โชคชัยท่วมรอบ2 เตือน9จว.รับฝน


เพิ่มเพื่อน    


    เตือน 9 จังหวัดอีสาน ตะวันออกรับมือฝนตกจากอิทธิพลพายุโคนี โคราช น้ำล้นเขื่อนลำพระเพลิงหลากถึงอำเภอโชคชัย ท่วมปรางค์พะโค โบราณสถานอายุร่วมพันปี ชาวบ้านกว่า 30 หลังคาเรือนอพยพหนีน้ำ 
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุโซนร้อน “โคนี” (พายุระดับ 3) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 6-7 พ.ย.2563)" ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 05 พฤศจิกายน 2563 ความว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2563) พายุโซนร้อน “โคนี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 170 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 14.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ก่อนเคลื่อนขึ้นฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม ในเช้าวันพรุ่งนี้ (6 พฤศจิกายน 2563) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง กับมีลมแรง บริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
    ด้านสถานการณ์น้ำในจังหวัดนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำที่ล้นออกมาจากเขื่อนลำพระเพลิงและเขื่อนมูลบน ขณะนี้มวลน้ำเดินทางถึงอำเภอโชคชัยแล้ว โดยปริมาณน้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่งลำน้ำลำพระเพลิง เข้าท่วมบริเวณปรางค์พะโค โบราณสถานอายุกว่า 900 ปี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 224 สายโชคชัย-ครบุรี หมู่ 11 ต.กระโทก อ.โชคชัย โดยมวลน้ำเข้าท่วมรอบบริเวณตัวปราสาท สำรวจเบื้องต้นพบว่าน้ำท่วมเพียงส่วนของฐานราก ยังไม่กระทบต่อโครงสร้างหลักตัวปราสาท แต่มีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ  
    นอกจากนี้ มวลน้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชนบริเวณหลังปรางค์พะโค เสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน ประชาชนต้องขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง บางรายต้องอพยพออกไปอาศัยอยู่บ้านญาติพื้นที่อื่นเป็นการชั่วคราว ขณะที่หน่วยงานภาครัฐระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เหตุการณ์น้ำเออเข้าท่วมหมู่บ้านปรางค์พะโค อ.โชคชัย และโบราณสถานปรางค์พะโค ถือว่าเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา 
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า จนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย รวม 35 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง อุทัยธานี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ราชบุรี นครปฐม ปทุมธานี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 157 อำเภอ 562 ตำบล 2,487 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92,032 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (จันทบุรี ตรัง นครราชสีมา ศรีสะเกษ จังหวัดละ 1 ราย ปราจีนบุรี 4 ราย และสุราษฎร์ธานี 3 ราย) บาดเจ็บ 4 ราย (สิงห์บุรี) 
    ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ยังคงมีน้ำท่วมขัง 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 17 อำเภอ 79 ตำบล 365 หมู่บ้าน ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอปักธงชัย อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอพิมาย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอจักราช และอำเภอห้วยแถลง ระดับน้ำลดลง และสุพรรณบุรียังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า ระดับน้ำลดลง 
    พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครสวรรค์ ชัยนาท กาญจนบุรี สิงห์บุรี กาญจนบุรี พังงา ชุมพร และอุบลราชธานี รวม 19 อำเภอ 26 ตำบล 36 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 78 หลัง บาดเจ็บ 2 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ภูเก็ต สตูล และกระบี่ รวม 5 อำเภอ 6 ตำบล  6 หมู่บ้าน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"