ม็อบลุยต่อเย้ย112 12แกนนำเมินหมายเรียก บิ๊กตู่ปรามปชช.เดือดร้อน


เพิ่มเพื่อน    

 

“บิ๊กตู่” เมินม็อบ 3 นิ้วชุมนุมยืดเยื้อ 5 วัน ยันไม่ใช้กฎอัยการศึก ใช้ กม.ปกติก็เพียงพอ ย้ำใครทำผิดถูกดำเนินคดีทั้งหมด ย้อนถามรถติดเพราะใคร "บิณฑ์" เผยคนไทยส่วนใหญ่เสียใจกลุ่มผู้ชุมนุมละเมิดจาบจ้วงสถาบัน เตือนขอให้เลิกทำ 12 แกนนำโดนหมายเรียกผิด ม.112 "เพนกวิน-จุฑาทิพย์" ไม่หวั่น ลั่นไม่สามารถหยุดได้แล้ว ม็อบมุ้งมิ้งปักหลักหน้า ธ.ไทยพาณิชย์ มามุกใหม่แจก "ธนบัตรราษฎร" เป็นรูปเป็ดเหลือง 3 พันใบ ใบละ 10 บาท นำไปซื้อของกับ "ซีไอเอ" แล้วนำมาแลกเงินจริงกับแกนนำ เพ้อประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการต่อสู้
    เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน กลุ่มคณะราษฎร 2563 ได้เปลี่ยนการชุมนุมจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ แยกรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก เวลา 15.00 น. และประกาศจะชุมนุมยืดเยื้อ 5 วัน ไม่ค้างคืน โดยจะแจ้งสถานที่ทางเพจของกลุ่มผู้ชุมนุม
    ที่กระทรวงการต่างประเทศ เวลา 12.20 น. พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมร่วมสภาธุรกิจสหรัฐ-อาเซียน ถึงการชุมนุมกลุ่มราษฎร ว่า ไม่มีอะไรหรอก เป็นเรื่องของการชุมนุม ระหว่างการประชุมตนได้บอกไปกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียนว่าเป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศทั่วโลก ประชาธิปไตยก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ ก็ไม่ได้บอกว่าใครดีหรือไม่ดี ตนจับด้วยข้อกฎหมาย และไม่ว่าใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
    “ในโลกประชาธิปไตย ผมทำให้ทุกคนเห็นด้วยเหมือนกับเราคงไม่ได้ แต่ทำอย่างไรมันจะเดินหน้าไปกันได้โดยไม่ให้เกิดปัญหากันในอนาคต เมื่อเช้านี้รถติดอย่างมหาศาล คนเดือดร้อนจำนวนเท่าไหร่ก็พิจารณากันเอาเองแล้วกัน” นายกฯ กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเท็จจริงในการประกาศใช้กฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้บอกหลายครั้งแล้วว่าไม่เคยคิดในเรื่องเหล่านี้เลย ใช้กฎหมายปกติก็น่าจะเพียงพอแล้วในตอนนี้ วันนี้เราต้องช่วยกันสร้างบ้านเมืองให้สวยงาม แต่วันนี้มันมีภาพความขัดแย้ง ก็โอเคไม่ว่าอะไรพวกท่าน แต่เราต้องสร้างบ้านเมืองของเราให้สวยงาม โดยเฉพาะเวลากลางคืนปัจจุบันสวยงามมาก พลิกกลับหลายปีที่ผ่านมา
    เมื่อมาถึงช่วงนี้นายกฯ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "เมื่อเช้ารถติดกันมากหรือไม่ แล้วมันติดเพราะอะไร เพราะผมหรือเปล่าก็ไปดูกันแล้วกัน ก็คงต้องขอร้อง ไม่ว่าจะใครก็ตาม วันนี้บ้านเมืองต้องการความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ อะไรควรทำ-ไม่ควรทำทุกคนรู้อยู่แล้ว คนไทยทุกคนก็ต้องเรียนรู้ มันเป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับคนไทยว่าเราจะอยู่กับโลกยุคใหม่ได้อย่างไร โลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล โลกแห่ง 4.0 โลกหลังโควิด-19 นิวนอร์มอล ถ้าเรายังมีอะไรที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ เมื่อประชาชนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ผมจึงจำเป็นต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ผมไม่จำเป็นต้องไปสั่งอะไรเพิ่มเติม เพราะมีกฎหมายอยู่แล้ว"
    เมื่อถามว่า แต่ผู้ชุมนุมประกาศชุมนุมยืดเยื้อ 5 วัน นายกฯกล่าวว่า ก็ประกาศไปสิ ประกาศไปเถอะ เพราะกฎหมายมีอยู่แล้วถ้าจะทำผิดกฎหมายก็ว่าไป ทั้งนี้จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง
ยังไม่ใช้กฎอัยการศึก
      ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มคณะราษฎรเปลี่ยนสถานที่นัดชุมนุมไปหน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่เศรษฐกิจของเอกชน จะเข้าข่ายประกาศใช้กฎอัยการศึกได้หรือไม่ ว่าขอให้เลิกพูดเรื่องกฎอัยการศึก เพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็พูดแล้วว่าจะไม่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั้งนี้ หากผู้ชุมนุมย้ายจากการชุมนุมที่หน้าสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แล้วความอ่อนไหวก็ไม่ต่างจากการชุมนุมในวันอื่นๆ แต่ถ้ายังยืนยันชุมนุมที่หน้าสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ก็จะมีความอ่อนไหวมากกว่าทุกครั้ง
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังจำเป็นจะต้องกลับมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ แต่ถ้าจะประกาศก็ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้อยู่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงที่จะเป็นผู้ประเมินว่าสถานการณ์มีความร้ายแรงเพียงใด จึงจะต้องกลับมาประกาศใช้อีกครั้ง ส่วนการชุมนุมจะมีกี่วันนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่อยู่ที่ว่าจะมีระดับความรุนแรงหรือไม่
    ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดกรณีเหตุการณ์ชุมนุมที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย. และการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่พบว่ามีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน อาทิ ใช้น้ำผสมแก๊สหรือสารเคมีฉีดด้วยแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุม
    โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า ในวันดังกล่าวไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านแนวป้องกันพื้นที่ควบคุมโดยรอบรัฐสภา ที่ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมกำหนดระยะ 50 เมตรจากพื้นที่รัฐสภา การตั้งแนวดังกล่าวเพื่อรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่และสมาชิกรัฐสภา การปฏิบัติการนั้นเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบผู้คุมเหตุการณ์สั่งการไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เลี่ยงการปะทะ เมื่อผู้ชุมนุมผ่านแนวป้องกันพื้นที่ควบคุมตำรวจ จึงร่นถอยเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า น้ำในรถไม่ได้ผสมแก๊ส แต่ในขั้นตอนกำหนดผสมไม่เกิน 3% ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามแผน โดยนายกฯ ย้ำกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการชุมนุมให้เลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตามหลักสากลและ พ.ร.บ.ชุมนุม  
     นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า ประชาชนมีสิทธิชุมนุมเรียกร้องที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่มีการชุมนุมใดที่ผู้ชุมนุมจงใจมาก่อความรุนแรงตั้งแต่แรก เว้นแต่รัฐได้สร้างเงื่อนไขยั่วยุและเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม พรรคก้าวไกลจึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการการชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากลอย่างแท้จริง ยุติการใช้นิติสงคราม การใช้กฎหมายกับประชาชนอย่างเลือกปฏิบัติ ยุติการยั่วยุด้วยขบวนการไอโอ ยุติกระบวนการเกณฑ์คนเพื่อหมายให้เกิดการปะทะกับประชาชนแบบม็อบชนม็อบ เพื่อให้ได้ใช้กฎหมายพิเศษคืออัยการศึกเข้ามาจัดการประชาชน เราจะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหารอีกแล้ว
     เมื่อถามถึงกรณีภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันยื่นประธานรัฐสภาให้ตรวจสอบ ส.ส.ที่ร่วมชุมนุมกับคณะราษฎร นายวิโรจน์ กล่าวว่า เราเป็นผู้แทนราษฎร ทุกครั้งที่ไปสังเกตการณ์การชุมนุม จะดูว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติกับผู้ชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เราต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่สำคัญเราไม่เคยขึ้นเวทีเหมือน ส.ส.รัฐบาล ไม่เคยมีพฤติกรรมยั่วยุปลุกปั่น เราครองตนในฐานะผู้แทนราษฎร พิทักษ์สิทธิประชาชน จึงไม่กังวล กำลังพิจารณาว่าจะยื่นตรวจสอบ ส.ส.ของพรรครัฐบาลที่ขึ้นเวทีกับที่ผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหรือไม่
ยื่นสอบสส.จาบจ้วงสถาบัน
     ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ นำโดยนายพานสุวรรณ ณ แก้ว ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา โดยในหนังสือระบุว่า ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมสมาชิกรัฐสภาบางคนที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคณะราษฎร 63 ซึ่งมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน เปิดเผย และมีการท้าทายอย่างต่อเนื่อง จึงเรียกร้องให้ทางรัฐสภาพิจารณาและตรวจสอบถึงพฤติกรรมดังกล่าวว่าเป็นไปตามจริยธรรมของความเป็นผู้แทนราษฎรของปวงชนชาวไทยตามคำปฏิญาณตนหรือไม่ ทั้งนี้ นายพานสุวรรณกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่ได้อยากจะออกมา แต่เป็นเพราะผู้ชุมนุมอีกกลุ่มมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันจึงต้องออกมาปกป้อง
    ทางเครือข่ายได้มีการแสดงโชว์สื่อถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังของกลุ่มม็อบ อีกทั้งยังมีการมอบเค้ก 112 ให้เป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดนายธนาธรในวันนี้ด้วย รวมทั้งตั๋วเครื่องบินให้ไปสร้างประชาธิปไตยประเทศอื่น ตั๋วเรือปลายทางเกาะตะรุเตา และบันไดลิงให้นายธนาธรปืนลงมาด้วย
        ที่สวนลุมพินี เวลา 14.30 น. นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง กล่าวถึงกรณีกลุ่มมวลชนคณะราษฎรที่มีการปราศรัยเนื้อหาที่รุนแรงมากขึ้นว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ แต่การที่กลุ่มมวลชนล่วงละเมิดหรือทำให้คนไทยหลายล้านคนไม่สบายใจ โดยการจาบจ้วงทำให้คนไทยเสียใจและโกรธแค้น ตนขอให้เลิกทำ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน เราต้องกลับมาคุยกัน กินข้าวในประเทศไทยด้วยกัน จึงไม่สายที่จะหยุดการกระทำดังกล่าว มันไม่ดีสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ตนได้ลงพื้นที่หลายแห่ง คนไทยส่วนใหญ่บอกกับตนว่ารู้สึกเสียใจกับสถานการณ์ประเทศไทยในตอนนี้ ตนจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
    ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี กล่าวว่า ทุกกระเเสเรียกร้องให้มีการใช้กฎหมายมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายคุ้มครององค์ประมุขแห่งรัฐ โดยกฎหมายลักษณะนี้มีการใช้ทั่วโลก เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการใช้กฎหมายนี้อย่างเข้มงวด แต่จากพฤติกรรมที่ม็อบมีการจาบจ้วง และใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย ซึ่งสังคมไทยรับไม่ได้ จึงเป็นการเรียกร้องไปยังรัฐบาล ว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลุ่มไทยภักดีจะเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การรัฐประหาร จึงอยากเรียกร้องผู้ชุมนุมผู้อยู่เบื้องหลังที่สร้างวาทกรรมการเกลียดชัง ต้องหยุดและใช้สติ
    ขณะเดียวกัน ดร.สาธุ อนุโมทามิ, นายบัญชา ปานนิวัฒน์ และนายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู คณะแกนนำกลุ่มพลังแผ่นดินสยาม พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม บริเวณริมถนนราชดำเนินนอก หน้า สน.นางเลิ้ง โดย ดร.สาธุ กล่าวว่า ขอขอบคุณทางกลุ่มคณะราษฎรที่ย้ายไปชุมนุมยังจุดอื่น  ทางกลุ่มพลังแผ่นดินสยามยังคงมั่งคงชัดเจน และยังคงจะแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ถวายพระเกียรติยศให้ก้องไกลไปทั่วโลก เราไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้าหรือสร้างเงื่อนไขใดๆ แต่ตรงไหนที่เป็นบ้านพ่อเราก็ต้องช่วยกันดูแล
12 แกนนำโดนแจ้งข้อหา ม.112
    ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวและแจ้งข้อหากับนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดคณะราษฎร ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 116 นั้น ทวิตเตอร์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า โตโต้ไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน หลัง ส.ส.ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัว โดยอ้างว่ากลัวหลบหนี, ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน, ก่อเหตุอันตรายชักชวนให้ประชาชนก่อความรุนแรงจากการจัดชุมนุมปราศรัย และเกรงว่าจะนำมวลชนมากดดันพนักงานสอบสวน (พงส.)
    มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนของพื้นที่ต่างๆ แจ้งข้อหา 12 แกนนำกลุ่มราษฎร ในฐานความผิดตามมาตรา 112 ประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ มี 8 คดี, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล มี 6 คดี, นายภาณุพงศ์ จาดนอก มี 4 คดี, นายอานนท์ นำภา มี 4 คดี,   น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ มี 3 คดี, นายชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดี, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ มี 1 คดี, นายปิยรัฐ จงเทพ มี 1 คดี, นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี มี 1 คดี, นายอรรถพล บัวพัฒน์ มี 1 คดี, นายชูเกียรติ แสงวงศ์ มี 1 คดี และนายสมบัติ ทองย้อย มี 1 คดี
    ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยว่า หมายเรียกดังกล่าวระบุให้ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแกนนำทั้ง 12 คน เนื่องจากบางส่วนยังติดภารกิจส่วนตัว ประกอบกับทั้ง 12 คน ถูกออกหมายเรียกจาก สน.ต่างท้องที่กัน เช่น สน.ชนะสงคราม, สน.ทุ่งมหาเมฆ, สน.ยานนาวา, สน.บางโพ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพูดคุยหารือกับแกนนำทั้งหมดก่อน หากติดภารกิจสำคัญและมีความจำเป็น อาจมีการขอเลื่อนการเข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกไปเป็นวันอื่น
     ภายหลังกลุ่มคณะราษฎรแจ้งมวลชนจัดชุมนุมใหญ่เปลี่ยนจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มาเป็นที่ธนาคารไทยพาณิชย์  "ร่วมทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร" ในเวลา 15.00 น. อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในพื้นที่โดยรอบก่อนถึงสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เจ้าหน้าที่ยังคงใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เช่นเดิม โดยปิดการจราจรหลายพื้นที่ นำแท่งปูนแบริเออร์พร้อมลวดหนามมาวางเป็นแนวกั้นถนนโดยรอบ
    ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาฯ ใกล้แยกรัชโยธิน มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จำนวน 2 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน และจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เข้าดูแลพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนพนักงานหรือผู้ที่ทำงานที่อาคารดังกล่าวบางตา โดยเวลา 07.30 น. เฟซบุ๊ก SCB Thailand แจ้งประกาศปิดทำการสาขาใหญ่ 1 วัน ส่วนลูกค้าสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอื่นๆ หรือที่สาขาใกล้เคียงได้ตามปกติ
    ขณะที่ในไลน์กลุ่มราษฎร ซึ่งใช้ประสานงานกับสื่อมวลชน  ทางแอดมินของกลุ่มได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันการชุมนุมจะจัด 5 วัน โดยไม่มีการปักหลักค้างคืน ทางผู้จัดจะแจ้งสถานที่และข้อมูลอื่นๆ ในเพจที่เชื่อถือได้ เช่น เยาวชนปลดแอก ธรรมศาสตร์และการชุมนุมฟื้นฟูประชาธิปไตย
     เวลา 14.30 น. ผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 ทยอยเดินทางมาชุมนุมตามนัดหมาย โดยมีพระสงฆ์ถือรูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตกแต่งด้วยดอกไม้เดินในที่ชุมนุม และมีชายคนหนึ่งถือกระถางธูปเดินตาม เปิดเพลงธรณีกันแสง พร้อมกล่าวไว้อาลัย พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งแกล้งทำเสียงร้องไห้ แสดงล้อเลียนเหมือน พล.อ.ประยุทธ์เสียชีวิต
แกนนำไม่หวั่นโดนม.112
    เวลา 14.45 น. ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ขาออก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้ผู้จัดไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมาย แต่หลังจากนี้ตำรวจจะอนุญาตให้ชุมนุมได้โดยสงบปราศจากอาวุธ ความรุนแรง ส่วนการที่นำกำลังตำรวจมาประจำการ ก็เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย และตำรวจจะเน้นการเจรจาตามหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เป็นหลัก
    เวลา 15.10 น. ผู้ชุมนุมได้ปิดถนนรัชดาภิเษก บริเวณ 4 แยกรัชโยธิน ที่จะมุ่งหน้าไป SCB เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้การจราจรติดขัด ผู้ใช้รถที่จะมุ่งหน้าไปทางแยกประชานุกูลต้องลงอุโมงค์ข้ามแยกแทน
     เวลา 15.21 น. ตำรวจ สน.พหลโยธินอ่านคำสั่งแจ้งให้ผู้ชุมนุมเลิกชุมนุมในเวลา 15.30 น. เนื่องจากไม่แจ้งชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมราษฎรส่วนหนึ่งตะโกนตอบโต้ไม่ฟัง
     นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร 2563 ให้สัมภาษณ์เมื่อเดินทางมาถึงที่ชุมนุมว่า การดำเนินคดีกับแกนนำด้วย ป.อาญา มาตรา 112 เพื่อหวังที่จะจับแกนนำและปล่อยให้การชุมนุมกันโดยไม่มีแกนนำนั้น ไม่ได้ทำให้เสียรูปขบวนของการชุมนุม กลับทำให้ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุม เป็นการสะท้อนให้เห็นว่ายังมีระบบเก่าล้าหลัง และเมื่อมีการใช้ขึ้นมาเมื่อใด ก็จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศ
     น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ถูกหมายเรียกในความผิดตามมาตราต่างๆ แต่รอบนี้มีมาตรา 112 มาด้วย ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะหมายเรียกดังกล่าวถูกส่งไปที่ภูมิลำเนา จ.อำนาจเจริญ แต่ตนอยู่ที่กรุงเทพฯ ตนไม่เห็นด้วยกับการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะ ม.112 เราจะผลักดันให้มีการยกเลิก แม้ถูกดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้หวั่นไหวในการต่อสู้ การที่เขานำกฎหมายดังกล่าวมาใช้ เพราะต้องการอยากจะลดบทบาทแกนนำในการต่อสู้ด้วยการจำกัดสิทธิเสรีภาพ และไม่อยากให้เราพูดต่อไป แต่เชื่อว่ามันไม่สามารถหยุดได้แล้ว เพราะตอนนี้ทุกอย่างได้พังทลายไปหมดแล้ว ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมยังสามารถไปต่อได้แม้ไม่มีแกนนำ เพราะทุกคนคือแกนนำ
    นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำราษฎร 2563 กล่าวถึงการเปลี่ยนที่ชุมนุมมาเป็นที่ SCB ว่ากระบวนการของเราเป็นสันติวิธีมาโดยตลอด เราประเมินแล้วที่ตำรวจปิดกั้นเส้นทางที่เราจะไป และเราประเมินถึงความไม่ชอบธรรมที่เจ้าหน้าที่จะสร้างให้มันเกิดเงื่อนไขการทำรัฐประหาร เราจึงเลือกเปลี่ยนเส้นทาง
    ต่อมา เวลา 16.00 น.เศษ นายพริษฐ์ร่วมกับนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง และนายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ขึ้นร้องลำตัดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์บนรถปราศรัย เรียกเสียงครื้นเครงจากผู้ชุมนุม
    ด้าน จ.ส.ต.พลาม พรมจำปา หรือครูพลาม อดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ที่ได้เปิดตัวประกาศเป็น “การ์ดรบพิเศษ” ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร 2563 ให้สัมภาษณ์ว่า จากที่ตนเปิดรับสมัครการ์ดรบพิเศษเมื่อ 2-3 วันผ่านมา มีผู้สนใจมาลงทะเบียนเข้ามาเป็นการ์ดกว่า 300 คน และ 30 เปอร์เซ็นต์ของการ์ดรบพิเศษเป็นอดีตเจ้าหน้าที่เก่า ที่เหลือคือผู้ที่ชอบแนวทางของตน หากมีการจะสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ตนจะเป็นคนรับหน้าที่เข้าไปคุยไปเจรจา เพราะเคยเป็นเจ้าหน้าที่มา คิดว่าน่าจะคุยกันได้
    ขณะที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคก้าวไกล 4 คน ได้แก่ นายรังสิมันต์ โรม, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, น.ส.เบญจา แสงจันทร์ และนางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล เดินทางเข้าพื้นที่การชุมนุม โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า นายพิธาน ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้พวกเราทั้ง 4 คนเข้ามาสังเกตการณ์การชุมนุม เพื่อให้การใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้รับความปลอดภัย โดยจะอยู่ในพื้นที่จนยุติการชุมนุม และหากเกิดอะไรขึ้น ก็จะได้ดูแลช่วยเหลือประสานงานกัน
แจกธนบัตรราษฎรแลกเงินสด
    เวลา 17.00 น. นายพริษฐ์ขึ้นเวทีรถเครื่องเสียง ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่นั่งอยู่บริเวณถนนและลานจอดรถด้านหน้าของ ธ.ไทยพาณิชย์ ติดถนนรัชดาฯ เข้าไปนั่งในสวนหย่อมหน้าสำนักงานฯ โดยบอกให้เข้าไปนั่งพักผ่อนฟังการอภิปรายให้สบายใจ พร้อมบอกว่า "เข้าไปนั่ง ผมรับผิดชอบเอง" เงินที่ทำสวนหย่อมก็เป็นเงินภาษีของประชาชน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เป็นการยกระดับการชุมนุม ไม่มีคำว่าแผ่วคำว่าถอยอีกต่อไป"
    เมื่อเวลา 17.30 น. กลุ่มราษฎรได้แจกธนบัตรราษฎร ซึ่งเป็นรูปเป็ดเหลือง จำนวน 3,000 ใบ โดย 1 ใบมีมูลค่า 10 บาท ซึ่งสามารถนำไปใช้ซื้อของกับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าต่างๆ (ซีไอเอ) อย่างคึกคัก อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ร้านของที่ระลึกบริเวณที่มีการชุมนุม โดยร้านค้าต่างๆ ที่ร่วมกิจกรรมจะมีการแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบ โดยติดป้ายรูปธนบัตรเอาไว้หน้าร้าน ทั้งนี้ เมื่อร้านค้าต่างๆ ได้รับธนบัตรดังกล่าวแล้วก็จะนำมาเปลี่ยนเป็นเงินของจริงสกุลบาทได้ที่แกนนำผู้ชุมนุมในภายหลัง
    ทางด้านเฟซบุ๊ก สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute ได้มีความเคลื่อนไหวถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า "แบงก์เป็ดเหลืองใช้แทนเงินสด ซื้อสินค้าในม็อบ มีความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    ขณะที่ป้ายธนาคารไทยพาณิชย์ด้านหน้ามวลชนได้นำแผ่นไวนิลสีเหลืองไปปิดทับ พร้อมข้อความจาบจ้างสถาบันฯ
    เวลา 18.00 น. นายพริษฐ์ขึ้นเวทีรถเครื่องเสียงปราศรัยว่า ขณะนี้มวลชนมาอยู่ที่แห่งนี้สุดลูกหูลูกตา และพวกไดโนเสาร์ได้กินแกงหม้อใหญ่อีกหนึ่งหม้อ ส่วนที่แกงไดโนเสาร์แล้วมาที่ ธ.ไทยพาณิชย์ 1.ฝ่ายศักดินา อำมหิต เผด็จการจิตใจชั่วร้าย ให้เสื้อเหลือง ตำรวจ มารอรุมสกรัม เราต้องเลี่ยงความรุนแรง ชีวิตมีค่าเกินกว่าจะสูญเสีย โลกกำลังล้อมไทย โลกกำลังจับตาประเทศไทยอยู่นี้ จึงเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่การต่อสู้ เราจะไม่ตกหลุมพรางเผด็จการ 2.สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่เป็นแค่ออฟฟิศ แต่หุ้นอยู่ที่ ธ.ไทยพาณิชย์     
    เวลา 18.27 น. นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ขึ้นปราศรัยว่า วันไหนเราจะไปสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เราก็จะเดินไป อย่าคิดว่าตู้คอนเทนเนอร์จะเอาอยู่ อย่าดูถูกการ์ดอาชีวะ และหากมีการรัฐประหาร เราจะสู้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่เชื่อลองรัฐประหารดู แล้วเจอกันแล้ว เรายังมีนัดชุมนุมกันอีกก่อนสิ้นปีนี้ บิ๊กๆ เบิ้มๆ แน่นอน
    ส่วนผู้ปราศรัยต่อจากนายอานนท์ ซึ่งถือเป็นเซอร์ไพรส์คือ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ขึ้นกล่าวสั้นๆ ถึงการใช้ ป.อาญา มาตรา 112 ว่า การที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เอา ม.112 มาใช้ เป็นการขัดพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ชั่วร้ายมาก ต้องบีบ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป.
    นายพริษฐ์กล่าวว่า ในวันที่ 26 พ.ย. จะหยุดการชุมนุม 1 วัน และจะแจ้งให้ทราบถึงสถานที่การชุมนุมในวันที่ 27 พ.ย. ส่วนวันที่ 28 พ.ย. จะมีการจัดการชุมนุมบริเวณย่านปริมณฑล
    จากนั้นเวลา 21.20 น. ได้มีการร้องเพลงเพื่อมวลชน และได้สั่งการยุติการชุมนุม

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"