ชิงประกาศชัยชนะ ‘ทรัมป์-ไบเดน’มั่นใจนั่งปธน.สหรัฐ/นับคะแนนไม่จบส่อวุ่น


เพิ่มเพื่อน    

  เค้าลางแห่งความวุ่นวาย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รีบประกาศชัยชนะแต่ไก่โห่ แถมอ้างมีการโกงเลือกตั้งและขู่จะให้ศาลสูงสุดแทรกแซงสั่งหยุดนับคะแนน หลังจาก "โจ ไบเดน" แสดงความมั่นใจในชัยชนะ ขณะจำนวนคณะผู้เลือกตั้งสูสีเกินคาด และการนับคะแนนอาจยืดเยื้อนานหลายวัน

    การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปรากฏเค้าลางแห่งปัญหาขึ้นแล้ว และเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์เคยเตือนไว้ เมื่อมีความเป็นไปได้ที่ผลคะแนนไม่สามารถชี้ขาดโดยเร็ว และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะก่อความสับสนด้วยการตั้งข้อกังขาต่อกระบวนการลงคะแนน
    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งอ้างอิงการรวบรวมคะแนนของสื่ออเมริกันหลายสำนักกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์สามารถหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ขาดลอยตามที่โพลระดับชาติบางสำนักทำนายไว้ แต่ยังต้องรอผลคะแนนจากรัฐสมรภูมิหลายรัฐ โดยจำนวนคณะผู้เลือกตั้งถึงช่วงค่ำวันพุธ ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ที่ 238 คะแนนต่อ 213 คะแนน ผู้สมัครที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องได้คณะผู้เลือกตั้งเกินครึ่ง หรือ 270 คะแนนเป็นอย่างน้อย
    ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ทรัมป์กล่าวหาว่ามีการโกงครั้งใหญ่ และอ้างว่าเขาเป็นผู้ชนะ "เรากำลังเตรียมตัวชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่ากันตามตรง เราชนะการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว" ทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุนซึ่งไม่กี่คนสวมหน้ากากอนามัย "นี่เป็นการโกงครั้งใหญ่ในประเทศของเรา เราต้องการให้กฎหมายถูกนำมาใช้อย่างถูกต้อง ดังนั้น เราจะไปศาลฎีกา เราต้องการให้หยุดการลงคะแนนทั้งหมด"
    การลงคะแนนเลือกตั้งของสหรัฐยุติลงตั้งแต่ก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะแถลง แต่ดูเหมือนทรัมป์จะกล่าวถึงการนับคะแนน กฎหมายเลือกตั้งของสหรัฐบัญญัติให้นับบัตรลงคะแนนทั้งหมด และมีหลายรัฐที่มักจะใช้เวลานับคะแนนหลายวันจึงจะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งมีผู้ลงคะแนนล่วงหน้ามากกว่า 100 ล้านคน ทั้งโดยการลงคะแนนด้วยตนเองและส่งบัตรทางไปรษณีย์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยในสหรัฐแล้วมากกว่า 232,000 คน
    ไม่นานก่อนหน้านั้น อดีตรองประธานาธิบดีไบเดนเพิ่งประกาศต่อผู้สนับสนุนของเขาที่รัฐเดลาแวร์ว่า เขาเชื่อว่ากำลังอยู่บนเส้นทางที่จะผู้ชนะ และขอให้ผู้สนับสนุนเขาอดทนรอการนับคะแนน แต่ทรัมป์ทวีตตอบโต้ว่าตัวเขากำลังจะชนะขาดลอย และกล่าวหาพรรคเดโมแครตว่าพยายามขโมยการเลือกตั้ง
    ฝั่งของไบเดนประณามคำขู่ของทรัมป์ที่จะขอให้หยุดนับคะแนนว่าอุกอาจและไม่เคยพบไม่เคยเห็น ทีมกฎหมายของพวกเขาพร้อมจะต่อสู้กับทรัมป์ในศาล "การนับคะแนนจะไม่หยุด แต่จะดำเนินต่อไปจนกว่าจะนับบัตรเลือกตั้งครบทุกใบ" คำแถลงของฝ่ายไบเดนกล่าว
    นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยเตือนว่า ผลการเลือกตั้งของสหรัฐปีนี้อาจต้องใช้เวลา และหวั่นว่าทรัมป์จะสร้างความโกลาหลวุ่นวายหรือแม้แต่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงด้วยการตั้งคำถามถึงกระบวนการนับคะแนน แม้จะยังไม่มีรายงานการก่อจลาจลหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น แต่อาคารร้านค้าทั่วกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พากันนำแผ่นไม้มาปิดบังกระจกหน้าต่าง และรัฐบาลของหลายประเทศเรียกร้องให้การเลือกตั้งของสหรัฐปลอดจากความรุนแรง
    ภายหลังทรัมป์ชิงประกาศชัยชนะล่วงหน้า อันเนเกรต ครัมป์?คาร์เรนบาวเออร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนี กล่าวเตือนว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายมาก และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดวิกฤติรัฐธรรมนูญในสหรัฐ
    ผลคะแนนถึงช่วงค่ำวันพุธของไทย ยังมีอีก 7 รัฐที่ผลคะแนนยังไม่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงรัฐใหญ่ๆ ที่มีจำนวนผู้เลือกตั้งมาก อย่างเพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้ไบเดนจะนำทรัมป์อยู่ด้วยคะแนน 238 ต่อ 213 แต่ทรัมป์ก็สามารถแซงได้หากชนะรัฐสมรภูมิสำคัญที่เหลือ
    สื่อของสหรัฐทำนายกันว่า ทรัมป์ชนะ 23 รัฐ ซึ่งรวมถึงรัฐใหญ่อย่างฟลอริดาและเทกซัส นอกจากนี้เขายังชนะรัฐเดิมที่เคยคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้ ทั้งอินดีแอนา, เคนทักกี, มิสซูรี และโอไฮโอ
    ส่วนไบเดนชนะ 20 รัฐ รวมถึงรัฐแดลาแวร์บ้านของเขา และรัฐใหญ่ทั้งแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก ไปจนถึงดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย เมืองหลวง และเป็นเช่นเดียวกับของทรัมป์ที่รัฐทั้งหมดที่ไบเดนคว้าชัยชนะได้นั้นเป็นรัฐที่นางฮิลลารี คลินตัน ของพรรคเดโมแครตเคยชนะได้ในปี 2559 นอกจากนี้ ไบเดนยังดึงรัฐแอริโซนาที่เคยเป็นของทรัมป์ในปี 2559 มาได้ด้วย
    รายชื่อรัฐที่ผู้สมัครทั้งสองชนะ ในวงเล็บคือจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง โดยเอเอฟพีอ้างอิงจากการทำนายผลของสื่ออเมริกัน ได้แก่ ซีเอ็นเอ็น, ฟ็อกซ์นิวส์, เอ็มเอสเอ็นบีซี/เอ็นบีซีนิวส์, เอบีซี, ซีบีเอส, เอพี และนิวยอร์กไทมส์
    ทรัมป์ได้แล้ว 213 คะแนน ได้แก่ แอละแบมา (9), อาร์คันซอ (6), ฟลอริดา (29), ไอดาโฮ (4), อินดีแอนา (11), ไอโอวา (6), แคนซัส (6), เคนทักกี (8), ลุยเซียนา (8), มิสซิสซิปปี (6), มิสซูรี (10), มอนแทนา (3), เนแบรสกา (4), นอร์ทดาโคตา (3), โอไฮโอ (18), โอคลาโฮมา (7), เซาท์แคโรไลนา (9), เซาท์ดาโคตา (3), เทนเนสซี (11), เทกซัส (38), ยูทาห์ (6), เวสต์เวอร์จิเนีย (5) และไวโอมิง (3)
    ไบเดนได้ 238 คะแนน ได้แก่ แอริโซนา (11), แคลิฟอร์เนีย (55), โคโลราโด (9), คอนเนตทิคัต (7), เดลาแวร์ (3), ดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย (3), ฮาวาย (4), อิลลินอยส์ (20), เมน (3), แมริแลนด์ (10), แมสซาชูเซตส์ (11), มินนิโซตา (10), เนแบรสกา (1), นิวแฮมป์เชียร์ (4), นิวเจอร์ซีย์ (14), นิวเม็กซิโก (5), นิวยอร์ก (29), ออริกอน (7), โรดไอแลนด์ (4), เวอร์มอนต์ (3), เวอร์จิเนีย (13) และวอชิงตัน (12)
    ผลคะแนนเหล่านี้ยังไม่รวมรัฐอะแลสกา, จอร์เจีย, มิชิแกน, เนวาดา, นอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน และการนับคะแนนจากรัฐเนแบรสกานั้นแบ่งจำนวนผู้เลือกตั้งตามเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรส ส่วนรัฐเมนแบ่งจำนวนผู้เลือกตั้งตามสัดส่วน โดยไบเดนได้แล้ว 3 คะแนน ที่เหลืออีก 1 คะแนนยังไม่สรุป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"