'นคร'ปลุกฝันสงครามครั้งสุดท้ายในรอบ100 ปี ขอวีรชนยืนหยัดสู้


เพิ่มเพื่อน    

 

1 พ.ย.63- นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กโดยมีเนื้อหาดังนี้  สงคราม ยังไม่จบ ขอวีรชนยืนหยัดสู้ต่อไป ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม การรุกกลับ ตอบโต้ของฝ่ายเผด็จการทรราช หนักหน่วง รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ หลังจากตั้งรับมาระยะหนึ่งที่มวลชนฝ่ายประชาธิปไตย นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนสามารถรวมตัวกันติด ชุมนุมใหญ่ประท้วง ขับไล่รัฐบาลเผด็จการทรราช ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงจอมเผด็จการ พญามัจจุราชที่แอบสั่งการอยู่เบื้องหลัง การเอาคืน และรุกกลับของพวกเขากระทำหลายรูปแบบ หลายวิธีการตามตำราเผด็จการฟาสซิสต์ในลักษณะ การให้ความหวัง ยังความกลัว และยั่วให้เกลียด เช่น

1. การให้ความหวัง ในการพยายามจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ หรือการปรองดอง แบบปาหี่ เพื่อสร้างภาพว่า พวกเขายอมถอย พร้อมปรองดอง หาทางออกให้ประเทศ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการ แย่งชิงมวลชน โดยมีลิ่วล้อบริวารของเผด็จการทรราช ทั้ง ส ว. 250 คน , ส ส. และพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทั้งหมด โดยมี สถาบันพระปกเกล้า เป็นโต้โผ คอยจัดการให้ ในนามรัฐสภาเป็นตัวทำเกม เพื่อให้มีนำ้หนัก สามารถหลอกสังคมไทย และ สังคมโลกได้ ทั้งที่ความเป็นจริง มันคือสภาโจรกบฏ ที่มีขึ้นจากรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช ปี 60 เพื่อฟอกตัวให้เผด็จการทรราชเท่านั้น

2. การให้ความหวัง ด้วยการกำหนดเกมส์ในสภา เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 ให้ประชาชนมีความหวังว่า อีกไม่นานจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้เพื่อลดแรงกดดันตามข้อเรียกร้องของมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งสุดท้ายแล้ว พวกเขาจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขในหลักการใหญ่ ที่เป็นโครงสร้างของระบอบเผด็จการแน่นอน เพราะ รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช ปี 60 คือแก่นแกนอันเป็นหัวใจของฝ่ายเผด็จการฟาสซิสต์ที่จะรักษาระบอบและองคาพยพของเผด็จการทรราชไว้ให้สามารถอ้างเป็นกฎ กติกา ใช้กดขี่ ข่มเหง เอารัด เอาเปรียบ ใช้ปกครองประเทศ ให้อยู่ใต้อาณัติของ จอมเผด็จการพญามัจจุราชตลอดไป

3. การยังความกลัวพวกเขาในฐานะรัฐบาล จะใช้วิธีการสั่งการ ข้าราชการพลเรือนทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น กดดัน คุกคาม ข่มขู่ ทั้งมาตราการทางสังคม และมาตรการทางกฏหมาย ร้องทุกข์ กล่าวโทษ จับกุม คุมขัง ทำร้าย ทำลาย ไล่ทุบตี เด็ก เยาวชนเช่นในมหาวิทยาลัยรามคำแหงในฐานะคนเสื้อเหลือง ที่มาปกป้องสถาบัน และที่อื่นๆ เพื่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย ไม่กล้าเข้าร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลเผด็จการทรราช การจับกุม คุมขัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการคุมขังโดยศาลที่รับใช้เผด็จการทรราช มีตั้งแต่ข้อหา มโนสาเร่ เล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงข้อหาที่มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิต เพื่อบีบให้กลัว จะได้ลดจำนวนมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยที่จะมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเผด็จการทรราชและจอมเผด็จการพญามัจจุราช ที่แอบสั่งการอยู่เบื้องหลัง

4. ยั่วให้เกลียด ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทรราช จะใช้แผนปฎิบัติการสงครามจิตวิทยา สงครามข้อมูลข่าวสาร การโฆษณาชวนเชื่อ การบิดเบือนข้อมูล ความจริง ผ่าน กระทรวง DE ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ผ่านวิทยุ โทรทัศน์ สื่อทางอินเตอร์เน็ต ในเครือข่ายเผด็จการ ใช้ทฤษฎี แบ่งแยกแล้ว ปกครอง บังคับให้องคาพยพของรัฐบาลเผด็จการทรราช ทั้งข้าราชการ ประมาณ 2.5 ล้านคน ทหารประมาณ 3 แสนคน ตำรวจประมาณ 2 แสนคน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประมาณ 2.5 แสนคน อ ส ม. ประมาณ 1 ล้านคน รวมถึงกลุ่มจิตอาสาให้ใส่เสื้อเหลือง อ้างว่าปกป้องคุ้มครองสถาบัน มากดดัน บางคนก็ใช้กำลังทำร้ายขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพื่อให้กลัว ให้เกลียด จะได้ ไม่มาร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย 

นายนคร ระบุว่า จึงอยากจะให้บรรดา ข้าราชการทั้งหลาย ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ ส ม. และจิตอาสาที่รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย รักและปรารถนาจะส่งมอบอนาคตที่ดี ส่งมอบระบอบการเมืองการปกครองที่ดี ให้แก่ลูกหลาน อย่ายอมเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายเผด็จการทรราชที่โหดร้าย อย่าทำร้าย ทำลายอนาคตของประเทศ อนาคตของลูกหลานโปรดหันกลับมาอยู่ฝั่งประชาชน ฝ่ายประชาธิปไตยเถิด หาไม่แล้ว เมื่อฝ่ายประชาธิปไตยชนะประวัติศาสตร์ยุคใหม่จะบันทึกพวกท่านไว้ในฐานะลิ่วล้อบริวารของเผด็จการทรราช ที่ทำลายอนาคตของลูกหลาน

สงครามครั้งนี้ยังไม่จบในเวลาอันใกล้ และคงจะต้องใช้เวลา ซึ่งอาจมีความสูญเสียบ้างทั้งต่อชีวิต ต่อเสรีภาพของนักสู้ และเหล่าวีรชน เพราะระบอบเผด็จการแข็งแกร่ง หยั่งรากลึกมายาวนาน ขอพี่ น้องประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา อย่าพึ่งท้อแท้ สิ้นหวัง พวกท่านคือเสรีชน คือวีรชนที่จะสร้างอนาคตที่ดี ที่มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพและส่งมอบระบอบการปกครองที่ดีคือประชาธิปไตยให้แก่ตัวท่าน และลูกหลานของพวกเราทุกคนสงครามครั้งนี้ คือสงครามครั้งสุดท้าย แน่นอน เป็นสงครามในรอบ 100 ปี ที่ชัยชนะจะเป็นของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังพัดผ่าน สายลมแห่งการปฏิวัติประชาชนกำลังพัดแรงขึ้น จับมือกันให้มั่น ดำรงเป้าหมาย ยืนหยัดในหลักการอย่างมั่นคง เด็ดเดี่ยว ปรับปรุงและพัฒนายุทธวิธีการต่อสู้ให้ก้าวล้ำด้วยสติปัญญา ทำทุกวิถีทางเพื่อขยายแนวร่วมดึงมวลชนส่วนใหญ่มาอยู่ฝ่ายเรา ชัยชนะอยู่อีกไม่ไกลอย่าหลงกลเกมฝ่ายเผด็จการทรราช อย่ายอมถอย อย่ายอมรับข้อเสนอที่หลอกลวง ไม่จริงใจ ของฝ่ายเผด็จการทรราช หาไม่แล้วพวกเราจะพ่ายแพ้และถูกไล่ล่าอย่างไร้ความปราณีจากจอมเผด็จการพญามัจจุราช ตั้งแต่คุก จนถึงชีวิตแน่นอน
# ศักดินา จงพินาศ ประชาราษฎร์  จงเจริญ # เผด็จการ จงพินาศ ประชาธิปไตย  จงเจริญ

นคร มาฉิม
อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก
อดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฏร
1 พฤศจิกายน 2563


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"