รัฐบาล-ส.ว.ห้ามแตะ‘ม.112’


เพิ่มเพื่อน    

 

"ปารีณา" บุกยูเอ็น ยื่นหนังสือแจงคนไทยสนับสนุน ม.112 ลั่นจะตามคัดค้านม็อบ 3 นิ้วทุกที่ "หมอวรงค์" สับแหลก พวกจ้องล้มล้างสถาบันเบื้องสูง เปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ กำลังดิ้นพล่าน "จุรินทร์" ยันประชาธิปัตย์ไม่เอาคอมมิวนิสต์ ลั่นต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศ "แรมโบ้อีสาน" อัด "ปิยบุตร" ไร้สำนึก ไล่เก็บเสื้อผ้าไปอยู่ประเทศอื่น
    ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)? ประจำประเทศไทย ถ.ราชดำเนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพฯ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมผู้สนับสนุนกว่า 30 คน เดินทางมาที่สำนักงานยูเอ็น เพื่อยื่นหนังสือต่อยูเอ็น ประเด็นสนับสนุนมาตรา 112 ในฐานะผู้แทนของราษฎร
    น.ส.ปารีณาได้ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติและนานาชาติ เพื่อกดดันให้รัฐบาลไทยยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยุติดำเนินคดีแกนนำราษฎรทุกคนนั้น ตนเองขอคัดค้าน โดยให้กลุ่มที่ผิดมาตรา 112 ได้รับการลงโทษตามรัฐธรรมนูญ  อีกทั้งได้พูดถึงนายพริษฐ์ ว่าดูน่ารัก แต่ความคิดต่ำทราม มาเรียกร้องให้ไม่ดำเนินคดีตัวเองทั้งๆ ที่กระทำผิดตาม รธน.มาตรา 112
    โดย น.ส.ปารีณาได้อ่านแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับมาตรา 112 และระบุว่าหลังจากนี้หากกลุ่มราษฎรยื่นหนังสือที่อื่นๆ อีก จะไปยื่นคัดค้านทุกที่ พร้อมสนับสนุนให้มีกฎหมายมาตรา 112 ก่อนเข้ายื่นหนังสือภายในยูเอ็น โดยใช้เวลา 10 นาที จากนั้น น.ส.ปารีณาและมวลชนได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
    ขณะที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี แสดงความเห็นว่า ช่วงนี้คนที่จ้องล้มล้างสถาบันเบื้องสูง พวกที่ต้องการเปลี่ยนประเทศไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ กำลังดิ้นกันอย่างมาก และกล่าวหาว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นสิ่งไม่ดี ทำลายสิทธิเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชน
       "ซึ่งคำเหล่านี้ไม่เป็นความจริง เพราะกฎหมายในการคุ้มครององค์พระประมุขมีทุกประเทศทั่วโลก คนที่คิดด้วยความสุจริตจะไม่มีปัญหา ยกเว้นพวกที่จ้องล้มล้าง ซึ่งเขากำลังดิ้น ช่วยกันแชร์คลิปเรื่องมาตรา 112 ให้ประชาชนเข้าใจ และตามคนเหล่านี้ให้ทันครับ" นพ.วรงค์ระบุ
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยเรื่องการที่จะไปเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยเป็นระบอบสาธารณรัฐ หรือคอมมิวนิสต์ เพราะเรามีจุดยืนชัดเจนว่าประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น คือสิ่งที่เป็นจุดยืนและเป็นสิ่งที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับชัดเจนต้องไม่ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น
         เมื่อถามถึงเรื่องการยกเลิกมาตรา 112 นั้น นายจุรินทร์ตอบว่า ทุกประเทศในโลกก็จะต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองประมุขของประเทศด้วยกันทั้งสิ้น โดยกฎหมายมาตรา 112 ก็เป็นมาตราหนึ่งสำหรับประเทศไทยที่คุ้มครองหรือปกป้องประมุขของประเทศไทยของเราเช่นเดียวกับทุกประเทศในโลก คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ
ไล่"ปิยบุตร"ไปอยู่ประเทศอื่น
         ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุมาตรา 112 อยู่ในหมวดความมั่นคงฯ เหมือนปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกนั้น โดยนายสุภรณ์มองว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศไม่อยากให้มีการยกเลิกมาตรา 112 นี้อย่างแน่นอน เพราะหากไม่มีการทำผิดกฎหมายก็ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องกลัวมาตรานี้ ก็จะมีคนที่อยากทำผิดมาตรานี้เช่นนายปิยบุตรและพรรคพวกเท่านั้น ถึงได้บังอาจกล้ามาเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 เพราะอยากจะกระทำความผิดโดยการหมิ่นประมาทดูหมิ่น จาบจ้วงก้าวล่วง แต่ไม่อยากถูกลงโทษ อย่างนี้เรียกว่าไม่ยอมรับกฎหมายบ้านเมือง จะเป็นนักกฎหมายเป็นครูอาจารย์ไปทำไม ไปเป็นคนเถื่อนอยู่ในป่าในถ้ำจะเหมาะสมกว่า
    "คนอย่างนายปิยบุตร คำก็พระมหากษัตริย์ สองคำก็พระมหากษัตริย์ พยายามที่จะคิดล้มล้างสถาบันตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแนวคิดตามต่างประเทศที่ไปรับความคิดชั่วๆ มา หรืออาจเป็นเพราะมีภรรยาเป็นชาวต่างชาติด้วยใครๆ ก็รู้ จึงได้รับการปลูกฝังความคิดฝังสมองมาจากภรรยาชาวต่างชาติด้วยหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่นายปิยบุตรพยายามคิดที่จะล้มล้างหรือปฏิรูปสถาบัน โดยเฉพาะการพูดให้ยกเลิกมาตรา 112 ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมคนไทยที่รักสถาบันและปกป้องสถาบันจะอ่านเกมของนายปิยบุตรไม่ออก พูดอะไรออกมาอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว"
    นายสุภรณ์มั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนที่รักสถาบัน ปกป้องสถาบัน ต้องการมากที่สุดขณะนี้คือ เอามาตรา 112 มาบังคับใช้ดำเนินคดีกับคนที่จาบจ้วง ก้าวล่วง และดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เข้าคุกให้หมด เพราะนับวันยิ่งจาบจ้วงก้าวล่วงมากขึ้นๆ ตลอด ซึ่งบุคคลธรรมดาทั่วไปยังมีกฎหมายดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาทเลย แต่นี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ยังกล้าคิดบังอาจก้าวล่วงจาบจ้วง สมองคงคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐอย่างนั้นใช่ไหม
     เจ้าของฉายาแรมโบ้อีสานกล่าวว่า อยากถามนายปิยบุตรว่า สถาบันทำอะไรให้นายปิยบุตรและครอบครัวแสงกนกกุลเดือดร้อน ถ้าคิดว่าอาศัยแผ่นดินไทยซุกหัวนอนอยู่ อาศัยข้าวแดงแกงร้อนกินบนแผ่นดินจนเติบได้ใหญ่โตมายังไม่มีความสุขกายสบายใจ ยังไม่มีจิตสำนึกในบุญคุณแผ่นดินไทย และยังคิดไม่ได้ว่าบุคคลท่านใดคือคนที่ปกป้องผืนแผ่นดินนี้ให้ครอบครัวนายปิยบุตรและครอบครัวมีที่ซุกหัวนอนตราบจนทุกวันนี้ ตนและประชาชนผู้รักสถาบัน ก็ขอขับไล่ให้นายปิยบุตรและครอบครัวออกนอกประเทศเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ประเทศอื่น ไปอยู่ที่ชอบๆ ในประเทศที่ครอบครัวนายปิยบุตรให้ความเคารพรักเทิดทูน ไม่ต้องอยู่ในประเทศไทยอีกต่อไป      
    "เชิญเลยครับ รีบไปให้พ้นๆ จากประเทศไทยได้เร็วๆ เท่าไรยิ่งดี อย่ามาทำตัวสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับคนไทยและประเทศไทยอีกเลย คนไทยทั้งแผ่นดินจะได้มีความสุขกันเสียที" นายสุภรณ์กล่าว
    ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายพรรค กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มราษฎรเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 พร้อมทั้งเปิดเว็บไซต์ให้ประชาชนลงชื่อด้วยนั้น ว่าส่วนตัวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม และอยากให้ประชาชนจับตา เพราะเป็นการไปยกเลิกกฎหมายที่ตัวเองกระทำความผิดแล้ว ตรงนี้ยิ่งกว่าการนิรโทษกรรม และยังเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ขัดอีกด้วย ดังนั้น ตรงนี้ถือว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะมายกเลิกมาตรา 112
เลิก ม.112 ไม่ได้เด็ดขาด
        นายไพบูลย์ถามว่า ในอดีตที่ผ่านๆ มา กฎหมายมาตรา 112 ก็มีมานานแล้ว และคนที่ไม่คิดจะทำความผิดก็ไม่ผิดมาตรา 112 กันอยู่แล้ว ไม่ใช่พอพวกตัวเองทำความผิดเข้าข่ายมาตรา 112 แล้วจะมาให้ยกเลิกมาตรา 112 แบบนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะอีกหน่อยถ้าไปทำผิดกฎหมายอะไรอีก ก็คงต้องออกมาขอให้ยกเลิกเพื่อตัวเองและพวกพ้องแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันใช้ไม่ได้
    นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ม็อบมีพฤติกรรมชัดเจนเรื่องจาบจ้วง ดูหมิ่น เหยียดหยาม อาฆาตมาดร้าย จึงชัดเจนอย่างยิ่งว่า จะยกเลิกมาตรา 112 ไม่ได้โดยเด็ดขาด ข้อเรียกร้องม็อบที่มีออกมาในช่วงนี้นั้น เพราะคุณไปกระทำผิด ดังนั้นต้องรับผิดชอบการกระทำ ไม่ใช่พอโดนคดีก็มาเรียกร้องเพื่อตัวเองแบบนี้ ก่อนที่จะกระทำต้องรู้แล้วว่าโทษของความผิดมีความร้ายแรง แต่คุณพูดว่ามันเลยความกลัวไปแล้ว ทั้งพูด ทั้งขีดเขียน ประกาศ โฆษณา แสดงความอาฆาตมาดร้ายไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าผิด
         ผู้สื่อข่าวถามว่า การยกเลิกหรือไม่ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ที่กลุ่มราษฎรเรียกร้อง จะมีผลต่อการเดินหน้าตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์หรือไม่ ส.ว.ผู้นี้ตอบว่า หลักของการสมานฉันท์ ไม่ได้แปลว่าใครทำผิดกฎหมายแล้วไปยกเลิกความผิด ถ้าอย่างนั้นคนไปฆ่าคนตาย ลักทรัพย์ ก็บอกว่ามาสมานฉันท์กันเถอะ อย่างนี้สังคมอยู่ไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกับการสร้างความสมานฉันท์
        "มีการมาชุมนุมหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พอถูกดำเนินคดี มาบอกว่าทำไมไปละเมิดสิทธิ์ สิ่งที่คุณทำก็ไม่ได้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้ผู้อื่นด้วย แต่เพื่อตัวเอง และออกมาจาบจ้วงดูหมิ่นใส่ร้ายอาฆาตมาดร้าย พอจะถูกดำเนินคดีมาบอกว่าทำไมไม่ล้างมลทิน อีกหน่อยคนทั้งประเทศจะทำอะไรก็ได้ พอทำแล้วถูกดำเนินคดี มาบอกที่หลังว่ายกเลิกและสมานฉันท์กันเถอะ ผมคิดว่าต้องแยกแยะ" นายเสรีกล่าว
    ส่วนนายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ในฐานะรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 กมธ.วิสามัญฯ ได้หารือกันมาตลอด กรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด กมธ.จะนำเรื่องไปหารือในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และจะเชิญสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยข่าวต่างๆ มาร่วมหารือต่อไป มาตรา 112 นั้น มีใช้กันทุกประเทศ อย่างประเทศอังกฤษก็มีใช้ มีโทษรุนแรงด้วย เพียงแต่ไม่ได้มีการนำมาใช้
    ส่วนการไปยื่นเรื่องต่อยูเอ็นให้ยกเลิกมาตรา 112 นั้น เชื่อว่าคงต้องการสร้างกระแสกดดันและสร้างความเด่นดัง แต่ยูเอ็นคงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่ใช่ยื่นมาแล้วจะเชื่อทันที หรือกรณีที่ ส.ว.สหรัฐอเมริกาออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษานั้น อาจเป็นเพราะได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน คิดแต่เรื่องเก่าๆ ของประเทศไทย ไม่ได้ดูปัญหาจากต้นเรื่องทั้งหมด เลยคิดว่ารัฐบาลไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ชุมนุม
    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า พวกที่ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวให้ยกเลิก ม.112 ล้วนแล้วแต่เป็นพวกที่กำลังจะถูกเข้าคุกเพราะ ม.112 พวกที่เคยถูกกล่าวหา ถูกฟ้องร้องเพราะ ม.112 และพวกที่เคยเข้าคุกเพราะ ม.112 ทั้งสิ้น บางคนไม่สำเหนียกในพระมหากรุณาธิคุณที่เคยพระราชทานอภัยโทษในกรณีนี้มาให้ ยังทำเป็นปากเก่ง แกว่งลิ้นบนเวทีให้คนเขาประณามว่าปากกล้าแต่ขาสั่นเสมอ บางคนเป็นพวกแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานก็มี ไม่ได้มีสารประโยชน์ใดๆ ให้กับสังคมไทยเลย
พวกเด็กเมื่อวานซืน
         เขาระบุอีกว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หากไม่ไปละเมิด ก็ไม่เห็นจะไปสร้างความทุกข์ร้อน เดือดร้อนให้กับใคร เพราะพระองค์ไม่อาจลงมาฟ้องร้องเอาผิดกับใครได้ หากถูกหมิ่น จาบจ้วงหรือถูกกล่าวร้าย ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายดังกล่าวไว้คอยปกป้องพระองค์ท่าน สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นอยู่คู่สังคมไทยมาตั้งแต่ก่อนสร้างชาติจวบจนปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะเทิดทูนกันของประชาชนส่วนใหญ่ มีแต่พวกจัญไร ไร้สำนึกในแผ่นดินเท่านั้น ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักบุญคุณที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีต่อสังคมไทย ถามหน่อยโคตรเหง้าเหล่าตระกูลของพวกที่ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวให้ยกเลิก ม.112 เคยทำความดีอะไรให้กับสังคมไทยบ้าง
        "พวกเด็กเมื่อวานซืนแถลงจี้ยกเลิก 112 ยุติดำเนินคดี-ล้างมลทิน แสดงว่ากำลังหาทางร่อนลงใช่ไหม ฮ่าๆๆ ไปฝันในคุกเถอะ" นายศรีสุวรรณกล่าว
    แต่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านการใช้มาตรา 112 เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่โดยใช้เหตุผลทางการเมืองมาประกอบการตัดสินใจ แล้วใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างอำนาจให้ตนเองในการปิดปากคนเห็นต่าง ทั้งที่มีกฎหมายมาตราอื่นๆ ที่จะใช้ดำเนินการได้แต่ก็กลับเลือกใช้มาตรานี้เป็นหลัก ตนจึงไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 112 ของเจ้าหน้าที่มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ถ้าไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้อีก สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่รัฐบาลเลือกนำมาตราดังกล่าวมาจัดการกับผู้ชุมนุม หากใครทำผิดอะไรก็ให้แจ้งข้อกล่าวหาอื่นตามกฎหมายที่มีอยู่จะดีกว่า ไม่เช่นนั้นการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ก็จะไม่จบสิ้น
    ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ต้องควบคุมบังคับใช้กฎหมาย ปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยมุมมองและทัศนคติที่เป็นธรรมต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร ที่ประกอบไปด้วยนักเรียนนักศึกษา เยาวชนอนาคตของชาติ และไม่มีทัศนคติอันเป็นลบต่อกลุ่มผู้ชุมนุม หรือกล่าวหาว่ามีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลัง การแสดงออกของกลุ่มคนรุ่นใหม่ สังเกตได้จากที่ผ่านมาเป็นการแสดงโดยพลังของนักศึกษาที่เป็นธรรมชาติ
    "ถ้าตั้งโจทย์ผิดคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง อาจบานปลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม"
    นายอนุสรณ์กล่าวว่า การดำเนินการที่ฝ่าฝืนกรอบกฎหมายก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามฐานความผิด อย่าใช้กฎหมายมาตราใดมาตราหนึ่งมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และต้องไม่สองมาตรฐาน ไม่ใช่คนสีเสื้อหนึ่งทำได้ อีกกลุ่มหนึ่งไม่สามารถทำได้ และต้องเข้าใจว่าเยาวชนเหล่านี้ต้องการนำเสนอเพื่อการพัฒนาให้ดีขึ้น และผู้เกี่ยวข้องควรเปิดพื้นที่ในการรับฟังบนพื้นฐานความสุจริต การส่งสัญญาณของนายกฯ ที่จะบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราทุกฉบับอย่างเข้มข้นนั้น นานาชาติไม่สบายใจและถูกตีความเป็นสัญญาณใช้ความรุนแรง ซึ่งท่าทีเหล่านี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศ และที่สำคัญเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ลืมว่าการชุมนุมเป็นสิทธิที่มีตามรัฐธรรมนูญ
    เมื่อถามถึงกรณีนายศรีสุวรรณเรียกร้องให้นำกฎหมายคอมฯ มาใช้ดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำสัญลักษณ์ค้อนเคียวมาปลุกสำนึกชนชั้นแรงงาน นายอนุสรณ์กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายศรีสุวรรณที่จะตั้งข้อสังเกตหรือร้องเรียนเรื่องใด เพราะนายศรีสุวรรณร้องทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่สังคมตั้งคำถามว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจ เคยกลัวขันแดง ปฏิทินของนายทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันนี้นายศรีสุวรรณกำลังจะหลอนรัฐบาลให้กลัวเครื่องหมายค้อนเคียว ซึ่งกลุ่มราษฎรเขาก็พยายามสื่อสารว่าไม่ใช่ปลุกระดมชนชั้นแรงงานมาต่อสู้ การดำเนินการดังกล่าวอาจเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือของนายศรีสุวรรณ ที่ร้องทุกเรื่อง และอาจเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาล หากบ้าจี้ดำเนินการตามที่นายศรีสุวรรณเสนอ ว่ากลัวกระทั่งสัญลักษณ์ในการชุมนุมในแต่ละเรื่องที่เขาเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด และนายศรีสุวรรณต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ที่ออกมาให้ความเห็นในครั้งนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร.
    

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"