใกล้ชิด เพราะหลายจุดยังวิกฤติ น้ำเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 34 จังหวัด รวม 133 อำเภอ 518 ตำบล 2,249 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 73,014 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย (จันทบุรี ตรัง สุราษฎร์ธานี และปราจีนบุรี) บาดเจ็บ 3 ราย (สิงห์บุรี) ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 จังหวัด ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี ประชาชนได้รับผลกระทบ 13 ครัวเรือน นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ ปากช่อง ปักธงชัย โชคชัย สูงเนิน โนนสูง เมือง พิมาย เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอด่านขุดทด สุรินทร์ น้ำท่วม 6 อำเภอ 14 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 256 ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี              
    ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี 2 อำเภอ ได้แก่ ศรีมหาโพธิ และกบินทร์บุรี รวม 13 ตำบล 78 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 942 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สระแก้ว น้ำท่วม 8 อำเภอ 29 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,907 ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว อรัญประเทศ และโคกสูง ฉะเชิงเทรา น้ำท่วม 4 อำเภอ 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 69 ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ แปลงยาว และคลองเขื่อน  
    ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 13 ตำบล 37 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,281 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ เคียนซา และพุนพิน ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม น้ำท่วมขัง 7 อำเภอ ได้แก่ กำแพงแสน เมืองนครปฐม บางเลน ดอนตูม พุทธมณฑล สามพราน และนครชัยศรี รวม 70 ตำบล 462 หมู่บ้าน สุพรรณบุรี น้ำท่วม 8 อำเภอ 53 ตำบล 353 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,535 ครัวเรือน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ สองพี่น้อง อู่ทอง เมืองสุพรรณบุรี และบางปลาม้า  
    พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี พังงา และสิงห์บุรี พื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง พายุโซนร้อนกำลังแรง “โซเดล” (พายุระดับ 4) ฉบับที่ 9 ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2563 พายุโซนร้อนกำลังแรง “โซเดล” (พายุระดับ 4) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน ไปทางใต้ประมาณ 115 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ส่งผลทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี.