ม็อบฟุ้งชนะเกินครึ่ง จัดอีเวนต์ปิดถนนต้านรปห./บิ๊กตู่รับชาติวุ่นไร้สุข


เพิ่มเพื่อน    

"บิ๊กตู่" เผยตราบใดประเทศชาติยังไม่เรียบร้อยก็ไม่มีความสุข ระบุคนไทยต้องอยู่ในกรอบ ตามหน้าที่ สิทธิเสรีภาพความรับผิดชอบ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ไม่อย่างนั้นตีกันตาย ส.ส.ก้าวไกลซัด "ประยุทธ์" ลอยตัวให้ จนท.ใช้ ม.112 ขัดหลักพระเมตตา "โฆษก ปชป.-อดีตผู้พิพากษา" ย้ำ ม.112 ยังบังคับใช้ไม่มีทางเลือก หากไม่ยึดถือ กม.จะยึดอะไร พ่อพาการ์ดมือยิงในม็อบเข้ารับทราบข้อหา รับขัดแย้งส่วนตัวแขวะกันเรื่องจาบจ้วงสถาบัน ขณะที่ม็อบ 3 นิ้วยึด 5 แยกลาดพร้าวนำเป็ด-เอเลียนเป่าลมสีเหลืองมาแสดงเปรียบเป็นทหารที่จะรัฐประหาร ลั่นพร้อมต้านทุกรูปแบบ
    เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน กลุ่มคณะราษฎร 2563 นัดชุมนุม "ซ้อมต้านรัฐประหาร" ที่ห้าแยกลาดพร้าว เวลา 16.00 น. พร้อมประกาศจะต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ ไม่ให้มีการฉีกรัฐธรรมนูญอีก
    ช่วงเช้า ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ขอให้ทำสิ่งดีๆ เถอะ วันไหนได้ทำอะไรที่ไม่มีปัญหาตนก็มีความสุข ตราบใดที่ประเทศชาติยังไม่เรียบร้อยอะไรต่างๆ คนเป็นนายกฯ คนเป็นรองนายกฯ และคนเป็นรัฐมนตรีไม่มีความสุข เพราะเห็นคนไทยไม่มีความสุข แต่ความสุขมันต้องอยู่ในกรอบที่มันควรจะเป็น ตามหน้าที่ สิทธิเสรีภาพ ความรับผิดชอบ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ไม่อย่างนั้นประเทศตีกันตายใช่ไหม
    ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังได้ฟังคำตอบของ พล.อ.ประยุทธ์ตอบโต้นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ที่กล่าวในเวทีชุมนุมของกลุ่มราษฎรเมื่อวันที่ 25 พ.ย. วันรุ่งขึ้น พล.อ.ประยุทธ์จึงออกมาชี้แจงว่า “ผมไม่ได้ใช้ เจ้าหน้าที่เป็นคนใช้” นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะการรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ให้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน ถือเป็นบทบาทหน้าที่สำคัญของหัวหน้ารัฐบาลในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นายกฯ จึงไม่อาจลอยตัวต่อการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา การนำกฎหมายมาตรานี้กลับมาใช้อีก ก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนแย่ลง
    นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์เองที่พูดว่า “วันนี้มาตรา 112 ไม่ได้ใช้เลย เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้” แต่กลับเป็นในวันนี้ที่อ้างว่าหากเจ้าหน้าที่ไม่ใช้ก็ขัดมาตรา 157 การปล่อยปละเจ้าหน้าที่ให้นำกฎหมายที่สร้างความกังวลต่อประชาชนเช่นนี้มาใช้นอกจากขัดหลักพระเมตตาแล้ว ดูเหมือนมีเจตนาผลักให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นผู้เผชิญหน้ากับความไม่พอใจของประชาชนเพื่อกลายเป็นคู่ขัดแย้งแทนรัฐบาลเสียมากกว่า และเป็นการไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเกราะกำบังความล้มเหลวในการบริหารประเทศในแทบทุกด้านของตัวเอง
    นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกฎหมายพรรค กล่าวถึงนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต ม.ธรรมศาสตร์ มีความเห็นต่อการดำเนินคดีมาตรา 112 กับผู้ชุมนุมว่า ความเห็นของนายปริญญาอาจทำให้สังคมสับสน จึงมีความเห็นแย้งว่า มาตรา 112 ยังมีผลใช้บังคับ มีเจตนารมณ์ชัดเจน และมีเท็จจริงที่เกิดขึ้นประจักษ์ชัดว่าการกระทำทั้งใช้วาจาโฆษณาวาดเขียน มีลักษณะเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 ทั้งสิ้น  เมื่อปรากฏความผิด แม้ว่าจะไม่มีใครแจ้งความ เจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นการกระทำดังกล่าวไม่มีทางอื่นที่จะต้องดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดหากไม่ดำเนินการตามหน้าที่ก็ต้องถือว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ บ้านเมืองจะสงบถ้ามีการบังคับใช้
กฎหมายอย่างเคร่งครัด ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้มีความผิดหรือไม่ ไปไกลกว่าการใช้วาจาหยาบคายไม่เหมาะสมแล้ว
ไม่ยึดถือ กม.จะยึดอะไร
    "ที่บอกว่าอาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประชาชนที่เรียกร้องเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์กับสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้นเมื่อบังคับใช้ ม.112 นั้น คิดว่าการบังคับใช้กฎหมายแล้วทำให้เกิดปัญหาก็ถือว่าผิดหลักการของรัฐที่ปกครองด้วยกฎหมาย ทำไมไม่กลัวว่าปัญหาจะเกิดกับประชาชนที่อยู่ในเรือนจำที่เขาทำความผิดอื่นบ้าง อย่าไปคิดอะไรแบบฉาบฉวยตามกระแส เพราะไม่มีสิ่งไหนหนีหลักการความถูกต้องไปได้ อาจไม่สะใจใคร แต่นั่นคือสิ่งที่ยั่งยืน และสนันสนุนการบังคับใช้กฎหมายภายใต้หลักนิติรัฐ" นายราเมศกล่าว    
    นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์ข้อความระบุว่า นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล เรียนจบนิติศาสตร์ เป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ และเป็นรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ แต่เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีแก่ผู้พูดจาไม่เหมาะสมหรือหยาบคายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2563 กลุ่มผู้ชุมนุมทำลายประตูรั้ว ม.ธรรมศาสตร์เสียหาย ซึ่งมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 358, 326 และ 365 แต่คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมีมติมิให้ดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำผิด ถ้าผู้ที่เรียนจบกฎหมายแล้วสอนกฎหมายในคณะ นิติศาสตร์และเป็นรองอธิการบดีกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชากฎหมายมาตั้งแต่ปี  2477 ไม่ยึดถือหลักกฎหมายแล้ว สังคมไทยจะยึดถืออะไรเป็นหลัก และจะดำรงอยู่ได้อย่างไร?
    นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเรื่อง สันดานปิยบุตร กล้าคิด แต่ไม่กล้ายอมรับความจริงว่าต้องการ “ล้มสถาบัน” สรุปว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ขู่ว่าสิ่งที่นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับแนวคิดล้มสถาบัน พร้อมแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ ด้วยวาทกรรมเดิมๆ ว่า ไม่คิดล้มล้าง ต้องการแค่ปฏิรูปสถาบัน มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่านี่คือความ “ขี้ขลาดตาขาว” ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ตนสนับสนุนการเปิดเผยข้อมูลของรัฐมนตรีถาวร และอยากเห็นนายปิยบุตรนำเรื่องไปฟ้องเป็นคดีต่อศาล จะได้มีการพิสูจน์ความจริง และอีกไม่นานทุกคดีก็ต้องไปพิสูจน์กันที่ศาลว่า แท้ที่จริงแล้วมันคือการปฏิรูปหรือปฏิปักษ์ล้มล้างกันแน่
    ที่ จ.นครศรีธรรมราช เวลา 08.45 น. นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รวมถึงกองทัพประชาชนเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 400 คน ร่วมกันประกอบพิธีทางศาสนาและบวงสรวงศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองและปกปักรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงเพื่อขอพรให้เกิดความสุข ให้รู้รัก สามัคคี มีนายสมพงษ์ มากมณี  รองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.วรพล วรพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4, นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เข้าร่วมกิจกรรมด้วย
    จากนั้นนายสุวิทย์และคณะเดินทางไปยังวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เพื่อร่วมเวทีเสวนาถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอพรหมคีรี นอกจากนี้ได้มีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีผ่านผู้ว่าฯ เรียกร้องมิให้แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ และเร่งรัดดำเนินคดีต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
    ที่บริเวณหน้าพระบรมรูป ร.5 หน้าศาลกลางจังหวัดอ่างทอง นายบิณฑ์และนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ พร้อมด้วยชาวอ่างทอง กว่า 500 คน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองและเสื้อชมพูเข้าร่วมกิจกรรมปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมทั้งชูพระบรมฉายาลักษณ์ ร.9  ร.10  ธงชาติ แสดงพลังปกป้องสถาบัน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบัน โดยแกนนำแต่ละอำเภอกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันที่มีต่อพสกนิกร ชาวอ่างทองในแต่ละอำเภออ่านแถลงการณ์จุดยืน มอบหนังสือถึงนายกฯ ผ่านนายสุชน ภัยธิราช รองผู้ว่าฯ อ่างทอง และกล่าวคำปฏิญาณตน ร้องเพลงชาติ สดุดีจอมราชา เพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนเดินทางกลับ
ผู้ชุมนุมร้อง พท.ช่วย
    ที่พรรคเพื่อไทย นายพรพรหม สังขสุข ประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย. เดินทางเข้าร้องทุกข์ ที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบการชุมนุมพรรคเพื่อไทย หลังปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูงและยิงแก๊สน้ำตาจนตนเองได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลพระรามเก้าและโรงพยาบาลปากเกร็ดได้ตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดพบว่า กระดูกซี่โครงขวาหัก 2 ซี่ โดยนายคุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค, น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและทีมฝ่ายกฎหมาย ลงมารับเรื่องเพื่อดำเนินคดีทางทางกฎหมายต่อไป
    น.ส.อรุณีกล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวในศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบของพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จะพิจารณานำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กรรมาธิการเพื่อตรวจสอบการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ นับแต่มีการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย. มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ของอาการบาดเจ็บและการดูแลช่วยเหลือทางกฎหมายแล้วกว่า 10 กรณี
    ที่ สน.พญาไท กลุ่มแกนนำคณะราษฎร นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ กับพวกรวม 12 คน ประกอบด้วย นายชาติชาย แกดำ, น.ส.กรกช แสงเย็น, นายอภิสทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์,  นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด, นายวสันต์ กล่ำถาวร, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก, นายอานันท์ ลุ่มจันทร์, นายไพศาล จันทร์ปาน และนายทศพร เสรีรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหา กระทำผิดข้อหาห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือการกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย เข้าพบ พ.ต.ท.ชัยณรงค์ ทรัพยสาร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พญาไท และพ.ต.ท.วิศรุช หยกนิธิภัทร สารวัตร (สอบสวน) สน.พญาไท ตามหมายเรียกครั้งที่ 1
    จากนั้นนายปิยรัฐกล่าวว่า มารับทราบข้อกล่าวหาในการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีร่วมกันชุมนุมโดยการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมดให้การปฏิเสธ พร้อมจะทำบันทึกคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อส่งแก่พนักงานสอบสวนในวันที่ 15 ธ.ค.63 นี้ จากนี้คงเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย หลังจากนี้คิดว่ารัฐบาลคงนำการบังคับใช้ข้อกฎหมาย ให้มีการจับกุม ฝากขัง เพื่อเพิ่มความยุ่งยากในชีวิตให้แก่ผู้มาชุมนุม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะที่ผ่านมาเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ต่อให้ไม่มีแกนนำ ไม่มีใครถือไมค์ปราศรัย การชุมนุมก็ยังคงดำเนินต่อไปได้
      ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ตัวแทนกลุ่มนิสิตนักศึกษาและภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน โดย น.ส.ศุกรียา วรรณายุวัฒน์, น.ส.หนึ่งฤทัย กิจการศุภฤกษ์ กับพวก เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับพวกเป็นจำเลย เพื่อเรียกค่าเสียหายจากเหตุละเมิดเสรีภาพในการชุมนุมและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยไม่ ชอบด้วยกฎหมาย สืบเนื่องจากช่วงกลางเดือน ต.ค.2563 ที่  พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและยกเลิกในเวลาต่อมา ซึ่งระหว่างนั้นมีผู้ได้รับความเสียหายและรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมได้ โดยเรียกค่าเสียหายรวม 3,500,000 บาท
    ภายหลังยื่นฟ้องคดี ศาลแพ่งได้ไต่สวนโจทก์ทั้ง 7 ในช่วงบ่าย เรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ต่อมาศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล พร้อมรับคำฟ้องไว้นัดชี้สองสถานวันที่ 17 ก.พ.2564 เวลา 09.00 น.
การ์ดขัดแย้งจาบจ้วงสถาบัน
     ที่ สน.พหลโยธิน นายพีระวุฒิ กุลอมรกานต์ อายุ  49 ปี บิดานายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักเรียนอาชีวะมีนบุรีโปลีเทคนิค ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นฯ พร้อมนายธนเดช ศรีสงคราม อายุ 35 ปี หัวหน้ากลุ่มอาชีวะมีนบุรี พานายภาสพงศ์มามอบตัวกับ พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.2 และตำรวจ สน.พหลโยธิน หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเข้าใส่นายประชากร ศักดิ์ศรีเท้า อายุ 20 ปี อดีตนัก เรียนเทคนิคปทุมธานีจนบาดเจ็บ ภายหลังการประกาศยุติการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา
    นายพีระวุฒิกล่าวว่า ตกใจมากเมื่อทราบข่าวทางโซเชียลฯ ว่าลูกชายไปยิงการ์ดในม็อบ หลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลเสร็จก็เลยพาลูกมามอบตัวกับตำรวจ ยอมรับว่าไม่กังวล ขอให้ว่าตามหลักฐานและกฎหมาย ผิดก็คือผิด แมนๆ แบบลูกผู้ชาย ส่วนเรื่องการยิงตนตอบไม่ได้ เพราะลูกชายยังมีอาการมึนงงที่ศีรษะอยู่ ทั้งนี้ทราบจากลูกชายว่าเป็นสมาชิกกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย
    นายธนเดชกล่าวยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นระหว่างบุคคล ไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน เรื่องม็อบหรือการเมือง หรือการสร้างสถานการณ์ทั้งสิ้น แต่ขอให้ตำรวจได้ทำงานก่อนจึงจะมีความชัดเจนว่าเรื่องราวเป็นมายังไง อีกทั้งยังเหลือผู้ก่อเหตุอีกหลายคนที่ยังหลบหนี ยืนยันด้วยว่าพวกตนไม่ได้เป็นสายข่าวให้กับกลุ่มใด
    ด้านนายภาสพงศ์กล่าวว่า ตนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุเกิดจากตนมีปัญหาส่วนตัวกับคนเจ็บ เพราะถูกฝ่ายคู่กรณีมาโพสต์เฟซบุ๊กแขวะเกี่ยวกับความเห็นต่างเรื่องการจาบจ้วงสถาบันที่พวกตนไม่เอาด้วย และมีกลุ่มรุ่นพี่ตนไปปราศรัยที่ จ.ชัยนาท โดยพูดถึงกลุ่มฟันเฟืองประชาธิปไตย วันเกิดเหตุพวกตนมาที่รัชโยธินเพื่อเป็นการ์ดดูแลมวลชน แต่ไม่ได้สวมปลอกแขนเพราะเข้ามาในฐานะประชาชน ยืนยันไม่ได้มีใครจ้างพวกตนมา เพราะขนาดเจ็บตัวก็ยังต้องออกเงินรักษาเอง
    พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนทราบชื่อและสามารถระบุตัวชายมือขว้างระเบิดได้แล้ว และเตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับ
    วันเดียวกัน ภาคีเครือข่ายปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า กรณีที่มีการทะเลาะกันในระหว่างการชุมนุมไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับกลุ่มนักศึกษาอาชีวะที่เข้าร่วมกับภาคีฯ แต่อย่างใด ขอให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการ ไม่เช่นนั้นถ้าเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มที่เห็นต่าง อาจมีแนวโน้มที่จะก่อความรุนแรงได้ทุกเมื่อ ฝากถึงนักเรียน นิสิต นักศึกษาว่า อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของขบวนการทำลายชาตินี้ ผู้ปกครองควรพิจารณาอย่าให้บุตรหลานของท่านตกเป็นเครื่องมือ     
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมซ้อมต้านรัฐประหาร? บริเวณห้าแยกลาดพร้าวในวันที่ 27 พ.ย.นี้ เป็นห่วงว่าจะเกิดเหตุทำร้ายกันอีกหรือไม่ ว่า "ก็ลองไปถามเขาดู มาถามอะไรผม" เมื่อถามว่า?การชุมนุมใช้ชื่อว่าต่อต้านรัฐประหาร เป็นการปลุกกระแสอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนว่า “แล้วมีรัฐประหารหรือเปล่า” ก่อนที่จะเดินเข้าห้องประชุมทันที
สร้างกระแสรัฐประหาร
    น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟชบุ๊กว่า หลอกกันได้ทุกวัน เมื่อวานหลอกให้ไปทวงคืนทรัพย์สิน แต่พอไปถึงกลายเป็นไปตีกันยิงกัน ปาระเบิดกัน กลายเป็นเรื่อง จะไปทวงหรือจะไปปล้นธนาคารของสถาบัน เพราะมีอาวุธพร้อม  วันนี้หลอกไปซ้อมรับมือรัฐประหาร แต่พอไปถึงแล้วน่าจะเป็นการ ซ้อมไปติดคุก วันนี้ใครปราศรัยเรื่องรัฐประหาร ขอท้าลูบหน้ากันไหม อย่าดีแต่พูดเหมือนธนาธร
    นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าการประหารจะเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ เนื่องจากการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนมีมากขึ้น จะมีแรงต่อต้านในทุกด้าน สุ่มเสี่ยงที่จะตกเป็นกบฏต่อแผ่นดินสูงมาก หากเกิดขึ้นจริงก็พร้อมที่จะร่วมมือและต่อต้านการรัฐประหารจนถึงที่สุด
     นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวถึงการชุมนุมซ้อมต้านรัฐประหารว่า ไม่เป็นความจริง ผบ.ทบ.ก็ยืนยันแล้วว่าโอกาสเกิดขึ้นเป็นศูนย์ และขณะนี้ก็ยังไม่มีเงื่อนไขในการเกิดรัฐประหารด้วย จึงมองว่าสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามกันอยู่ พยายามสร้างกระแสขึ้นเอง เพื่อจุดชนวนให้คนลุกขึ้นมาชุมนุม และทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดว่าจะเกิดความรุนแรงถึงขั้นรัฐประหาร สิ่งที่ผู้ชุมนุมควรทำคือการกลับเข้าสู่เนื้อหาข้อเรียกร้อง และควรหยุดละเมิดสถาบัน และคงไม่มีการประกาศกฎอัยการศึก แต่น่าจะมีการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญจะต้องมีการดำเนินคดีเอาผิดตามมาตรา 112 กับแกนนำให้เร็วที่สุด หากปล่อยให้เนิ่นนานก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความไม่พอใจ ส่งผลกระทบอาจทำให้เหตุการณ์บานปลายขึ้นได้
    เวลา 16.00 น. ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมเพื่อซ้อมต้านรัฐประหาร โดยมีการ์ดคณะราษฎรเริ่มเข้าประจำจุดเป็นชุดแรก พยายามทยอยปิดการจราจรขาเข้าถนนพหลโยธินตัดกับถนนลาดพร้าว เหลือการจราจรเพียง 1 เลน ส่งผลให้การจราจรเริ่มติดขัด โดยมีพ่อค้าแม่ค้า (CIA) เริ่มจับจองพื้นที่จำหน่ายสินค้าเช่นกัน
     นายปกรณ์ พรชีวากุล หรือเสี่ยบุ๊ง ผู้สนับสนุนกลุ่มราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีที่มีดรามาเรื่องเงินบริจาคให้กับผู้ชุมนุม และต่อมามีการนำเลขที่บัญชีของตนและของทราย (อินทิรา เจริญปุระ) ไปเผยแพร่ โดยที่ตนก็ไม่ทราบมาก่อน ปรากฏว่ามีแนวร่วมผู้ชุมนุมจำนวนมากโอนเงินเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยของตนนั้นมีเข้ามาประมาณกว่าแสนบาท ส่วนของทรายนั้นประมาณกว่า 3 แสนบาทภายในไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ขอร้องว่าอย่าเพิ่งโอน เพราะเรายังสามารถบริหารจัดการเงินได้อยู่ ยังไม่ได้ต้องการเงินเพิ่มเติม ไว้จะใช้จริงๆ แล้วตนจึงจะมาบอก
    สำหรับกรณีการ์ดอาชีวะที่เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องการช่วยเหลือ และต่อมามีการขออภัยกันนั้น นายปกรณ์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะในช่วงแรกมีการเข้าใจผิดกัน ซึ่งทำให้ภาพของตนและทรายดูแย่ว่าไม่มีการซัพพอร์ตผู้ชุมนุมดีเท่าที่ควร ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่ ตนฝากขอบคุณหัวหน้าการ์ดที่เข้าใจ แม้ยังมีน้องๆอาชีวะบางคนไม่ได้ให้ความร่วมมือในช่วงแรก เพราะเราเองก็ยอมรับว่าเข้าไม่ถึงความเป็นอาชีวะจริงๆ แต่ตนก็ยังซัพพอร์ตการชุมนุมทุกอย่างเหมือนเดิม จนถึงวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะลดระดับการซัพพอร์ตลงและช่วยเท่าที่จำเป็น
     เวลา 17.00 น. บรรยากาศม็อบที่ห้าแยกลาดพร้าว ผู้ชุมนุมเดินทางทยอยเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีบางส่วนช่วยกันสูบลมยางให้เป็ดยางสีเหลือง ตุ๊กตายางรูปเอเลียน พิซซ่ายาง และดาบยาง อย่างไรก็ตาม สำหรับการจราจรถนนหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวมุ่งหน้าสี่แยกรัชโยธินได้ปิดลงอย่างเรียบร้อยแล้ว ส่วนถนนฝั่งตรงข้ามมุ่งหน้าห้าแยกให้เลี้ยวซ้ายผ่านหน้าห้างยูเนี่ยนมอลล์เท่านั้น
3 นิ้วซ้อมต้านรัฐประหาร
    นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า ตนเองถือเป็นหนึ่งในราษฎรที่เข้าร่วมชุมนุมตามกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญ แม้ที่ผ่านมาไม่ว่าใครจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ให้เกิดรุนแรง แต่กลุ่มมวลชนก็ยังยืนหยัดชุมนุมอย่างสันติ อหิงสา สำหรับการชุมนุมในวันนี้กลัวว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมจะคอยดูแลกัน และไม่ให้เกิดเหตุปะทะระหว่างกัน ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีกิจกรรมขบวนแรลลี่ก๊าบๆ ที่จะมีการนัดหลายจุดในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อเคลื่อนขบวนไปที่แยกแคราย เพื่อกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก
    ช่วงหนึ่งของการปราศรัย แกนนำผู้ชุมนุมได้โจมตีการรัฐประหารอย่างดุเดือดว่า มีเฉพาะในประเทศล้าหลัง มันจะคืบคลานเข้ามาในช่วงที่เราเผลอ ซึ่งทำลายการพัฒนาประเทศให้เจริญ การรัฐประหารครั้งเดียวที่ยอมรับได้คือการอภิวัฒน์สยาม 2475 เพื่อให้ได้ประชาธิปไตย นอกจากนั้นเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกแล้ว ไม่ยอมให้มีการละเมิดสิทธิของพวกเราอีก แต่หากมีการรัฐประหารอีก จะออกมาต่อต้านทุกรูปแบบ
    ต่อมาเวลาประมาณ 18.35 น. เวทีกลุ่มราษฎรที่ห้าแยกลาดพร้าวได้เริ่มทำกิจการซ้อมต่อต้านการรัฐประหาร โดยนำแพเป็ดเหลือง เอเลียน พิซซ่าสูบลม ฯลฯ ลำเลียงจากแถวหลังเข้ามากองที่ด้านหน้าเวที โดยมีวงโยธวาทิตใส่มาสคอตการ์ตูนบรรเลงเพลงมหาฤกษ์มหาชัย
    แกนนำบนเวทีที่เรียกตัวเองว่า “ฟ้า” ปราศรัยว่า การปฏิวัติรัฐประหารเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ ทหารไม่รู้จักหน้าที่ตัวเอง แทนที่ปกป้องประเทศอยู่ที่ชายแดน แต่กลับมาทำรัฐประหาร ทั้งที่การเปลี่ยนแปลงควรอยู่ที่รัฐสภา ไม่ใช่ทหาร
    จากนั้นแกนนำได้ขอให้ผู้ชุมนุมปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะต่อต้านการกระทำรัฐประหาร ไม่ว่าโดยใคร ในทุกรูปแบบ และไม่ยินยอมให้มีการฉีก รธน.โดยเผด็จการอีกต่อไป
    ทั้งนี้ เป็ดและเอเลียนเป่าลมสีเหลือง ทางผู้ชุมนุมเปรียบเป็นทหารที่จะมารัฐประหาร ซึ่งต้องซ้อมต่อต้าน โดยช่วงหนึ่งผู้ชุมนุมได้ชู 3 นิ้วพร้อมตะโกนขับไล่ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะกล่าวปฏิญาณว่าจะไม่ให้มีการรัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญอีก
    สำหรับการรักษาความปลอดภัยของกลุ่มการ์ด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยที่บริเวณด้านหน้าเมเจอร์รัชโยธินเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. ภาคีการ์ดเพื่อประชาชนที่มีอยู่ 10 กลุ่ม ได้มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน อาทิ ทีมการ์ดมวลชน ดูแลฝั่งเอ็มอาร์ทีพหลโยธิน,  ทีมการ์ดราษฎร ดูแลฝั่งสะพานควาย, ทีมการ์ดรบพิเศษ และทีมราษฎรฝั่งธน ดูแลฝั่งวิภาวดีดินแดง ส่วนการ์ดปลดแอกย่อย ดูแลฝั่งลาดพร้าว โดยผู้ทำหน้าที่การ์ดจะไม่ให้ใส่เสื้อช็อปที่เป็นเครื่องแต่งกายของเด็กอาชีวะ โดยให้เสื้อสีดำติดปลอกแขนชื่อกลุ่มชัดเจน และมีการใส่ผ้าบัฟปิดบังหน้าตา บางกลุ่มที่อยู่แนวรั้วเหล็กกั้นก็ใส่เสื้อเกราะอ่อน โดยส่วนใหญ่มีวิทยุสื่อสารเพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานด้วย
    นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าทีมการ์ดเสื้อแดงยอมรับว่า เด็กอาชีวะหลายคนอยากเข้ามาเป็นการ์ด เพราะอาจจะเท่ แต่หน้าที่หลักคือรักษาความปลอดภัย จึงต้องสังเกตและตรวจตราสิ่งผิดสังเกตหรือสิ่งผิดปกติ ต้องระมัดระวังเรื่องการแทรกตัวเข้ามาในการชุมนุมเพื่อสร้างสถานการณ์ด้วย
ในเวลา 19.37 น. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร ปราศรัยบนเวทีว่า วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะการรัฐประหารครั้งต่อไป ครั้งที่ 14 จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะจะมีประชาชนออกมาต่อต้าน ซึ่งการนัดชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว เพราะเมื่อมีรัฐประหาร พวกเขามักเคลื่อนยุทโธปกรณ์โดยใช้ถนนสายเหล่านี้ แต่ถ้าจะมารัฐประหารอีก บอกได้เลยว่าจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เพราะจะขอให้พี่น้องประชาชนนำรถมาจอดขวาง หรือที่เรียกว่าคาร์ม็อบ ออกมาให้มากที่สุดที่ห้าแยกลาดพร้าว พวกเขาจะได้ไม่สามารถนำยุทโธปกรณ์ออกมาได้ พี่น้องมีตู้ มีเตียง ก็ให้โยนลงมาที่ถนน เพื่อไม่ให้พวกเขาขับยุทโธปกรณ์ได้ และหากมีรัฐประหาร ขอให้ผูกโบขาว ถ้าพวกมันแกะออกก็ให้ผูกใหม่ รวมทั้งพวกเราไม่ทำตามคำสั่งใดๆ ของกบฏที่ฉีกรัฐธรรมนูญ พี่น้องไม่ต้องทำตาม ถ้ามันควบคุมเราไม่ได้ภายใน 3 วัน พวกมันจะกลายเป็นกบฏทันที
    “หลายคนถามว่าเราไปถึงไหนแล้ว ขอตอบว่าเราสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง เพราะทำให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิเสรีภาพในโรงเรียน และวิพากษ์วิจารณ์สถาบันอย่างสาธารณะได้”.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"