‘ทรัมป์’ร่อแร่‘ไบเดน’แรงชิงปธน.


เพิ่มเพื่อน    

 สหรัฐอเมริกาเลือกตั้งชี้ชะตา "โดนัลด์ ทรัมป์" เมื่อวันอังคาร โพลส่วนใหญ่ชี้ "โจ ไบเดน" มีคะแนนนำห่าง แต่ทรัมป์ยังได้ลุ้นในรัฐสมรภูมิชี้ขาดที่เคยทำให้ชนะเลือกตั้งปี 2559 มาแล้ว คนอเมริกันแห่ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเกือบ 100 ล้านคน หมู่บ้านเล็กๆ ในนิวแฮมป์เชียร์ประเดิมก่อน เทคะแนนให้ไบเดน 5-0 รอลุ้นการนับคะแนนทั้งประเทศที่อาจยืดเยื้อ หลายเมืองเตรียมพร้อมรับเหตุจลาจล

    การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2563 เป็นการต่อสู้ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน และโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต ที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐแล้วมากกว่า 231,000 ราย จากผู้ติดเชื้อเกือบ 9.3 ล้านราย และยังเกิดในบรรยากาศของความแตกแยก ความขัดแย้งในสังคมจากความอยุติธรรมต่อคนอเมริกันผิวดำ
    รายงานของสำนักข่าวต่างประเทศกล่าวว่า ผลสำรวจส่วนใหญ่ยกให้ไบเดน วัย 77 ปี มีคะแนนนำทรัมป์มาโดยตลอดในคะแนนรวมระดับประเทศ แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐนั้นวัดจากจำนวนคณะผู้เลือกตั้งจากรัฐต่างๆ ที่ผู้สมัครที่จะชนะต้องได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งอย่างน้อย 270 คน และโพลชี้ว่าทรัมป์มีคะแนนสูสีกับไบเดนในรัฐสมรภูมิชี้ขาดที่ยังระบุไม่ได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ โดยในการเลือกตั้งปี 2559 นั้น ทรัมป์เคยโค่นนางฮิลลารี คลินตัน ได้เพราะคว้าชัยชนะในรัฐเหล่านี้ ทั้งที่คะแนนเสียงในระดับประเทศนั้นเขาได้น้อยกว่านางคลินตันราว 3 ล้านคะแนน
    ความกระตือรือร้นสนใจการเลือกตั้งและความวิตกเรื่องโรคระบาดทำให้คนอเมริกันใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าทั้งด้วยตนเองและผ่านทางไปรษณีย์แล้วมากกว่า 99 ล้านคน นับถึงคืนวันจันทร์ที่เป็นคืนสุกดิบ ข่าวรอยเตอร์ระบุว่า จำนวนดังกล่าวเทียบเท่ากับ 72.3% ของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดในครั้งที่แล้ว และคิดเป็นราว 40% ของชาวอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด
    ไบเดน ผู้คร่ำหวอดในวงการเมืองสหรัฐมานาน 5 ทศวรรษ รวมถึงการเป็นรองประธานาธิบดีของประธานาธิบดีบารัก โอบามา 2 สมัย ให้คำมั่นว่าเขารื้อฟื้นความพยายามต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 ใหม่ โดยโจมตีทรัมป์ว่ายอมจำนนกับโรคระบาดนี้ ทั้งยังจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสมานความแตกแยกทางการเมืองในประเทศ "ผมมีความรู้สึกว่า เรามาร่วมกันเพื่อชัยชนะครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้" ไบเดนกล่าวที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์ "ถึงเวลายืนหยัดและเอาประชาธิปไตยของเรากลับคืนมา"
    ประธานาธิบดีทรัมป์วัย 74 ปี ซึ่งต้องการหลีกเลี่ยงการเป็นประธานาธิบดีคนแรกนับจากประธานาธิบดีจอร์จ บุช เมื่อปี 2535 ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ปลูกฝังความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการเลือกตั้งมาตลอดหลายเดือน ด้วยการกล่าวอ้างโดยไร้หลักฐานสนับสนุนว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์นั้นทำให้โกงคะแนนกันเกลื่อน และว่าควรนับเฉพาะการลงคะแนนในวันเลือกตั้งจริงเท่านั้น ในการปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในรัฐมิชิแกนที่ไม่ใส่ใจมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทรัมป์ยังเชื่อมั่นว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งได้ "เราจะสร้างประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง"
    ทรัมป์ปฏิเสธการให้คำมั่นว่าจะถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติหากเขาแพ้เลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า หากผลคะแนนสูสีกันมาก และมีการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยืดเยื้อ อาจนำไปสู่ความโกลาหลและอาจเกิดการก่อความวุ่นวายอย่างที่ทรัมป์กล่าวเตือนไว้ล่วงหน้า ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ทรัมป์ยังคงตั้งแง่กับการลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่เปิดช่องให้มีการโกงอย่างกลาดเกลื่อนโดยไม่ถูกตรวจสอบ โดยเฉพาะที่รัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิ ซึ่งอนุญาตให้นับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่ส่งมาภายใน 3 วันหลังการเลือกตั้งวันอังคาร "มันจะชักนำให้เกิดความรุนแรงบนท้องถนน ต้องทำอะไรสักอย่าง" ทรัมป์ทวีต
    ความวิตกต่อความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งและความวุ่นวายที่อาจเกิดตามมา ทำให้หลายเมืองเตรียมตัวเสริมความปลอดภัยรับมือการประท้วงที่อาจเกิดขึ้น อาทิที่ทำเนียบขาวและในนครนิวยอร์ก ตำรวจแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ถนนโรดีโอไดรฟ์แหล่งช็อปปิ้งอันโด่งดังในย่านเบเวอร์ลีฮิลส์จะปิดในวันอังคารด้วย
    คู่แข่งทั้งสองเน้นการหาเสียงช่วงสุดท้ายที่รัฐสมรภูมิราว 12 รัฐ ซึ่งทรัมป์เคยชนะได้เกือบทั้งหมดในการเลือกตั้งปี 2559 แต่รัฐที่ได้รับการจับตาเป็นพิเศษคือ รัฐเพนซิลเวเนีย, มิชิแกน และวิสคอนซิน ที่มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 20 คน, 16 คน และ 10 คนตามลำดับและเคยเป็นรัฐที่มั่นของพรรคเดโมแครต แต่ทรัมป์กลับชนะได้อย่างฉิวเฉียดในครั้งที่แล้วและทำให้เขาโค่นนางคลินตันลงได้
    หากไบเดนสามารถชนะทุกรัฐที่นางคลินตันพ่ายแพ้ และชนะในรัฐสมรภูมิ 3 รัฐข้างต้น เขาจะได้จำนวนคณะผู้เลือกตั้งเพียงพอต่อการเป็นประธานาธิบดี
    ขณะเดียวกัน ผลสำรวจชี้ว่า เขาและทรัมป์ยังมีคะแนนสูสีกันในรัฐฟลอริดา, นอร์ทแคโรไลนา และแอริโซนา โดยฟลอริดานั้นมีคณะผู้เลือกตั้งถึง 29 คน และเป็นรัฐที่ทรัมป์ต้องชนะให้ได้ แต่โพลของรอยเตอร์/อิปซอสล่าสุดเผยว่า ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ที่ 50% ต่อ 46% จากเดิมที่เคยเสมอกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    คาดว่าการนับคะแนนของฟลอริดา ซึ่งสามารถนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ได้ก่อนวันเลือกตั้ง จะเริ่มต้นได้ในคืนวันอังคารเลย แต่เพนซิลเวเนีย, มิชิแกน และวิสคอนซิน นั้นไม่ได้เริ่มนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง จึงมีความเป็นไปได้ว่าการนับบัตรลงคะแนนจำนวนมหาศาลนี้จะต้องใช้เวลาหลายวัน
    การเลือกตั้งครั้งนี้ยังจะเป็นการเลือกสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน ที่จะชี้วัดว่าพรรคใดจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไปอีก 2 ปีข้างหน้า โดยเดโมแครตหวังจะครองเสียงข้างมากในสภาสูง และรักษาเสียงข้างมากในสภาล่างไว้ให้ได้
    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า รัฐแรกๆ ที่เปิดให้ลงคะแนนนั้นอยู่ที่รัฐทางฝั่งตะวันออกเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่ตรงกับ 18.00 น.วันอังคารของไทย ได้แก่ รัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์, เวอร์จิเนีย, คอนเนตทิคัต และเมน แต่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกที่เปิดให้ประชาชนมาใช้สิทธิ์นั้นคือหมู่บ้านเล็กๆ 2 แห่งในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ คือ หมู่บ้านดิกซ์วิลล์นอตช์และมิลส์ฟีลด์ ที่เริ่มเปิดหีบในเวลาเที่ยงคืน
    ดิกซ์วิลล์นอตช์ หมู่บ้านกลางป่าใกล้ชายแดนแคนาดา ซึ่งมีประชากรเพียง 12 คน เป็น "แห่งแรกของประเทศ" ที่ลงคะแนนเลือกตั้งมานับแต่ปี 2503 การลงคะแนนใช้เวลาไม่กี่นาทีแล้วนับคะแนนทันที ผลปรากฏว่า ไบเดนได้ 5 คะแนน โดยไม่มีใครเลือกทรัมป์เลย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"