3นิ้วปลุกม็อบสู้คดี112


เพิ่มเพื่อน    

 

แกนนำม็อบมีเสียว! "เพนกวิน-รุ้ง" ปลุกสามนิ้วตรึงหน้า สภ.เมืองนนท์อังคารนี้ หวังกดดันตำรวจหลังถูกเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 อ้างได้รับแจ้งจะนำตัวไปยื่นศาลขอฝากขัง ปูดแกนนำ "กลุ่มกระบี่ไม่ทน" ผวาโทษหนักเผ่นหนีไปอยู่ฝรั่งเศส เปิดชื่อเต็งร่วมวง กก.สมานฉันท์ แรมโบ้อีสานก็มา แต่ ส.ว.เชื่อส่อเสียเวลา
     มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำม็อบสามนิ้วคณะราษฎร 2563 ที่ช่วงหลังมีการนัดชุมนุมกันน้อยลง พบว่าเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่ สน.บางโพ นายเอกชัย หงส์กังวาน  นักกิจกรรมการเมือง ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกในความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุมและไม่แจ้งการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเป็นพยาน
    นายเอกชัยกล่าวว่า ได้รับหมายเรียกแจ้งว่าเป็นผู้ร่วมจัดการชุมนุมที่รัฐสภา ทั้งที่แค่ไปยื่นหนังสือให้นางอมรัตน์  แต่เดินทางกลับไม่ได้เพราะมีการชุมนุมปิดถนน จึงเดินออกมาพร้อม ส.ส.ในช่วงเย็น กลับถูกหมายเรียกด้วย จึงต้องการชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าไม่ได้ไปร่วมการชุมนุม  และจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
    ขณะที่แกนนำม็อบคนอื่นๆ อย่างนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล  หรือมายด์ และ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่มีการนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในความผิดตาม ม.112 กรณีการชุมนุมปราศรัยที่หน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย ซึ่งมีเนื้อหาพาดพิงถึงสถาบันเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางโพ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากทนายความผ่านโทรศัพท์ว่า  ขอเลื่อนวันนัดรายงานตัวออกไปก่อนและจะกำหนดวันเข้าพบพนักงานสอบสวนใหม่อีกครั้ง
     ด้านนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร 2563 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้มีทั้งข่าวที่ดีและไม่สู้ดีเท่าไหร่ ข่าวดีคือที่ศาลจังหวัดธัญบุรีวันนี้  อัยการไม่มายื่นฟ้องผมให้ทันภายในกำหนดระยะเวลา จึงเป็นผลให้ผมไม่ต้องไปรายงานตัวต่อศาลและไม่ต้องกังวลเรื่องจะถูกขังจากคดีเวทีลานพญานาควันที่ 10 สิงหาคม  อีกข่าวไม่สู้ดีคือ วันพรุ่งนี้ (8 ธันวาคม) เวลา 10.00 น. ผม รุ้ง พี่ไมค์ และพี่ไบรท์เมืองนนท์จะต้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ซึ่งตำรวจได้โทรมาแจ้งกับทนายผมล่วงหน้าว่าจะนำตัวพวกผมไปขอให้ศาลฝากขัง ซึ่งอาจทำให้พวกผมต้องเสียอิสรภาพอยู่ในเรือนจำ ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการใช้กำลังกับเรา จึงขอแรงทุกคนมาเป็นสักขีพยานความอยุติธรรมที่อาจเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (8 ธันวาคม) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป เพราะผมเชื่อว่าตำรวจยังมีสามัญสำนึกที่จะไม่ทำเรื่องชั่วช้าต่อหน้าประชาชน"
    ต่อมานายพริษฐ์ได้โพสต์หมายเรียกที่ออกโดย สภ.เมืองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ข้อหาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่านางแน่งน้อย อัศวกิตติกร  อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งจังหวัดพิษณุโลก พรรครวมพลังประชาชาติไทย แจ้งความมาตรา 112 กับตน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก
ปลุกม็อบไป สภ.เมืองนนท์
    เช่นเดียวกับ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ขอระดมพลทุกคนนะคะ ในวันพรุ่งนี้ 8  ธันวาคม เวลา 10.00 น. รุ้ง เพนกวิน ไมค์ และพี่ไบรท์  เมืองนนท์ จะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาที่แจ้งเพิ่มเติม  (ม.112) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับทนายของพวกเราล่วงหน้าว่าทาง สภ.จะนำตัวเราไปศาลเพื่อขอฝากขังอีกแล้ว จึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยมาเป็นหูเป็นตา มาช่วยเราสังเกตการณ์การสอบสวนในวันพรุ่งนี้ โดยมีความหวังว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรมกับเราและไม่นำตัวเราไปขอฝากขัง ดังที่ สน.ชนะสงครามได้ปฏิบัติอย่างยุติธรรมกับพวกเรา"
     ส่วนทวิตเตอร์แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมโพสต์ข้อความระบุว่า "รุ้ง ปนัสยา ถูกแจ้ง ม.112 โดยนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย"
    จากนั้นเวลา 18.30 น. เพจเฟซบุ๊ก สภ.เมืองนนทบุรี  โดย พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ได้โพสต์ข้อความว่า "เรียนพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ตามที่ปรากฏจากสื่อสารออนไลน์ เพจเฟซบุ๊กของคุณเพนกวิน  พริษฐ์ ชิวารักษ์ ที่ได้ลงข้อความ แจ้งว่าในวันที่ 8 ธ.ค.นี้  เวลาประมาณ 10.00 น. เพนกวิน รุ้ง และไมค์ จะมารับทราบข้อกล่าวหา ตามมาตรา 112 เพิ่มเติม ที่ สภ.เมืองนนทบุรี  นั้น ขอเรียนว่า การแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งสามคนเพิ่มเติมนั้น เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว พนักงานสอบสวนจะไม่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามและไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามไปฝากขังที่ศาล โดยจะปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนกลับไป  และจะนัดหมายผู้ต้องหาทั้งสามมาพบอีกครั้งเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น สภ.เมืองนนทบุรี จึงขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงมายังพี่น้องประชาชนเพื่อโปรดทราบต่อไป"
    มีรายงานด้วยว่า จากกรณีที่นายขจิต ผลอินทร์ ตัวแทนชาวบ้านในนามคนรักสถาบันจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายมะโน เครือแก้ว กำนันตำบลกระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่  จ.กระบี่ ได้เข้าแจ้งความเอาผิดนายสิงหา ทองเกิด หนึ่งในแกนนำกลุ่มกระบี่ไม่ทน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยแต่แฝงไปด้วยการจาบจ้วงสถาบัน จากการนำรูปภาพที่ไม่เหมาะสมของในหลวงและพระราชินีมาโพสต์ลงบนโซเชียล
    เรื่องนี้นายขจิตเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายสิงหามาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่นายสิงหาได้ให้ญาติมาขอเลื่อน  และมาทราบอีกทีว่านายสิงหาได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าอยู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบ้านแม่ของนายสิงหา จึงเชื่อว่านายสิงหาได้หนีไปแล้ว นอกจากนี้ได้ตรวจสอบบนเฟซบุ๊กของนายสิงหา ยังพบมีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและดูหมิ่นสถาบันอีกหลายข้อความ
    สำหรับความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การเมือง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงเรื่องนี้หลังพรรคฝ่ายค้านแสดงท่าทีไม่ส่งบุคคลเข้าร่วมในคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ยังคงเดินหน้าตั้งคณะกรรมการต่อไป เพราะเคยบอกไว้แล้วว่ากรณีที่บางฝ่ายไม่เข้าร่วมก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป แล้วค่อยดึงฝ่ายที่ยังไม่เข้าร่วมพิจารณาเข้าร่วมอีกครั้ง ทั้งนี้ยังหวังให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม การตั้งคณะกรรมการ 21 คนและจัดสัดส่วนตัวแทนแต่ละฝ่ายนี้ไม่มีการลงมติใดในสภา ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล หลังมีการทักท้วงเรื่องสัดส่วนของคณะกรรมการ แต่เป็นการระดมความเห็นของผู้รู้ในแต่ละฝ่ายในฝ่ายการเมือง ซึ่งในเบื้องต้นมีอยู่เท่าไหร่ก็ดำเนินภารกิจต่อไป จะไม่กดดันให้ฝ่ายค้านเข้าร่วม แต่เห็นว่าหากมีความพร้อมเมื่อไหร่ก็สามารถมาเข้าร่วมได้ หากไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ประธานรัฐสภาส่งหนังสือแจ้งไปยังฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 7 กลุ่มให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการสมานฉันท์ จำนวน 21 คน ตามโครงสร้างที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอ ปรากฏว่าพรรคภูมิใจไทยส่งชื่อนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในนาม ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แต่ล่าสุดได้นำกลับไปรวมกับกับโควตาตัวแทนรัฐบาลเพื่อเกลี่ยให้พรรคใหญ่ในรัฐบาล  ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะส่งนายสรอรรถจากพรรคภูมิใจไทย นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ จากพรรคพลังประชารัฐ  นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนอีกคนคาดว่าจะเป็นนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์  หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
    ขณะที่ตัวแทนจาก ส.ว. 2 คนอยู่ระหว่างการหารือกัน  โดยมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส่วนอีก 1 คนให้ประธาน/รองประธานวิปวุฒิเลือกจาก พล.อ.ธีรเดช มีเพียร, นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ, นายสังศิต พิริยะรังสรรค์, นายเสรี สุวรรณภานนท์, นายกล้านรงค์ จันทิก,  นายสมชาย แสวงการ โดยก่อนหน้านี้เสนอชื่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ส.ว. แต่ถูกติงว่าเคยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้า คสช. จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับการยอมรับ
     สำหรับตัวแทนฝ่ายค้าน กลุ่มผู้ชุมนุม 2 คนและตัวแทนจากกลุ่มผู้มีความเห็นเป็นอย่างอื่น 2 คนนั้น ได้รับคำยืนยันจากผู้เกี่ยวข้องว่าจะไม่ส่ง โดยให้เหตุผลว่าข้อเรียกร้องที่ผ่านมาไม่เคยได้รับการตอบสนอง ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คนต้องรอการประชุม โดย 3 คนมาจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย 1 คน ซึ่งจะประชุมในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จากที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ 1 คน จะประชุม 24 ธ.ค. และจากที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ได้แจ้งว่าอยู่ระหว่างการกำลังดำเนินการ ส่วน 4 คนที่มาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์ด้านปรองดองสมานฉันท์ ต้องรอกรรมการที่เลือกมาแล้วเสนอชื่อและให้ความเห็นชอบ โดยต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม  ส.ว.เห็นว่าหากฝ่ายค้านและผู้เห็นต่างไม่ส่งคนเข้าร่วมในกรรมการสมานฉันท์ก็เท่ากับตั้งฟรี เพราะจะมีข้อเสนอเพียงฝ่ายเดียว โดยนายสมชาย แสวงการ ที่ปรึกษาวิปวุฒิสภา กล่าวว่า หากฝ่ายค้านและผู้เห็นต่างไม่เข้าร่วม มีแต่ฝ่ายเดียวไปพูดกันอาจจะไม่ได้ข้อยุติ
วัฒนาแจงเหตุทิ้ง พท.
     ด้านความเคลื่อนไหวทางการเมืองในส่วนของพรรคเพื่อไทย หลังคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอดีตแกนนำพรรค เช่น นายโภคิน พลกุล, นายวัฒนา เมืองสุข ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในพรรค พบว่าเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. คุณหญิงสุดารัตน์ได้เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นครั้งแรก โดยได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล ผู้สมัครนายก อบจ.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่าไปช่วยหาเสียงในนามส่วนตัว
    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงรายละเอียดเหตุผลที่ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. แต่ปรากฏว่าไม่มีการโพสต์แต่อย่างใด มีเพียงนายวัฒนา เมืองสุข ที่โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงเรื่องการลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเพียงคนเดียว
     ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่พอใจที่คุณหญิงสุดารัตน์ไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยหาเสียงในพื้นที่ เพราะมองว่าเป็นการไปโดยแกนนำพรรคไม่ทราบมาก่อน เหมือนกับเป็นการผิดคิว จนทำให้แกนนำพรรคติดต่อไปยังผู้สมัครนายก อบจ.ของเพื่อไทยว่า ห้ามติดต่อให้คุณหญิงสุดารัตน์ไปช่วยหาเสียงในพื้นที่อีกเด็ดขาด
     นายวัฒนา เมืองสุข แสดงท่าทีเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่า "ที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าการลาออกมาจากความขัดแย้งนั้น ยอมรับว่าความขัดแย้งในพรรคมีอยู่จริง แต่เป็นความขัดแย้งในเชิงความคิดและวิธีการนำพรรคไปสู่เป้าหมายทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน แต่ไม่ใช่ความขัดแย้งจากการแย่งอำนาจบริหาร ส่วนที่หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าลาออกมาตั้งพรรคสาขาเหมือนไทยรักษาชาติ ขอให้ความรู้เป็นวิทยาทานว่า ขณะนี้รัฐสภาเห็นชอบให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้รูปแบบการเลือกตั้งเดิมต้องจบลง จึงไม่มีเหตุผลที่จะไร้เดียงสาขนาดลาออกมาตั้งพรรคเพื่อแตกแบงก์ย่อยรองรับรัฐธรรมนูญที่กำลังจะสิ้นผล รวมทั้งไม่ได้ลาออกมาเพื่อจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"