'ตระหนักในหน้าที่' พระบรมราโชวาท'บัณฑิต' มธ.ทูลเกล้าฯถวายปริญญา


เพิ่มเพื่อน    


    “ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระราชทานพระบรมราโชวาทให้บัณฑิตตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบ แล้วมุ่งมั่นทำให้จริง เพื่อความสำเร็จแก่ตนเอง ส่วนรวม และประเทศชาติ มธ.ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนาชุมชนดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ “ร.10” และวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ “พระราชินี” 
    เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พุทธศักราช 2563 เวลา 16.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ประจำปีการศึกษา 2561 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมี ศ.พิเศษนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะผู้บริหารฯ ผู้แทนคณาจารย์ ผู้แทนบัณฑิต และผู้แทนนักศึกษา เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ หอประชุม มธ.  
    การนี้ เสด็จฯ เข้าห้องรับรองที่ประทับ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศ.พิเศษนรนิติและคณะเข้าเฝ้าฯ โดย ศ.ระพีพรรณ คำหอม คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายฉลองพระองค์ครุยปริญญาพัฒนาชุมชนดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รศ.ไพลวรรณ สัทธานนท์ คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายฉลองพระองค์ครุยปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม
    เสด็จฯ ออกจากห้องรับรองที่ประทับ เข้าสู่ที่ประทับภายในหอประชุม คณาจารย์และบัณฑิตร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ประทับพระราชอาสน์ 
    รศ.สายฝน สุเอียนทรเมธี คณบดีวิทยาลัยสหวิทยาการ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผศ.ณัฐพล แสงอรุณ รักษาการแทนในตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายบริหารและวิชาการ วิทยาลัยสหวิทยาการ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินี รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กราบบังคมทูลรายงานกิจการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมทั้งขอรับพระราชทานพระบรมราโชวาท
    การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า “ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดีที่ได้มามอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปีนี้ ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ ทั้งขอขอบใจมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ที่มอบปริญญาพัฒนาชุมชน ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ข้าพเจ้า และมอบปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายแก่พระราชินี 
    ปริญญาบัตรที่บัณฑิตได้รับในวันนี้ เป็นสิ่งที่มีความหมายและมีความสำคัญมาก เพราะเป็นเครื่องรับรองวิทยฐานะของแต่ละคน ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในวิชาการสาขาต่างๆ ตามที่ได้อุตสาหะศึกษาเล่าเรียนมา บัณฑิตทุกคนจึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ไปใช้สร้างสรรค์ความสำเร็จแก่ตนเองให้สมบูรณ์ ทั้งในด้านอาชีพการงาน ในด้านเกียรติคุณความดี และในด้านการทำประโยชน์เกื้อกูล แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ ถ้าทุกคนจะได้ตระหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบดังนี้ แล้วมุ่งมั่นทำให้จริง ให้สำเร็จครบถ้วนตามที่กล่าว แต่ละคนก็จะได้รับการยอมรับยกย่องว่าเป็นผู้ประพฤติตนปฏิบัติงานสมกับวิทยฐานะอย่างแท้จริง      
    ข้าพเจ้าขอมอบปริญญาบัตรให้แก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขออำนวยพรให้ทุกคนมีความสุข และความเจริญก้าวหน้าสมปรารถนาทุกประการ
     จากนั้น ศ.พิเศษนรนิติกราบบังคมทูลประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนาชุมชนดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนาชุมชนดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ศ.พิเศษนรนิติเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาพัฒนาชุมชนดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ความว่า
    “ด้วยทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้ประชาชน และพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์ร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา เป็นจิตอาสาพระราชทานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ถือเป็นแบบอย่างในการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม และการปฏิบัติงานอย่างบูรณาการ เป็นรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคน นับว่าเป็นพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถอันสูงยิ่งทางด้านการพัฒนาและการพัฒนาชุมชน จึงกล่าวได้ว่า ทรงเป็นนักพัฒนาที่สมบูรณ์แบบครบถ้วน ทั้งในฐานะของนักวิชาการและนักปฏิบัติการ” 
    ต่อมา ศ.พิเศษนรนิติกราบบังคมทูลประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสที่สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีมติทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย พร้อมทั้งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตกราบบังคมทูลเบิกสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เข้ารับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ความว่า 
    “ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการทหารและการบิน ทรงมีพระวิริยอุตสาหะในการฝึกหลักสูตรต่างๆ ซึ่งทั้งหมดอาศัยการฝึกฝนออกกำลังกายด้วยความมุ่งมั่น ความมีระเบียบวินัย ความแข็งแรง และแข็งแกร่งทั้งพระวรกายและจิตใจ โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์การกีฬาเป็นพื้นฐาน ในด้านการทหาร ทรงเป็นพระบรมราชินีที่สง่างาม องอาจเข้มแข็ง และมีระเบียบวินัย ตามแบบฉบับของทหารอย่างแท้จริง ทรงผ่านหลักสูตรการฝึกทหารทุกด้าน อีกทั้งยังทรงนำการแสดงทางทหารประกอบดนตรีได้อย่างสง่างามและเข้มแข็ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถด้านทักษะการเคลื่อนไหว และสมรรถภาพพระวรกายในระดับสูง ถือเป็นแบบอย่างในการประยุกต์ใช้หลักด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย
    ในด้านการบิน ทรงสำเร็จการฝึกและการศึกษาตามหลักสูตรการบิน ทรงผ่านการทดสอบและได้รับใบอนุญาตนักบินของสหภาพยุโรป และใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถจากการฝึกฝนทักษะการทำงานประสานสัมพันธ์ระหว่างระบบต่างๆ ของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญตามหลักการของการพัฒนาสมรรถภาพพระวรกายและจิตใจด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย ด้วยพระวิริยอุตสาหะ และพระปรีชาสามารถด้านการทหารและการบิน ที่ล้วนแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพที่ทรงนำองค์ความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติ อันเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พสกนิกรด้านการพัฒนาร่างกายและจิตใจ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่วงวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย” 
    ต่อมา ศ.พิเศษนรนิติกราบบังคมทูลประกาศสดุดีเกียรติคุณผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทางสภา มธ.มีมติให้ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเบิกผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 3  ราย พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ตามลำดับ คณบดีคณะนิติศาสตร์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี คณบดีคณะแพทยศาสตร์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ กราบบังคมทูลเบิกผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร พระราชทานปริญญาบัตร ตามลำดับ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา บัณฑิตกล่าวคำปฏิญาณ เสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ คณาจารย์และบัณฑิตร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จฯ เข้าห้องรับรองที่ประทับ ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ คณบดีคณะสหเวชศาสตร์ และผู้ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ครุย จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
    สําหรับในปีการศึกษา 2561 มีผู้สําเร็จการศึกษาจาก มธ.ทั้งสิ้น 9,623 คน แบ่งเป็นระดับปริญญาตรี 7,756 คน, ระดับบัณฑิตศึกษา 1,867 คน, ประกาศนียบัตรบัณฑิต 61 คน, ปริญญาโท 1,698 คน และปริญญาเอก 108 คน 
    ทั้งนี้ บรรยากาศ มธ.ในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ซึ่งตั้งแต่เวลา 06.30-09.40 น. ได้มีการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 สำหรับบัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ด้วยวิธีตรวจสุขภาพ Repid-Test (เจาะเลือดปลายนิ้ว) โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และคณะสหเวชศาสตร์ มาดำเนินการคัดกรอง เพื่อเตรียมความพร้อมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในเวลา 16.00 น.
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชทานปริญญาบัตรที่ มธ. ว่าถือเป็นการปฏิบัติตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ปฏิบัติมาโดยตลอด ตามวัฒนธรรมประเพณีที่มีมายาวนาน คงไม่จำเป็นต้องสั่งการให้เตรียมการอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่อยู่แล้วปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยเฉพาะการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
    แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ มธ. เฉพาะช่วงวันที่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มีการจัดกำลังดูแลจากกองทัพบก อาทิ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.), กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.), กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) เป็นต้น ส่วนพื้นที่ภายในได้จัดกำลังจากหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ขณะที่พื้นที่ทางน้ำเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือดูแล 
    แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในส่วนของนักศึกษาที่จะรับพระราชทานปริญญาบัตรในปีนี้มีจำนวน 51% ของจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาทั้งหมด ขณะที่นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์แสดงความจำนงไม่ขอรับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะทุกปีจะมีนักศึกษาที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอยู่ในระดับประมาณ 50-54% พร้อมกันนี้หน่วยงานความมั่นคงได้เข้าไปติดต่อกับตัวแทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ขอความร่วมมือไม่ให้จัดกิจกรรมใดๆ โดยเฉพาะการจัดแสดงภาพจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่ง อมธ.รับปากว่าจะทำให้ดีที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"