17 พ.ย.63-   ที่หน้ากรมการอุตสาหกรรม​ทหาร ถนนประชาราษฎร์​สาย 1 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี กล่าวว่า วันนี้นัดหมายมวลชนมาร่วมยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา ซึ่งจะมีการยื่นในเวลา 10.30 น.เพื่อให้รับรู้ถึง รัฐธรรมูญปี 2560 ที่ผ่านการรับรองจากประชาชนมติ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติ รวมถึงแสดงจุดยืนในการต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญทั้ง3ร่าง ที่ให้ตั้ง สสร.เพราะมองว่าจะสร้างปัญหากับประเทศแน่นอน ส่วนร่างของไอลอร์ถือเป็นร่าง เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าคนไทยจะไม่ให้ผ่าน

โดยทางกลุ่มเห็นว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองบางพรรคอาศัยการล้มล้างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างใหม่ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การล้มล้างสถาบันฯและลดทอนพระราชอำนาจ และมองว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 จะช่วยปฏิรูปการเมือง เพื่อประโยชน์ประเทศในระยะยาว รวมถึงช่วยปราบโกง ประหยัดภาษี เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปี2560จะไม่มีงบ ส.ส.  ทางกลุ่มไทยภักดีจึงอยากเตือนสติให้วุฒิสภาได้ช่วยปกป้องรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้หากมีการแก้ไขรายมาตรากลุ่มไทยภักดีจะไม่ขัดข้อง

 นพ.วรงค์ กล่าวถึงกรณีการปฏิรูปสถาบันฯ ว่า พฤติกรรมที่แสดงออกของการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมาทำให้ไม่น่าเชื่อถือและเป็นการพยายามล้มล้าง ดังนั้นคนไทยจึงไม่ยอม ซึ่งใครมีแนวคิดแบบนี้ืคนไทยจะต่อต้าน และที่ผ่านมา ปัญหาของประเทศเกิดจากนักการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ  ส่วนเหตุผลที่ไม่ยื่นให้ ส.ส เพราะมองว่ามีผลประโยชน์ แต่หวังว่าเสียงของ สว.จะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ

จากนั้นเวลา 10.30น. ได้ยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา ผ่าน พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร  รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ที่เป็นตัวแทนมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา จะต้องพิจารณากฎหมายอย่างรอบคอบและเป็นธรรม โดยหลังจากรับเรื่องจากกลุ่มไทยภักดีแล้วจะนำเรื่องไปบอกกล่าวต่อประธานวุฒิสภา และแจ้งต่อสมาชิกวุฒิสภาท่านอื่นๆ ว่ามีประชาชนจำนวนมาก ได้มาขอคัดค้านการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมขอบคุณประชาชน และบอกด้วยว่าประเทศที่เป็นระบอบประชาธิปไตย ต้องมีความเห็นต่างแต่ทุกความเห็นต่างต้องอยู่บนความสงบสุขของบ้านเมือง มีขอบเขต อย่าไปละเมิดสิทธิ์ของกันและกัน

ขณะที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. บอกด้วยว่าตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่เกรงกลัวกฎหมู่ ขอให้ประชาชนสบายใจว่า ส.ว.จะตัดสินใจด้วยความถูกต้องเพื่อประโยชน์ประเทศ  ส่วนทิศทางการโหวตของส.ว.นั้นถือว่าทุกคนมีเอกสิทธิในการตัดสินใจ ไม่มีคำสั่งไม่มีการล็อบบี้ใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลในการชุมนุมของกลุ่มราษฎร และมองว่าถ้าใช้กฎหมู่ประเทศก็จะเดินไปไม่ได้ ปัญหาจะไม่จบ และความขัดแย้งก็ไม่หมดไปในประเทศไทยและยืนยันว่า วุฒิสภาจะมาลงมติแน่นอน   ส่วนกรณีการแก้ไข ม.272 มองว่า ส่วนตัวไม่ขัดข้อง หากจะแก้ไขรายมาตรา และจะตัดอำนาจ สว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี.