
รัฐบาลแจงอีกรอบ บัตรทองรักษาทุกที่เฉพาะศูนย์บริการสาธารณสุขและคลินิกใกล้บ้านเท่านั้น นำร่องก่อนใน กทม.เริ่ม 1 พ.ย.นี้ ส่วนผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวนำร่อง 4 จว. นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้เแจงว่า นโยบายยกระดับบัตรทองที่จะเริ่มวันที่ 1 พ.ย.นี้ ประชาชนในกรุงเทพฯ รักษาทุกที่เฉพาะศูนย์สาธารณสุขและคลินิกใกล้บ้านเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์ เริ่ม 1 พ.ย.นี้เช่นกัน ขณะที่อีก 2 ด้าน คือ มะเร็งส่งตรงถึง รพ.เฉพาะด้านที่ไม่แออัด และย้ายสถานพยาบาลเมื่อใดรักษาที่ใหม่ได้ทันที เริ่ม 1 ม.ค.64 เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับนโยบายการยกระดับบัตรทองซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกระดับบริการ 4 ด้าน ได้แก่ 1.คน กทม.รักษาทุกที่ ณ เครือข่ายหน่วยบริการชุมชนอบอุ่น 2.ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์ 3.มะเร็งส่งตรงถึง รพ.เฉพาะด้านที่ไม่แออัด 4.ประสงค์จะย้ายหน่วยบริการเมื่อใดก็สามารถรักษาที่ใหม่ได้ทันทีนั้น
ในส่วนของบริการที่จะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย.63 มี 2 ด้าน คือ 1.ประชาชนใน กทม.รักษาทุกที่ ณ เครือข่ายหน่วยบริการชุมชนอบอุ่น และ 2.ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวทดลองนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์ ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายที่ประชาชนใน กทม.สามารถรักษาทุกที่ ณ เครือข่ายหน่วยบริการชุมชนอบอุ่นนั้น ที่ผ่านมาผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองจะถูกจับคู่กับคลินิกประจำเพียงแห่งเดียว เมื่อเจ็บป่วยก็ต้องไปรักษาที่คลินิกนั้นๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.63 เป็นต้นไป ผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองจะสามารถเข้ารับบริการได้ที่ "เครือข่ายหน่วยบริการชุมชนอบอุ่น" ซึ่งเครือข่ายบริการชุมชนอบอุ่นใน กทม.กระจายในทุกเขต แบ่งออกเป็น 1.คลินิกชุมชนอบอุ่น และ 2.คลินิกเฉพาะทางชุมชนอบอุ่น โดยผู้มีสิทธิ์บัตรทองสามารถใช้บริการได้ทุกแห่งภายในเขตของตนเองเท่านั้น
ทั้งนี้ สปสช.ให้ความมั่นใจผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองว่า ทุกคนจะมีหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.63 เป็นต้นไป ประชาชนผู้มีสิทธิ์บัตรทองในกรุงเทพฯ จะสามารถเข้ารับบริการรักษาปฐมภูมิทุกที่ในเครือข่ายหน่วยบริการใน กทม. โดยมี "ศูนย์บริการสาธารณสุข" ของ กทม.ทั้ง 69 แห่งใน 50 เขตเป็นหน่วยบริการแม่ข่ายของแต่ละเขต ทั้งนี้ได้จัดกลุ่ม "หน่วยบริการ" เป็น "เครือข่ายบริการ" ทำให้ผู้มีสิทธิ์บัตรทองใน กทม.มีหน่วยบริการดูแลเพิ่มขึ้น และสามารถเข้ารับบริการปฐมภูมิที่หน่วยบริการปฐมภูมิใดก็ได้ในเครือข่ายแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ยังได้เพิ่ม "หน่วยบริการร่วม" ในระบบบริการรูปแบบใหม่ อาทิ คลินิกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง, คลินิกทันตกรรม, คลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์, คลินิกกายภาพบำบัด และร้านขายยา ขย.1 โดยเปิดในหรือนอกเวลาราชการ ทำให้ผู้มีสิทธิ์บัตรทองใน กทม.จะได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพจากสหวิชาชีพด้านต่างๆ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ ไอ ปวด โรคเรื้อรังที่ต้องรับยาต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง ฯลฯ รวมถึงการบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค 16 รายการ และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ (กายภาพบำบัด) สามารถเข้ารับบริการได้ที่ "หน่วยบริการปฐมภูมิ" บัตรทองใกล้บ้านใน กทม.ได้ทุกแห่ง
นายอนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการบริการที่ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์นั้น จะเป็นการยกเลิกการกลับมาขอใบส่งตัวในกรณีที่ต้องนอนรักษาตัว (แอดมิต) ในโรงพยาบาลที่ไม่ใช่โรงพยาบาลประจำ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างความยุ่งยาก เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.63 เป็นต้นไป ผู้ป่วยจะไม่ต้องใช้ใบส่งตัวอีกแล้ว โดย สปสช.จะจัดทำระบบออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคลินิกกับ รพ.เอง โดยเบื้องต้นจะนำร่องใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ขณะที่การยกระดับการบริการบัตรทองอีก 2 ด้าน คือ 1.การรักษาโรคมะเร็ง และ 2.การย้ายสถานที่บริการ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค.64 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.โรคมะเร็งนั้นเป็นโรคที่ละเอียดอ่อน มีความซับซ้อนและมีหลายชนิด โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีศักยภาพในการรักษามะเร็งแต่ละชนิดไม่เท่ากัน บางแห่งมีความแออัดทำให้ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ผู้วินิจฉัยจะส่งข้อมูลผู้ป่วยมายังศูนย์ส่งต่อด้านมะเร็ง จากนั้นศูนย์ส่งต่อด้านมะเร็งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานจัดหา รพ.ที่ไม่แออัด และมีศักยภาพรักษาโรคมะเร็งนั้นๆ ให้เป็นการเฉพาะราย ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังสนับสนุนการจัดบริการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน การติดตามอาการและแนะนำการทานยาผ่านระบบสื่อสารทางไกล (Telehealth)
2.การย้ายหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำนั้น ที่ผ่านมาเมื่อผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองขอย้ายหน่วยบริการ จะต้องรออีก 15 วันจึงจะไปรักษาที่หน่วยบริการแห่งใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 เป็นต้นไป ผู้ใช้สิทธิ์ทั่วประเทศจะไม่ต้องรอ 15 วันอีกต่อไป กล่าวคือเมื่อมีความประสงค์จะย้ายเมื่อใดก็สามารถไปรักษาที่ใหม่ได้ทันที
ก่อนหน้านี้ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องดังกล่าวว่า "คลายล็อกบัตรทอง รักษาได้ทุกที่ 'ไม่จริง' ความเข้าใจผิดที่ต้องรีบบอก 'คุณหมอครับ ครั้งหน้าลุงจะไปรับยาปวดเข่าที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ได้เลยนะครับ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวด้วย สุดยอดเลยนายกเรา' ผมละเงิบไปเลย?????? มีผู้ป่วยหลายคน ถามหมอที่โรงพยาบาลว่า ต่อไปป้าจะไปรับยาเบาหวานที่จุฬารามาได้แล้วใช่ไหม' 'ต่อไปป้าเป็นหวัดหรือปวดหลัง เดินตรงไปเข้าราชวิถีเลยได้ไหม' 'แบบนี้คนไข้ตามโรงพยาบาลอำเภอก็สามารถเดินไปพบแพทย์เฉพาะที่โรงพยาบาลจังหวัดเลยได้ละสิ' หมอบ้านนอกอย่างพวกเราก็มึนงงกับการประชาสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
ความจริงคือ ผู้ป่วยสามารถไปรับบริการการแพทย์ปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ คือจะไปโรงพยาบาลอำเภอไหนก็ได้ ไป รพ.สต.ไหนก็ได้ หรือจะไปคลินิกอบอุ่นไหนใน กทม.ก็ได้ (เดิมไม่ได้) แต่จะเดินข้ามห้วยตรงไปโรงพยาบาลการแพทย์เฉพาะทางไม่ได้นะครับ คือจะเดินไปศิริราช ราชวิถี รพ.อุดร รพ.หาดใหญ่ รพ.ลำปาง โดยตรงไม่ได้ ต้องผ่านหน่วยบริการปฐมภูมิดูแลรักษาก่อน หากเกินขีดความสามารถก็ค่อยส่งต่อด้วยใบส่งตัวอยู่ดี
ยกเว้นหากเป็นผู้ป่วยใน หรือได้รับการรับตัวเข้าเป็นผู้ป่วยใน หรือเป็นมะเร็ง อันนี้ไม่ต้องมาเอาใบส่งตัวย้อนหลัง ซึ่งอันหลังนี้ถูกต้องใช่เลย
ขอให้ทาง สธ.และ สปสช. ในฐานะที่มีผู้บริหารสูงสุดคนเดียวกันคือ รมต.อนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมกันทำความเข้าใจให้ชัดเจนและถูกต้อง อย่าให้คนไทยเข้าใจผิด จนต้องมาตามแก้แถมถูกด่าอีกครับ
คนที่จะถูกด่าและต้องเหนื่อยตอบคำถามว่า 'ทำไมไม่ได้ ก็นายกบอกว่าได้' ก็คือแพทย์พยาบาลตามโรงพยาบาลต่างๆ นั่นแหละครับ".
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |