ทุน-ปืน-นักการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

 

        ขึ้นเดือนพฤษภาฯ...อีกไม่กี่เพลาก็จะถึงเดือนมิถุนายน เดือนที่ว่ากันว่าจะเริ่มต้น ปลดล็อก อย่างเป็นทางการกันซะที และคงทำให้การเมืองไทยยุค สามก๊ก เป็นอะไรที่ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งดุเดือด เลือดพล่านยิ่งขึ้น เพราะเรียกว่า...ขนาดยังไม่ทันได้ปลดล็อก รัฐบาล คสช.และท่านนายกฯ บิ๊กตู่ หนีไม่พ้นต้องเจอกับ สากกะเบือบิน ปลิวว่อนเข้าใส่ในแต่ละวัน ชนิดครกแทบแตกเอาเลยก็ว่าได้...

                                  -------------------------------------------------

        อย่างไรก็ตาม...แนวโน้มที่แต่ละก๊กแต่ละกั๊ก จะค่อยๆ แปรสภาพเป็นสามก๊กในท้ายที่สุดนั้น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ก๊กไหนต่อก๊กไหน มีรูปร่าง หน้าตา ออกมาในแนวไหน อย่างไร คงหนีไม่พ้นต้องขึ้นอยู่กับ ทุน อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้นั่นแล เพราะไม่ว่าจะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาอีกกี่ฉบับต่อกี่ฉบับก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะลอกเลียนสไตล์อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน แต่ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเป็นไป แบบไทยๆ ยังไงๆ...ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย ทุน หรือ เงิน เข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการวัดตัดสินรูปร่าง หน้าตา ความใหญ่ ความโต ความอวบ ความหนา ของแต่ละก๊กกันจนได้...

                                  -------------------------------------------------

        โดยเฉพาะ...ถ้าหากต้องเทียบบัญญัติไตรยางศ์กันในลักษณะ 70,000 เสียงต่อเก้าอี้ในรัฐสภา 1 เก้าอี้ ความจำเป็นที่จะต้องอาศัย ทุน หรือ เงิน เพื่อช่วยในการ ปูพรม ยิ่งเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์จะปฏิเสธได้ยิ่งขึ้นเท่านั้น พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าสามารถปูพรมได้กว้างขวางยิ่งขึ้นเท่าไหร่ สามารถเก็บตกคะแนนเสียง เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ไม่ว่ากี่บาท กี่ตังค์ คงต้องเอาไว้ก่อน ได้ครบถ้วนเบ็ดเสร็จไปทั่วทุกเขตเลือกตั้ง บรรดาคะแนนเล็ก คะแนนน้อยเหล่านี้ ย่อมมีความสำคัญพอที่จะเอาไว้เฉือนคู่แข่งได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ผ่าสิบหก ได้เสมอๆ...

                                 --------------------------------------------------

        แต่ก็อย่างว่า...ทุนไทย นั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว ก็ไม่ถึงกับกว้างขวาง หลากหลาย มากมายซักเท่าไหร่ แม้อุ่นหนา ฝาคั่ง อูมฟูม พอที่จะถูกนำไปจัดอันดับ เป็นอภิมหาเศรษฐีเมืองไทยและอภิมหาเศรษฐีระดับโลกมาโดยตลอดก็ตาม แต่ก็มีอยู่ด้วยกันแบบ จำกัด หรือแบบ กระจุก อยู่พอสมควร เพราะไม่ว่าประเทศไทยจะเจริญเติบโต มั่งคั่ง จีดีพีหัวระเบิดเถิดเทิงไปถึงระดับไหน เพียงใด แต่ย่อมเป็นที่รับรู้ รับทราบ กันมานานแล้วว่า ส่วนใหญ่...ก็มักหนักไปทาง สองเจริญ นั่นแหละเป็นหลัก คือ เจริญเหล้า กับ เจริญกับแกล้ม โดยอาจมีกระทิงดุ กระทิงแดง ไปจนกระทั่งเสือดำ ตามมาห่างๆ ไปตามสภาพ...

                                   ---------------------------------------------------

        ตลอดช่วงการเลือกตั้งเท่าที่ผ่านมา...ทั้ง สองเจริญ เลยมักต้องตกเป็น เป้าหมาย แห่งการรีด การไถ อย่างชนิดเป็นระบบและกิจการเอาเลยก็ว่าได้ แต่ เจริญเหล้า นั้น ออกจะมี สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด สูงหน่อย เรียกว่า...พอเริ่มบรรยากาศหน้าข้าว หน้าเหล้า ขึ้นมาจริงๆ โอกาสที่จะควานหาตัวออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ ลื่นแผล็บหายเข้ากลีบเมฆไปอยู่แถวๆ ยุโรป แถบอะแลสกา แถบๆ มองโกเลีย ออกทัวร์เส้นทางสายไหม จนบรรดานักรีด นักไถทางการเมือง แทบหาตัวไม่เจอ ต่างไปจาก เจริญกับแกล้ม ที่แผ่เครือข่ายความเจริญครอบคลุมไปทั้งประเทศ การจับมารีด มาไถ จึงไม่ถึงกับยากลำบากซักเท่าไหร่ เพียงแต่จะได้แค่เศษเบี้ยใต้ถุนร้าน หรือได้แบบเป็นกอบเป็นกำ นั่นย่อมขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ของ เจริญกับแกล้ม ที่ไม่ใช่แค่อาศัยเหตุผล ข้อมูล ทางวิชาการเท่านั้น แต่บางครั้ง บางครา ถึงขั้นใช้ หมอดูโหงวเฮ้ง ตรวจสอบความคุ้มไม่คุ้มของ การลงทุน (ทางการเมือง) อย่างละเอียด รอบคอบ เอามากๆ...

                                ----------------------------------------------------

        ด้วยเหตุนี้...ในเมื่อ ทุนไทย มีอยู่แค่ไม่กี่ตัวดังที่กล่าวไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นก๊กไหนต่อก๊กไหนขึ้นมามีอำนาจก็เถอะ ส่วนใหญ่มักต้อง เสร็จสองเจริญ ไปโดยตลอด หรือยังคงส่งผลให้ความเจริญประเทศไทย เป็นไปแบบ สองเจริญ อย่างไม่มีวันผันเปลี่ยน ชนิดสามารถรจนาเป็นบทกลอนได้เลยว่า ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า-ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ-ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน-สองเจริญสมบูรณ์นิรันดร์ไป อะไรประมาณนั้น...

                             ---------------------------------------------------

        ดังนั้น...สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในคราวต่อไป จะส่งผลให้ก๊กแต่ละก๊กมีรูปร่าง หน้าตา ออกมาในแนวไหน จึงคงต้องขึ้นอยู่กับการประเมิน การประมาณการของ สองเจริญ ที่ว่านี่แหละ เป็นสำคัญ ว่าจะแทงไพ่ กบหน้าไพ่ หรือพลิกหน้าไพ่ออกมาในรูปไหนกันแน่ ซึ่งเท่าที่ผ่านมา...ด้วยเหตุเพราะ ทุนไทย นั้นอาจต่างไปจาก ทุนฝรั่ง อยู่บ้าง คือยังมี ความเป็นไทยๆ ติดปลายนวมเอาไว้ตามสมควร โดยเฉพาะความเป็นไทยๆ ในแบบ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ การแจกจ่าย ไดเวอร์ซิไฟ ทุนแต่ละเม็ด แต่ละก้อน ในแบบเบี้ยหัวแตก จึงทำให้ไม่ว่ากลุ่มการเมือง หรือพรรคการเมืองพรรคใด พอได้รับอานิสงส์แบบมากบ้าง น้อยบ้าง ไปตามสภาพ...

                               --------------------------------------------------

        แต่ถ้าหาก สองเจริญ ที่ว่านี้...เกิดคิดแบบฝรั่ง หรือถูกทำให้คิดแบบฝรั่งขึ้นมาเมื่อไหร่ ตัดสินใจหนุนพรรคหนึ่ง พรรคใด แบบไม่หนุนรีพับลิกัน ก็หันไปหนุนเดโมแครต โดยไม่คิดจะปล่อยให้เศษเบี้ยใต้ถุนร้าน รั่วไหลไปสู่พรรคอื่นๆ บ้างเลย อันนี้นี่แหละ...มีสิทธิ์ก่อให้เกิด การเมืองใหม่ ขึ้นมาในแบบฉับพลัน-ทันที คือการเมืองที่ต้องเลือกเอาระหว่างหนึ่ง ข้างใด เลือกจะ หนุนบิ๊กตู่ หรือ ไม่หนุนบิ๊กตู่ โอกาสที่จะแทงกั๊ก แทงกลาง แทบเป็นไปไม่ได้เอาเลยก็ไม่แน่!!! หรือจะต้องเลือกเอาระหว่าง ทุนบวกปืน ไม่ก็ ทุนบวกนักการเมือง แต่เพียงเท่านั้น...แล...

                                 ------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Frederick B.Wilcox (อีกครั้ง)...“People who emphatically protest that they are putting all their cards on the table put them there face down.- ผู้ที่ยืนยันอย่างแข็งขันว่า เขาวางไพ่ไว้บนโต๊ะหมดแล้ว (เปิดเผย-ไม่ปิดบัง) นั้น มักวางโดยการคว่ำหน้าไพ่ (ปิดบัง-ไม่เปิดเผย) เอาไว้เสมอ...”

                                   -----------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"