ซัดนักการเมืองเลวยุเด็ก ศธ.แย้มสิ้นธค.มีทางออก


เพิ่มเพื่อน    

 

สภาเดือด! ส.ส.พปชร.ตั้งกระทู้ถามปมนักเรียนเลว ซัดมีนักการเมืองเลวอยู่เบื้องหลัง ยุยงปลุกปั่นล้างสมองให้ชังชาติส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง ส.ส.ก้าวไกลร้อนตัว โต้กลับนักการเมืองเลวมาจากการซื้อเสียง-กติกาเลวจากการรัฐประหาร “ณัฏฐพล” ระบุสิ้น ธ.ค.มีทางออกเรื่องแต่งชุดไปรเวท แต่ไม่พอใจคนทั้งหมด จ่อเอาผิดเว็บไซต์นักเรียนเลวแพร่ข้อมูลเท็จ
    ที่รัฐสภา เวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ตั้งกระทู้ถามสดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรณีกลุ่มนักเรียนเลวกดดันให้ยกเลิกการแต่งชุดนักเรียนว่า ถ้าให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาเรียนได้ จะเกิดการแข่งขันกันด้านการแต่งกาย ต้องมีชุดไปรเวทเป็นสิบชุด เพิ่มค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง อยากถาม ศธ.จะคงชุดนักเรียนไว้หรือไม่ รวมถึงปัญหาคุกคามทางเพศในโรงเรียนจะแก้ไขอย่างไร
    ด้านนายณัฏฐพลชี้แจงว่า ทาง ศธ.ตั้งคณะกรรมการรับฟังปัญหาข้อเรียกร้องต่างๆ ของกลุ่มนักเรียน ทั้งเรื่องการแต่งกาย ทรงผม ความปลอดภัยสถานศึกษา กฎระเบียบล้าหลังในโรงเรียน โดยมีนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นประธาน เรื่องการแต่งชุดไปรเวทนั้น ถ้าสถานศึกษาต่างๆ จะทดลองให้แต่งสัปดาห์หรือเดือนละครั้งทำได้ทันที อาจมีผู้บริหารเพียงไม่กี่แห่งเริ่มทำ แต่การแต่งชุดไปรเวทต้องดูความเหมาะสม เช่น สายเดี่ยว เกาะอก กระโปรงสั้น แขนกุดเห็นรอยสักทำได้หรือไม่ ต้องวางรากฐานให้ดีก่อน จะรีบตัดสินใจเพราะมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งมากดดันไม่ได้
    "วันนี้มีนักเรียน ม.ต้นถึง ม.ปลายทั่วประเทศ 2.5 ล้านคน เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. มีนักเรียนแต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียน 638 คน พูดแบบนี้ไม่ได้ท้าทายให้แต่งไปรเวทมากันเยอะๆ แต่หวังว่าอนาคตจะหาทางออกเหมาะสมร่วมกันได้ เชื่อว่าไม่เกินสิ้นเดือน ธ.ค.จะมีแนวทางออกที่เหมาะสมออกมา แต่ไม่ว่ากฎจะออกมาเป็นอย่างไร คงไม่พอใจ 100% ทั่วประเทศแน่นอน" นายณัฏฐพลกล่าว
    จากนั้นนายชัยวุฒิได้ตั้งคำถามต่อว่า เชื่อว่านักเรียนเลวมีนักการเมืองเลวอยู่เบื้องหลัง กระทรวงศึกษาธิการจะไปตรวจสอบหรือไม่ มีหลายพรรคการเมืองไปทำกิจกรรมในโรงเรียน แต่มีอยู่พรรคหนึ่งใช้นักเรียนเป็นเครื่องมือ อย่ามาดัดจริตกัน มีพรรคการเมืองเข้าไปยุยงปลุกปั่น ทำกันเป็นเครือข่าย ส่ง ส.ส.เข้าไปและใช้โซเชียลฯ ล้างสมองเด็ก พอถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรคพูดทันที ถ้าไม่ให้ต่อสู้ในสภาจะไปต่อสู้ในถนน หลังถูกยุบพรรคมีคนออกมาเต็มถนน ทั้งม็อบราษฎรและนักเรียนเลว ล้วนมาจากนักการเมืองที่ไม่ใช่ต้องการล้มรัฐบาล แต่ต้องการล้มมากกว่านั้น ที่ทุกคนทราบกันดี
    "การปล่อยให้นักการเมืองเลวไปชักใยนักเรียนเลว ส่งผลกระทบต่อบ้านเมือง เด็กถูกล้างสมองให้ชังชาติ ทราบว่ามีคนให้เงินทุนไปจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวในโรงเรียน ทำให้เด็กเข้าใจผิด จะสกัดกั้นขบวนการนักการเมืองเลวที่ไปชักใยนักเรียนเลวอย่างไร" นายชัยวุฒิกล่าว
    ทั้งนี้ ระหว่างที่นายชัยวุฒิตั้งกระทู้ถามสดนั้น มี ส.ส.พรรคก้าวไกลคอยประท้วงอยู่ตลอดว่าใช้ถ้อยคำใส่ร้ายป้ายสีโดยปราศจากหลักฐาน
    ขณะที่นายณัฏฐพลชี้แจงว่า เรื่องการต่อต้านชุดนักเรียน ต้องมีคนคิดให้ คนคิดใจร้ายมาก ทำให้เด็กๆ ประจันหน้ากับผู้บริหารสถานศึกษา ไม่รู้จะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้เพราะมีการให้ข้อมูลบิดเบือนแก่นักเรียน จึงต้องเข้มงวดผู้ที่จะเข้าไปในโรงเรียน แม้จะสกัดไม่ได้หมด แต่จะพยายามเต็มที่
    หลังจากเสร็จสิ้นการชี้แจงกระทู้ถามสดเสร็จเรียบร้อย นายชวนได้ให้นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงในสิ่งที่ถูกพาดพิง โดยนายธีรัจชัยกล่าวว่า สิ่งที่นายชัยวุฒิพูดเป็นการใส่ร้าย ปราศจากหลักฐาน แม้จะไม่ระบุชื่อว่าเป็นพรรคใด แต่ก็สื่อว่าพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักเรียน การมองว่าคนคิดต่างคือคนชังชาติ ไม่รักสถาบัน หรือเป็นการคิดแบบคนรุ่นเก่า แต่เด็กยุคใหม่คิดอีกแบบหนึ่ง
    "ยุคนี้โซเชียลฯ หาความรู้ได้ง่าย นักเรียนอ่านข้อเท็จจริงที่ไม่เคยอยู่ในกลุ่มสาระวิชาที่กระทรวงศึกษาธิการยัดเยียดให้เรียน แต่เอาไปใช้อะไรไม่ได้ นักการเมืองเลวคือนักการเมืองซื้อเสียง ส.ส.ขายตัว นักการเมืองเลวมาจากกติกาเลว จากการรัฐประหาร แล้วให้ส.ว.เข้ามาโหวตนายกฯ นี่คือนักการเมืองเลว" นายธีรัจชัยกล่าว
    วันเดียวกัน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. ให้สัมภาษณ์  กรณีนักเรียนเลวเปิดเว็บไซต์แจ้งข้อมูลครูและโรงเรียนไม่ให้เด็กแต่งชุดไปรเวทว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจจะเป็นข้อมูลจริงหรือเป็นข้อมูลเท็จหรือไม่ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมในสถานการณ์ที่มีการเผชิญหน้าระหว่างครูและนักเรียน ซึ่งครูที่ได้รับผลกระทบจะต้องรู้สึกอะไรบางอย่างหากชื่อถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่กลุ่มนักเรียนนำมาเผยแพร่นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ดังนั้นตนมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะไม่เช่นนั้นในอนาคตอาจมีใครก็ไม่รู้นำข้อมูลเด็กมาเผยแพร่ได้ และอาจกลายเป็นข้อผูกพันที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นการป้องกัน ตนจึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของ ศธ.และประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กำลังพิจารณาอยู่ว่าข้อมูลการเผยแพร่รายชื่อครูและโรงเรียนที่ลงโทษเด็กผ่านเว็บไซต์ผิดในกระบวนการทางการกฎหมายอย่างไรบ้าง
     “ที่ผ่านมา ศธ.ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทุกด้าน และเปิดรับฟังข้อมูลทุกเรื่องร้องเรียนของเด็ก ขณะที่ ศธ.เองก็มีศูนย์คุ้มครองช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา (ศคพ.) อยู่แล้ว แต่ทำไมเด็กถึงกลับเลือกไปลงข้อมูลผ่านโซเชียลฯ ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนไม่ควรเกินขอบเขต และต้องคำนึงถึงคนปฏิบัติงานจริงด้วย เพราะขณะนี้เรื่องเครื่องแบบนักเรียน ศธ.อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบอยู่ ดังนั้นหากการปรับแก้ระเบียบเครื่องแบบนักเรียนเสร็จสิ้นแล้ว และเสียงประชามติส่วนใหญ่ออกมาว่าอย่างไร ก็ต้องว่าไปตามนั้น ทุกคนต้องยอมรับให้ได้ ทุกวันนี้โรงเรียนหลายแห่งก็มีแต่งชุดไปรเวทในลักษณะชุดพื้นเมืองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นฉันทามติจากชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษาและโรงเรียนร่วมกันพิจารณา” รมว.ศธ.กล่าว
     ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ในสังคมประชาธิปไตยเราสามารถแสดงออกถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่การดำเนินการต่างๆ จะต้องดำเนินการภายใต้กติกา ซึ่งในส่วนของการแต่งเครื่องแบบนักเรียน เรามีกฎระเบียบกลางที่ทุกคนยึดถือปฏิบัติใช้ร่วมกันอยู่ และเมื่อมีประเด็นในส่วนของการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็ต้องมีบทลงโทษ โดยจะต้องดำเนินการภายในระเบียบ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนของ ศธ. ที่จะกำหนดเรื่องลงโทษ 4 ข้อ ได้แก่ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนประพฤติ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้นจะมีการดำเนินการเกินนี้ไม่ได้
     ทั้งนี้ ในส่วนที่มีการเผยแพร่ข้อความว่าบางโรงเรียนมีการเตรียมใบลาออกให้นักเรียนที่แต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียนนั้น อาจจะเป็นการพูดโดยมีข้อวิตกกังวล หรือเป็นการคาดคะเน เพราะความจริงเรื่องนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้น และวิธีการลงโทษดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นไปตามระเบียบด้วย เชื่อว่าครูทุกคนรักและปรารถนาดีกับเด็กทุกคน แต่เมื่อมีการทำผิดกติกาก็ต้องว่ากันด้วยเหตุและผล.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"