เจ้าหนี้โหดบุกทวงเงินกู้สาวพีอาร์! ใช้บีบีกันทุบหน้า-บังคับกราบเท้า-เตะไม่ยั้ง


เพิ่มเพื่อน    

14 ธ.ค. 63 - เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น บันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายเป็นชาย เดินเข้ามาที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียมพร้อมกับหญิงสาวอีกคน ก่อนจะเข้าไปกระชากผมสาวพีอาร์ที่กำลังทำงานอยู่ขอบสนาม แล้วลากออกมาที่บริเวณลานจอดรถจากนั้นชายคนดังกล่าวได้หยิบอาวุธปืนสั้นสีดำ ทราบภายหลังว่าเป็นปืนบีบีกันออกมาทุบที่ใบหน้าและศีรษะของสาวพีอาร์รายดังกล่าวตลอดระยะทางที่ลากออกมา ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มาออกกำลังกายที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม 

ก่อนที่ชายดังกล่าวจะลากสาวพีอาร์มานั่งกับพื้นที่ลานจอดรถแล้วบังคับให้กราบเท้าพร้อมทั้งกระหน่ำทำร้ายร่างกายเอาปืนตบใบหน้าและศีรษะหลายครั้ง ก่อนจะเก็บปืนใส่กระเป๋าแล้วทั้งตบทั้งเตะเสยหน้าจนสาวพีอาร์หงายหลังร้องอ้อนวอนและยกมือไหว้ขอชีวิต แต่ชายดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำร้าย ส่วนหญิงที่มาด้วยกันก็ไม่ได้เข้าไปห้ามแต่อย่างใด ก่อนจะผ่านไปเกือบ 5 นาที มีชายสวมใส่ชุดกีฬาสีน้ำเงิน ทราบภายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเพื่อนๆ เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะแจ้งสายตรวจมาควบคุมตัวชายดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางสาว เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายจากเหตุการณ์ดังกล่าว บอกว่า ตนเองติดเงินกู้นอกระบบจำนวน 130,000 บาท ซึ่งกู้ยืมมาจากนายแพร ซึ่งก็คือชายที่อยู่ในคลิป โดยก่อนเกิดเหตุได้มีการพูดคุยกับว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่าย และกำลังทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ โดยยืนยันว่าจะจ่ายแน่นอนและไม่ได้คิดหลบหนีหรือปิดกั้นการติดต่อสื่อสาร ซึ่งก็สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งยังเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งที่อยู่ ที่ทำงานให้นายแพรทราบเพื่อให้มั่นใจว่าไม่คิดหนีแน่นอน 

"วันเกิดเหตุนายแพรได้ไปหาแม่ของตนเองที่บ้าน ก่อนจะเดินทางมาที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม เมื่อมาถึงนายแพรก็ดึงแขนขึ้นมาแล้วกระชากศีรษะลากออกมาตามวงจรปิด ซึ่งขณะที่ลากออกมาได้สักพักก็หยิบปืนออกมาซึ่งตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม จ่อมาที่ตนเองแล้วพูดว่า “กูยิงมึงตายดีไหมเนี่ย วันนี้กูไม่ได้มาเอาเงิน กูมาเอาชีวิตมึง” พอนายแพรพูดจบประโยคก็เอาด้ามปืนมาทุบที่ใบหน้าและศีรษะของตนเองอย่างแรงหลายครั้ง ก่อนจะลากตนเองมาถึงลานจอดรถหน้าทางเข้าสนามฟุตบอลพร้อมทั้งบังคับให้ตนเองกราบเท้า โดยบอกว่ามึงกราบเท้ากูสิ พร้อมทั้งเอาด้ามปืนตบหน้า เหยียบซ้ำ และเตะเสยหน้าจนตนเองหงายหลังและยังทำร้ายอย่างต่อเนื่องซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งคนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วยเพราะกลัวว่าจะเป็นปืนจริงอาจโดนลูกหลงไปด้วย ก่อนที่จะมีตำรวจที่มาเตะฟุตบอลเข้ามาช่วยเหลือเอาไว้" น.ส.เอ ระบุ

หลังจากมีตำรวจเข้ามาห้ามและช่วยเหลือ นายแพรบอกกับตำรวจว่าตนเองติดเงินหญิงที่มากับนายแพร แต่ในความเป็นจริงตนเองไม่เคยเห็นหน้าและไม่เคยรู้จักกับหญิงคนดังกล่าวมาก่อน และไม่ได้ติดเงินตามที่นายแพรอ้างกับตำรวจ แต่ติดเงินนายแพรคนเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยยืมเงินนายแพรมาแล้วหลายครั้งและหมุนเงินคืนให้ได้ตลอด แต่ตนเองเล่นแชร์แล้วแชร์ล้ม ลูกแชร์ที่เล่นด้วยแล้วเป็นหนี้ก็ไม่ยอมจ่ายทำให้ไม่มีเงินมาคืนนายแพร ที่ผ่านมาได้บอกนายแพรมาตลอดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และไม่เคยหลบหน้าหรือขาดการติดต่อสื่อสาร และพอตนเองเริ่มมีงานเริ่มตั้งตัวใหม่ ก็บอกนายแพรว่าทำงานอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ให้รอก่อนได้เงินจะรีบนำเงินไปคืนทันทีโดยต้นเดือน ธ.ค.ได้ให้ไปก่อน 5,000 บาท และสิ้นเดือนจะจ่ายให้อีก 10,000 บาท โดยนายแพรต้องการให้จ่ายใช้หนี้เดือนละ 15,000-20,000 บาท แต่นายแพรก็มาทำร้ายร่างกายก่อน และทำให้ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก เพราะเสียโฉม บาดเจ็บ บอบช้ำไปทั้งตัว

น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตนเองได้ไปให้ปากคำและแจ้งความดำเนินคดีกับนายแพร โดยยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเป็นคนละเรื่องกับที่ตนเองติดหนี้ ในเรื่องของหนี้สินที่ติดนายแพรอยู่ตนเองก็ยืนยันว่าจะหามาคืนให้และทำให้เห็นมาตลอดมาไม่ได้หนีหรือไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งที่อยู่ ที่ทำงานนายแพรจะทราบทั้งหมด แต่ในส่วนที่ตนเองถูกทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และตอนนี้เป็นห่วงครอบครัวโดยเฉพาะแม่ กลัวว่านายแพรจะมาทำร้ายคนในครอบครัวเหมือนที่ทำกับตัวเอง อีกทั้งนายแพรยังขู่ว่ารู้จักคนเยอะเป็นผู้มีอิทธิพล อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปนายแพรโดนดำเนินคดีแค่ข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท แล้วได้รับการปล่อยตัวไป 
ในส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น ทางตำรวจบอกว่าต้องรอผลตรวจจากแพทย์ประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นกลัวว่านายแพรจะมาทำร้ายคนในครอบครัวหรือตนเองอีก อยากให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงเพราะกลัวว่าคดีจะเงียบ ตอนนี้ก็คงต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงและไม่หนีไปไหน ส่วนอาการตอนนี้บอมช้ำบวมไปทั้งตัวโดยเฉพาะทางซีกซ้าย ศีรษะแตก 2 จุด ใบหน้าบวมช้ำ หลังช้ำ ใช้ชีวิตประจำวันยากลำบาก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"