คลายล็อกหนุนเศรษฐกิจฟื้น!


เพิ่มเพื่อน    

 

      เรียกว่าเป็นสัญญาณที่ดี หลังจากที่ “สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์” ออกมาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3/2563 ว่าเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้น จากการใช้จ่ายของภาครัฐที่ทำได้ดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนก็ปรับตัวดีขึ้น ส่วนภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรก็ฟื้นตัวดีเช่นกัน ส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 ขยายตัวติดลบเหลือ 6.4% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ติดลบสูงถึง 12.2% ถือว่าเป็นการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาดการณ์มาก

                ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 9 เดือนของปี 2563 ยังขยายตัวติดลบที่ 6.7% ขณะที่การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวติดลบที่ 7.5% โดยการที่รัฐบาลเริ่มเปิดประเทศเกือบ 100% ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง ยกเว้นการจำกัดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามานั้น น่าจะช่วยทำให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวในปีนี้ขยายตัวที่ 4.6 แสนล้านบาท ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.9 แสนล้านบาทในปีหน้า ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจทั้งปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวติดลบที่ 6% ดีขึ้นจากคาดการณ์เดิม

                สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ การปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจและการค้าโลก การเบิกจ่ายของภาครัฐกว่า 3.75 ล้านล้านบาท และอานิสงส์จากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายฝ่ายประเมินว่าโลกจะได้วัคซีนใช้ได้เร็วสุดในไตรมาส 3/2564 และปัญหาการว่างงาน ฐานะการเงินของครัวเรือนรวมถึงภาคธุรกิจ ปัญหาภัยแล้ง และความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก โดยปัจจัยทั้งหมดจะมีผลทำให้คาดว่าเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะเติบโตที่ 4.9% จากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวติดลบที่ 3.5%

                ขณะที่ฝั่งกระทรวงการคลัง โดย “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ”  รมว.การคลัง ออกมายอมรับว่า ปี 2563 ตัวเลขจีดีพีจะขยายตัวติดลบแน่นอน แม้ว่าขณะนี้เครื่องชี้เศรษฐกิจหลายตัวจะเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะติดลบน้อยกว่า 7.7% ก่อนจะฟื้นตัวเป็นบวกขึ้นได้ในปี 2564 ที่ระดับ 4% โดยยังต้องจับตาภาคการท่องเที่ยว เพราะหากรัฐบาลสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ก็จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

                “การใช้จ่ายของประชาชนในไตรมาส 3/2563 เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพลิกกลับมาเป็นบวกที่ 6.3% แต่ยังติดลบ 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การลงทุนภาครัฐเป็นบวกที่ 18% เป็นเครื่องยืนยันว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยดี และช่วงก่อนหน้าที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ก็เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นการป้องกันไว้ก่อน เมื่อถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่าไม่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศ รัฐบาลก็ทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์และใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังใช้ความพยายาม ใช้ความสามารถอย่างที่สุดในการดำเนินการ เพราะการใช้เงินกระตุ้นการใช้จ่ายตรงนี้จะทำให้เกิดผลทวีคูณกลับมา” นายอาคมระบุ

                ขณะที่ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” เอง ก็มองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2563 ฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดคาดการณ์ มาอยู่ที่ติดลบ 8% มาจากแรงหนุนของการส่งออกที่หดตัวน้อยกว่าที่ประเมิน โดยมองว่าในปีนี้ภาพรวมการส่งออกจะขยายตัวติดลบ 7% ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ ทั้งการบริโภคและการลงทุนก็ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์

                ทั้งนี้ แม้ว่าไตรมาส 3/2563 จะเป็นช่วงรอยต่อการสิ้นสุดมาตรการภาครัฐที่ช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ต่อเนื่อง 3 เดือน ในโครงการเราไม่ทิ้งกัน แต่การใช้จ่ายครัวเรือนก็มีการปรับตัวอย่างมากจากไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าจะยังหดตัวอยู่ก็ตาม เป็นการสะท้อนแรงหนุนจากความต้องการที่สะสมมาจากช่วงก่อนหน้า หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ

            พร้อมทั้งมองว่าทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2563 จะยังคงหดตัวใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 3 และยังต้องเผชิญกับปัจจัยความไม่แน่นอนหลายเรื่อง ทั้งจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก แรงกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศอีกด้วย.

ครองขวัญ รอดหมวน

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"