'วจนานุกรม' ว่าด้วยคำว่า 'ดูด'


เพิ่มเพื่อน    

      อืมมมมม......

      ฝนฟ้าเดี๋ยวนี้ก็หลายใจเนอะ!

      อยู่โซน "งามวงศ์วาน" เมื่อวาน (๖ พ.ค.๖๑) ทั้งฝน-ทั้งลม กระหน่ำแต่เที่ยง

      บ่าย ๔ ก็ยังไม่หนำใจ

      รอฟ้าสะเด็ดน้ำไม่ไหว จึงหนี "คลองรอระบาย" ขึ้นทางด่วน ถึงแยกตัว Y ตรง รพ.พระมงกุฎฯ

      อะไรกัน....?

      "ในเมือง" ฟ้าใสกิ๊ก ฝนซักเม็ดก็ไม่มี ตรงข้ามกับ "ชายขอบเมือง" ด้านเหนือ เหลือที่จะเอ่ย!

      เปิดวิทยุฟังข่าวแบบเกรงใจฟ้าที่ส่งสัญญาณแปล๊บๆ ข่าวหนึ่งบอก

      รัฐบาลกับแกนนำชุมนุมขอคืนพื้นที่ "ป่าแหว่ง" เชิงดอยสุเทพ ได้ข้อสรุป "แนวทางสร้างสรรค์" ลงตัวแล้ว

      ก็...สาธุ

      ขณะฟัง ใจก็น้อมไปนมัสการ "องค์ครูบาศรีวิชัย" และยกมือไหว้ เทพไท้อารักษ์ดอย ด้วยระลึกพระคุณล้ำ

      สิ่งดี-สิ่งงามทั้งหลาย.....

      จงเกิด-จงมี แก่พี่น้องชาวเชียงใหม่ และบนความเป็นประเทศไทย-คนไทยร่วมกันเถิด

      อีกข่าว......

      "สวนดุสิตโพล" เผยผลสำรวจความคิดเห็นชาวบ้าน ในประเด็น "ดูด ส.ส."

      ๕๐.๙๔% บอกว่า

      การดูด หรือการที่ ส.ส.ย้ายพรรค เป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย!

      ฟังแล้ว ทึ่งแฮะ!

      ทึ่งในแง่ การเมืองในระบบเลือกตั้ง "สอนชาวบ้าน" ด้วยบทเรียนซ้ำซาก มาถึงจุดบรรลุ

      "ปริมาณ" คือตัวชี้วัด ความเป็น "ประชาธิปไตย" ที่ยึดถือกันอยู่แล้ว

      ตรงนี้ อยากให้ทุกฝ่ายสังเกต

      ด้วย ๕๐.๙๔% นั้น เมื่อการเลือกตั้งที่จะเกิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามาถึง

      ผลที่ออกมา จะ "พลิกฟ้า-พลิกดิน"

      ที่หมายมั่นปั้นมือ "ส่งหมา-ส่งคน" ลง เมื่อพะยี่ตัวเองเป็นเครื่องหมาย "โกงมาแบ่งกัน" แล้ว ต้องได้ นั้น

      ทั้งคน-ทั้งหมา คราวนี้แหละ.......

      จะยกพรรค "เสียทั้งหมา-ทั้งคน"

      ผู้สมัครที่ไม่มั่นใจ แต่เนื้อตัวไม่ลาย หนังไม่หนา หน้าไม่ด้าน ซ้ำไม่แน่ใจ ว่าลงแข่งขันแล้ว จะได้เป็น ส.ส.เข้าสภาหรือไม่?

      ก็จะพาเหรดเป็น ส.ส.หน้าใหม่เข้ามากันพรึ่บพรั่บ!

      และถ้าไปศึกษารัฐธรรมนูญ "หมวดสภาผู้แทนราษฎร" ดูให้ดี ยิ่งจะเห็น

      ในระบบ "จัดสรรปันส่วนผสม" ตามรัฐธรรมนูญนี้ ส.ส.จากเลือกตั้ง ทั้งหมดมี ๓๕๐ ที่นั่ง

      ปกติ พรรคไหน เลือกตั้งแล้ว ได้ ส.ส.มาก จะได้หารแบ่ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มากเป็นเงาตามไปด้วย

      แต่เลือกตั้งที่จะถึงนี้......

      ตรงกันข้าม พรรคได้ ส.ส.ระบบเลือกตั้งมากเท่าไหร่ ตัวหารแบ่ง "ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์" ในจำนวน ๑๕๐  ที่นั่ง

      ยิ่งได้ "น้อยลง" เท่านั้น หรือถึงขั้น "ไม่ได้เลย"!

      แล้วใครจะได้ไปล่ะ?

      ก็พรรคเล็ก-พรรคน้อย หรือพรรคที่ได้ ส.ส.ตามเกณฑ์สัดส่วนนั่นแหละ

      จะได้ส่วน "เฉลี่ยแบ่ง" ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไปตามเกณฑ์กำหนด

      ที่พรรคเดียวหรือสองพรรคตั้งรัฐบาล นั้น เลิกคิด-เลิกคุยไปได้เลย

      ไม่มีหรอก เลือกตั้งแล้ว จะมีพรรคไหนได้ ส.ส. "พรรคเดียว" ถล่มทลาย อย่างที่เคยตัวกัน

      ต่อให้ "พรรครัฐบาล" ด้วย!

      ไอ้ที่หมายมั่นจะได้ยกแก๊งเข้าไปคิดบัญชีแค้น นั่นก็แค่บำบัดใคร่ทางปาก ตามประสา "โม้แม้วตาย"!

      ที่ประชาชนส่วนใหญ่ "ตามผลสำรวจ" บอก การดูด ส.ส.เป็นเรื่องปกติของการเมืองไทย นั้น

      ก็ชัดเจน ในความคิด-ความเข้าใจชาวบ้าน ต่อการมองการเมือง "เรื่องเลือกตั้ง" โดยแยกแยะได้ลงตัว "ตามขั้นตอน"

      พูดง่ายๆ ประชาชน "ผู้เลือก ส.ส." เขาพัฒนาความคิด-ความเข้าใจ มาถึงจุด

      ก้าวข้ามคำว่า "ดูด" ไปแล้ว

      แต่คนที่เสนอตัวให้ชาวบ้านเลือก และพวกที่ชินสันดานดูด ด้วยตัวเองก็เข้ามาในพรรคนั้นๆ ด้วยถูกเขาดูดเข้ามาแต่ก่อนๆ

      ยังเหมือน "ลูกหมา-ลูกแมว" เพิ่งคลอด........

      ด้วยตาที่ยังไม่เปิด ใช้สัญชาตญาณ แทนสำนึกใคร่ครวญ

      ดุนหาเต้า เพื่อดูดน้ำนมเลี้ยงชีวิต ชนิดแยกแยะไม่ออก ไหนเต้า-ไหนไม่ใช่!

      คือ การเลือกตั้ง ก็เหมือนการแข่งขันทั่วไป ก่อนถึงฤดูกาลแข่งขัน ถือเป็นช่วงดุลยพินิจ "ตามสิทธิ"

      ที่นักกีฬาคนไหน ซึ่งเท่ากับผู้สมัคร ส.ส.คนไหน พอใจ ตกลงกัน

      ว่าพอใจ จะไปสังกัดทีมไหน-พรรคไหน ก็เคลื่อนย้ายกันไป

      "เป็นเรื่องปกติ" ที่เข้าใจได้

      แต่หลังจากนั้น เข้าสังกัดกันเรียบร้อยแล้ว แข่งขันกันแล้ว ใครได้เข้า-ไม่ได้เข้าสภา รู้กันแล้ว

      จากนั้น พรรคไหนที่ได้เป็น "แกนจัดตั้งรัฐบาล" จะไปชวนพรรคไหนมาร่วมเป็นรัฐบาล

      นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ตามวิถีรัฐสภา

      แต่การทำแบบให้ "ยุบพรรค" มารวม ทำนอง "กูจะเสนอเงื่อนไขที่มึงไม่กล้าปฏิเสธ"

      ต้อง "ยุบพรรค" ต้อน ส.ส.ทั้งหมดมาเพิ่มปริมาณในคอกตัวเองให้เป็น "เสียงข้างมาก" เบ็ดเสร็จ

      หรือติดสินบน-ขู่บังคับ ส.ส.พรรคอื่น ต้อง "กบฏพรรค" ตัวเองในการทำหน้าที่ เช่น ตอนโหวตเสียง

      กระทั่งดึง ส.ส.พรรคอื่น ให้ย้ายพรรคมาสังกัดพรรคของตนใน "ระหว่างพรรษา"

      แบบนี้แหละ "ผิดปกติ"

      เรียกว่า "ดูด"......

      เป็นการ "ซื้อตัว-ขายตัว" ขนานแท้ เป็นพฤติกรรมชั่วทางการเมือง เข้าข่ายคำว่า "ดูด" ทางการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์

      ซึ่งเคยปรากฏมาแล้ว.......

      โดยนักการเมืองโม้ "รวยแล้วไม่โกง"!

      ด้วยวัฒนธรรมการเมืองเลือกตั้งในระบบรัฐสภา คำว่า "ประชาธิปไตย" สร้างรูปแบบเป็นเส้นทางเดินไว้อย่างนี้

      ฉะนั้น .....

      คำว่า "ดูด" กับคำว่า "ย้ายสังกัด"

      มันมี "เส้นแบ่ง" ในการเรียกขานของมันอยู่ อย่างที่ว่ามา

      ชาวบ้าน "แยกแยะ" ตามขั้นตอนได้แล้ว

      แต่ "นักเลือกตั้ง" บางพวก-บางคน ยังเป็น "ลูกหมา-ลูกแมว" เพิ่งคลอดอยู่

      จึงใช้คำว่า "ดูด" เป็นวาทกรรมสับสนในขั้นตอน ด้วย "ตาที่ยังปิด" ทางการเมือง!

      และที่โวยวายกันขรม พรรครัฐบาล "ดูด ส.ส.พรรคอื่น" ไปตั้งรัฐบาลเพื่อ "สืบต่ออำนาจ" นั้น

      นักเลงจริงๆ เขาจะไม่โวย เพราะมันเสียฟอร์ม

      อีกอย่าง พูดกันเป็นรูปธรรม.........

      ไหนล่ะ "พรรครัฐบาล"?

      ยังเป็นแค่เงา แว็บไป-แว็บมา ยังไม่มีตัวตนให้จับต้อง แต่ตีโพย-ตีพายกันไปใหญ่โต

      เหมือนหมาหอนกลางดึก แค่ลมพัดใบไม้ไหว แล้วสรุปกันเองว่า "มันเห็นผี"

      แล้วใช้จินตนาการหลอกตัวเองนั้นพากัน "คลุมโปง" ด้วยกลัวผี ตัวสั่นด๊กๆ

      ช่างน่าขันนัก!

      ด้วยเงื่อนไข "สถานการณ์" และ "รูปแบบการเมือง" เวลานี้ ผมจะบอกให้

      ที่ว่า "ดูด" อย่าไปมองด้านว่า "คสช.ดูดไปตั้งรัฐบาล" สืบต่ออำนาจอย่างเดียว

      ไม่คิดอีกมุมหรือว่า.........

      ที่ คสช.ดูด เขาอาจไม่ได้ดูด ด้วยเป้าหมายเอาไปเป็นเสียงสนับสนุนรัฐบาลโดยตรง

      หากแต่ "ดูด" ให้อีกฝ่าย ง่อยเปลี้ย-เสียขา อ่อนแรง-อ่อนปริมาณ

      ทั้ง "บางคน-บางพวก" ต้องหลุดจากวงโคจรสภา

      ทั้งบางพรรค ถูกดูดจน "โลหิตจาง" ไม่มีแรงที่จะรวบรวมพลังตั้งรัฐบาลได้

      นั่นคือ "ดูด" ที่พูดอยู่ตอนนี้ เป็นไปได้ ทั้ง "ดูดเข้า" เพื่อ "ไปเป็นรัฐบาล" และ.....

      ทั้ง "ดูดออก" เพื่อ "ไม่ให้เป็นรัฐบาล"!?


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"