ปิดอุโมงค์ทับลาน น้ำท่วมผ่านไม่ได้


เพิ่มเพื่อน    


    โคราชเจอฝนถล่มอีกระลอก วังน้ำเขียวจมน้ำทั้งบ้านเรือน รีสอร์ต โรงเรียน สังเวยอีก 1 ศพ ขี่ จยย.กลับจากลอยกระทงถูกน้ำพัด อุโมงค์ทางลอดทับลานเจิ่งน้ำ รถผ่านไม่ได้ ลำพระเพลิงยังปล่อยน้ำไม่หยุด เตือน 9 อำเภอรับมือ ปราจีนฯ สูญหายอีก 2 คน อุตุฯ เผยพายุโคนีทำอีสาน ตะวันออกมีฝนเพิ่มช่วง 4-5 พ.ย. ขณะที่ตอนบนอุณหภูมิลดลงอีก 
    มีรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ถึงสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ทำให้น้ำป่าไหลหลากทะลักท่วมข้ามถนนช่วงบ้านบุไทร ก่อนถึงคำชะโนด 2 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยมวลน้ำไหลแรงและเร็วมาก ทำให้รถจักรยานยนต์และผู้ขับขี่หายไปกับสายน้ำ จากนั้นหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 จุดไทยสามัคคี ได้ระดมกำลังช่วยกันค้นหา ใช้เวลาไม่นานก็พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปติดอยู่บนต้นไม้บริเวณจุดเกิดเหตุ ส่วนที่บ้านซับ ต.วังน้ำเขียว และสะพานข้ามห้วยใหญ่ใต้ หมู่ 6 กระแสน้ำหลากท่วมไร่สวนบ้านคลองทราย ต.วังน้ำเขียว, บ้านอุดมทรัพย์พัฒนาและบ้านด่าน ต.อุดมทรัพย์ ชาวบ้านต้องใช้รถไถบรรทุกคนอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ที่บ้านวังหมีมีมวลน้ำไหลผ่านด้วยความรุนแรงเช่นกัน ในจุดนี้มีประชาชนถูกน้ำพัดหายไปอีก 1 ราย ชื่อนายธิติพงศ์ คำดี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/258 หมู่ 3 ต.บางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ มีนางสาวจุฑามาศ ศรีลาพรม อายุ 22 ปี ซ้อนท้าย ขณะข้ามฝายน้ำบ้านยุบอีปูน หมู่ 4 ต.วังหมี ทั้งคู่พลัดตกน้ำ แต่ผู้หญิงสามารถช่วยตัวเองขึ้นจากน้ำได้ ชาวบ้านและหน่วยกู้ภัย ฮุก 21 ช่วยกันค้นหาจนพบศพนายธิติพงศ์จมอยู่ในน้ำใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ
    นอกจากนี้ น้ำป่ายังเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและรีสอร์ตหลายแห่ง รวมถึงโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านหนองโสมง อ.วังน้ำเขียว และรีสอร์ทวีโรน่า ถูกน้ำท่วมสูง 
    นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้รับรายงานฝนตกหนักน้ำท่วมเขต อ.วังน้ำเขียว โดยในพื้นที่ ต.ไทยสามัคคี ฝนตกมากถึง 200 มิลลิเมตร ต.วังหมีตก 100 มม. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากช่วงกลางดึก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะกลับจากงานลอยกระทง ส่วนผู้สูญหาย 8-10 คนได้พบตัวทั้งหมดแล้ว ทุกคนปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายของทางอำเภอ นอกจากนี้ได้ประกาศแจ้งเตือนการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย โดยพื้นที่ที่ต้องระวัง ได้แก่ ต.ลำนางแก้ว ต.ตะขบ ต.สุขเกษม ต.งิ้ว ต.นกออก ต.ดอน ต.ตูม ต.บ่อปลาทอง ต.เมืองปัก ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย, ต.ท่าลาดขาว ต.พลับพลา ต.กระโทก อ.โชคชัย, ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ, อ.โนนสูง อ.จักราช, อ.พิมาย อ.ชุมพวง อ.ลำทะเมนชัย และ อ.เมืองยาง ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เก็บของขึ้นที่สูง
    มีรายงานว่า ปริมาณน้ำภายในลำน้ำจักราช ต.ในเมือง อ.พิมาย ยังไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมสถานที่ราชการ บ้านพักข้าราชการตำรวจ บ้านพักนายอำเภออย่างต่อเนื่อง สูงกว่า 50 เซนติเมตร และจากภาพมุมสูงจะเห็นว่าปริมาณน้ำได้เอ่อล้นท่วมถนนรอบๆ สนามแข่งเรือยาวพิมายด้วยเช่นกัน ส่งผลทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาในจุดดังกล่าวได้ บ้านเรือนของชาวบ้าน บ้านจบก ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย จำนวนกว่า 80 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร บางหลังน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร 
    ปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 8 บ้านวังใหม่ อ.นาดี เมื่อช่วงดึกย่างเข้าวันอาทิตย์ จนบ้านหลังหนึ่งถูกน้ำพัดหายไป รวมทั้งเจ้าของบ้านคือนายสำเนียง อถมพรมราช อายุ 65 ปี และนางโอ๋ อถมพรมราช ภรรยา กระทั่งเช้า นายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส อ.นาดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และหน่วยงานท้องถิ่นได้เดินทางไปตรวจสอบ
    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้ายังมีมวลน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ ม.8 หลากเข้าท่วมบ้านบุพราหมณ์ จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้เสียหายหลายหลัง 1 ในนั้นเป็นบ้านของนายวีระศักดิ์ ยุติคุณภารัตน์ ซึ่งอยู่ติดกับคลองพญาธาร ถูกน้ำพัดบ้านพังและทรัพย์สินเสียหาย นอกจากนั้นหมูที่เลี้ยงไว้ยังถูกน้ำพัดหายไปกับสายน้ำจำนวน 2 ตัว
    ยังมีสถานการณ์วิกฤติที่อุโมงค์ทับลาน อุโมงค์เชื่อมผืนป่าเขาใหญ่-ทับลาน บนทางหลวงหมายเลข 304 สายกบินทร์บุรี- ปักธงชัย น้ำป่าไหลเชี่ยวรุนแรงผ่านอุโมงค์ทางลอดดังกล่าว ระดับท่วมสูงกว่า 1.70 เมตร และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง รถยนต์ทุกชนิดแม้แต่รถบรรทุกขนาดใหญ่ ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำท่วมจนเครื่องยนต์ดับอยู่กลางอุโมงค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดการจราจรเส้นทางดังกล่าว โดยให้ใช้เส้นทางเลี่ยงอ้อมไปทาง อ.บ้านนา จ.นครนายก หรือทาง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว 
    กรมอุตุนิยมคาดหมายลักษณะอากาศในรอบสัปดาห์ ดังนี้ ในช่วงวันที่ 1-2 พ.ย.63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นลงเล็กน้อย ในขณะที่ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 พ.ย.63 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีลมแรง ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง 
    สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น (พายุระดับ 5) “โคนี” บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ 2 พ.ย.2563 และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าอ่าวตังเกี๋ย และใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย.2563 ส่งผลทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรง
    ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 3-7 พ.ย.63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"