'ทูตนอกแถว'เชียร์ 3 นิ้ว! ด่าทหารยับรบกับลาวยังแพ้ ทำหน้าที่ที่ไม่ใช่จนประเทศชาติป่นปี้


เพิ่มเพื่อน    

10 พ.ย.63- นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ เจ้าของเพจทูตนอกแถว และอดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าเมื่อกี้นังเขียนอธิบายว่าการต่างประเทศจริงๆเป็นเรื่องใกล้ตัวเราอย่างมาก เพียงแต่บางทีไม่รู้ว่าสิ่งนี้จริงๆมันคือผลมาจากการต่างประเทศ ทั้งจากของไทยและที่ต่างประเทศมีต่อเรา แต่แล้วพิมพ์จะเสร็จมันหายไปดื้อๆ เซ็งมาก ไว้เขียนใหม่ เลยเอาเรื่องสั้นๆแทนแล้วกัน ( เพราะเดี๋ยวว่าจะไปเชียร์น้องๆเยาวชนผู้กล้าหาญสักหน่อย อิอิ)

ขออนุญาตขยายความจากโพสต์ที่แล้ว ที่มีบางคนคอมเม้นท์ว่าปากกับปืนสำคัญเท่าๆกัน ถ้าไม่มีปืนเขาก็จะไม่เกรงใจ และอย่างตอนเวียดนามส่งกำลังมาประชิดชายแดนไทยจนมีการปะทะกัน เขาส่งผมไปชายแดนด้วยหรือเปล่า? หรือดีแต่อยู่ในห้องแอร์ที่กรุงเทพ?

คืออย่างนี้นะครับ ปืน แสนยานุภาพทางทหารมันก็สำคัญ ถ้ามีก็ดี แต่มันไม่ใช่ทุกอย่างแล้ว ยิ่งถ้าเราเป็นประเทศเล็ก แสนยานุภาพกองทัพไทยที่คุยๆนักหนานี่ เอาจริงๆใครเกรงใจหรือครับ? รบกับลาวเรายังแพ้เขามาเมื่อไม่นานมานี้เอง แล้วก็ต้องให้พวกเรานักการทูตไปเจรจากรณีบ้านร่มเกล้า ซึ่งตอนนั้นผมเพิ่งเข้ากระทรวงใหม๋ๆแต่มีโอกาสได้ตามผู้ใหญ่ไปเห็นการเจรจาอย่างเคร่งเครียดกับฝ่ายลาวที่ รร เอราวัณ

ตอนเวียดนามส่งกำลังเข้ายึดกัมพูชาและมาประชิดชายแดนไทยจนมีการปะทะกันบ่อยครั้ง ในตอนนั้นเวียดนามเขามีแสนยานุภาพทางทหารมาก เขาประกาศเลยว่าเขาสามารถบุกและยึดไทยได้ภายในเจ็ดวัน แต่ที่เขาไม่บุกก็เพราะเขาเกรงปฏิกิริยาตอบโต้จากทั้งสหรัฐฯ และจีน ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะนโยบายต่างประเทศของเราที่สร้างมิตรไว้ป้องกันศัตรู กองทัพไทยนั้นเรียนตามตรงว่าไม่อยู่ในสายตาของเวียดนามหรอกครับ เขาขำเขาหัวเราะเยาะเอา

อีกสิ่งที่อยากเล่าเพราะไม่เคยเล่า ไม่เคยคุย ก็เลยมาคุยตรงนี้ ว่าสมัยนั้นกระทรวงเขาก็ส่งผมและเพื่อนๆไปชายแดนประจำ ทั้งเรื่องการประสานงานต่างๆซึ่งมีทั้งที่ลับและไม่ลับ อย่าว่าแต่ชายแดนเลย ผมเคยแอบลักลอบเข้าไปในกัมพูชาเพื่อทำงานลับ เข้าไปถึงค่ายกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ผมก็ทำมาแล้ว โปรดอย่าได้คิดว่าพวกเรานักการทูตไม่ต้องทำงานเสี่ยงตาย วันๆอยู่แต่ในห้องแอร์ มันไม่ใช่หรอกครับ พวกเราก็มีที่ต้องเสียชีวิตในขณะปฎิบัติหน้าที่ นักการทูตไทยถูกลูกระเบิดตกใส่ระหว่างการสู้รบที่เวียงจันทน์จนเสียชีวิตก็มีนะครับ แต่นี่คือหน้าที่ของเราที่ยินดีปฏิบัติ และไม่เคยคิดว่าจะต้องทำเพื่อกลายเป็นบุญคุญอะไรให้ใคร

แต่ประเด็นสำคัญที่สุดที่อยากบอกคนที่พูดว่าปืนก็สำคัญพอกับปากคือ ผมเพียงแต่ต้องการสื่อเปรียบเทียบให้ฟังว่าระหว่างการทูตกับการทหารในแง่ของประโยชน์ของชาติและผลที่ได้รับ กับงบประมาณประเทศชาติที่ต้องเสียไป อย่างไหนที่คุ้มค่ากว่ากัน ลองคิดดูเอาเองแล้วกัน และใครครับ ที่คอยเอาแต่ลำเลิกทวงบุญคุญประชาชน ทั้งๆที่มันก็เป็นหน้าที่ของตนเอง แถมปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้ผลจริงอย่างคุยไว้ ใครกันที่หน้าที่ตัวเองไม่ทำ ไปทำหน้าที่ที่ไม่ใช่จนประเทศชาติป่นปี้

ใครครับ?
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"