แจ้ง3เขื่อนโคราช รับน้ำไม่ไหวแล้ว ให้เตรียมอพยพ


เพิ่มเพื่อน    


    พายุโคนีส่งผลไทยมีฝนเพิ่มที่อีสานตะวันออก ปราจีนฯ ออกค้นหาผัวเมียถูกน้ำพัดหายยังไร้วี่แวว แต่ช่วยม้าไว้ได้ 1 ตัวขณะลอยคอจวนหมดแรง ด้าน 3 เขื่อนสำคัญในโคราช รับน้ำเต็มแล้ว แจ้งเตือนประชาชนท้ายเขื่อนเตรียมรับมือ
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) “โคนี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 5-7 พ.ย.2563)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 02 พฤศจิกายน 2563 ความว่า
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (2 พฤศจิกายน 2563) พายุโซนร้อน “โคนี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางที่ละติจูด 15.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ส่งผลให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางกับมีลมแรง 
    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 
    มีรายงานความคืบหน้าจากจังหวัดปราจีนบุรี หลังเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานไหลลงคลองยาง ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำคลองลำพญาธาร เอ่อท่วมบ้านเรือนใกล้เชิงเขา พร้อมพัดบ้านทั้งหลังหายไปมีผู้สูญหาย 2 คน เมื่อกลางดึกวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันน้ำได้ท่วมหลายหมู่บ้าน รวมทั้งถนนสาย 304 ใน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และท่วมอุโมงค์เชื่อมระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งนี้ ญาติผู้สูญหายและเจ้าหน้าที่ได้ออกค้นหานายสำเนียง อถมพรมราช และนางโอ๋ ภรรยา ที่ถูกน้ำพัด แต่ยังไม่พบ
    นอกจากนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี ได้รายงานการเปิดการจราจรในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 บริเวณอุโมงค์เชื่อมระหว่างทับลานกับป่าเขาใหญ่ที่ถูกน้ำท่วม หมู่ 1 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ระดับน้ำในอุโมงค์ได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สามารถเปิดการจราจรอุโมงค์ได้แล้ว 
    อย่างไรก็ตาม ได้มีหนังสือด่วนจากนายรณรงค์ นครจินดา รอง ผวจ.ปราจีนบุรี ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ปราจีนบุรี แจ้งว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก ทีมวัดน้ำอุทกภาคฯ ได้ประเมินสถานการณ์จากระดับน้ำแล้วพบว่ามีปริมาณสูงกกว่าปี 2556 ที่เคยสูงสุดประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงคาดว่าน่าจะเกิดผลกระทบกับแม่น้ำปราจีนบุรี โดยเฉพาะประชาชนที่พักอาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี และในพื้นที่ตลาดเก่า อ.กบินทร์บุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมขังในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา และลดลงในระดับหนึ่งแล้ว โดยอาจได้รับผลกระทบจากมวลน้ำดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวติดตามข้อมูล สถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ปิยพงศ์ พรหมบุตร ได้โพสต์ภาพน้ำป่าอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลหลากเข้าท่วมเส้นทางสาย 304 ปักธงชัย-กบินทร์บุรี เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ และท่วมบ้านเรือน รีสอร์ตในแหล่งท่องเที่ยว ระหว่างที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา จุดหนองบัวศาลา และจุดหนองบุญมาก นำอาหารไปมอบให้ชาวบ้าน ขากลับได้พบม้าตัวหนึ่งลอยคอต้านกระแสน้ำด้วยท่าทางที่อิดโรย จึงช่วยชีวิตไว้ได้
    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีรายงานว่ายังวิกฤติ โดยน้ำท่วมนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ขณะที่ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลและลำน้ำจักราชยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมวลน้ำสะสมจาก อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ได้ไหลลงสู่ลำน้ำมูล ก่อนจะไหลหลากมายังพื้นที่ อ.พิมาย ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้น และมีหลายช่วงที่เอ่อล้นตลิ่งไหล หลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำน้ำมูลและพื้นที่ลุ่มต่ำ
    สำหรับบ้านจบก ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งชาวบ้านบอกว่ามวลน้ำได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา จำนวนกว่า 80 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร และบางหลังน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถเข้าออกบ้านได้ 
    ด้านปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย และเขื่อนมูลบน จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเต็มความจุของเขื่อนแล้วทุกเขื่อน โดยเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 360 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 114% เขื่อนลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำ 173 ล้านลูกบาศ์กเมตร คิดเป็น 111% และเขื่อนลำมูลบนมีปริมาณน้ำ 142 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 100%
    นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ทุกเขื่อนต้องวางแผนระบายน้ำออกจากเขื่อน ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพายุโคนี พายุลูกใหม่ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในช่วงปลายสัปดาห์นี้  
    บุรีรัมย์ มวลน้ำเหนือปริมาณมหาศาลจากจังหวัดนครราชสีมา ที่ไหลลงลำน้ำมูลได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่สะพานข้ามลำน้ำมูลสตึก-ชุมพลบุรี บริเวณบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำสูงถึงคอสะพานแล้ว ส่งผลให้บางจุดที่ไม่ได้มีการเสริมพนัง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องของเกษตรกรที่เพาะปลูกไว้ริมลำน้ำมูลเป็นบริเวณกว้างหลายร้อยไร่ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร จนรถเกี่ยวไม่สามารถลงได้ เกษตรกรที่ไม่มีเรือเป็นของตัวเอง เตรียมเช่าเรือ พร้อมจ้างแรงงานคนเพื่อเร่งเก็บข้าวหนีน้ำไม่ให้จมเสียหาย ถึงแม้ต้นข้าวบางส่วนจะยังไม่แก่สุกเต็มที่ก็ตาม 
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ในพื้นที่ 34 จังหวัด รวม 155 อำเภอ 553 ตำบล 2,355 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 91,684 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย (จันทบุรี ตรัง ปราจีนบุรี จังหวัดละ 1 ราย สุราษฎร์ธานี 3 ราย และนครราชสีมา 1 ราย) บาดเจ็บ 3 ราย (สิงห์บุรี) ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี และสุพรรณบุรี. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"