จุฬาฯ เปิดโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย ระดมเงินบริจาคคนละ 500 บาท ร่วมสนับสนุนผลิตวัคซีนจากใบยาสูบ


เพิ่มเพื่อน    

14 ธ.ค.63- ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Chula QEnterprise มีการแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ "วัดชีนเพื่อคนไทย" สนับสนุนนักวิจัยไทยค้นคว้าวัคชีนโควิด-19  และแนะนำบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด ที่เป็นบริษัทวิจัยวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ทำจากใบยาสูบ และวิจัยโดยทีมวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะมีการลงนามความร่วมมืในการวิจัย พัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด -19 ในนาท"ทีมไทยแลนด์ " ระหว่างบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด  องค์การเภสัชกรรม(อภ.) และ บริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด 


โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่การกระทรวงสาธารสุข(สธ.)นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและประธาน เปิดงาน 


ศ.ดร.บัณฑิต กล่าวว่า วัตถุประสงค์การเปิดโครงการก็เพื่อเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันบริจาคเงินคนละ 500 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการวิจัยวัคซีนดังกล่าว ซึ่งทางโครงการตั้งเป้าระดมเงินให้ได้  500 ล้านบาท กำหนดจำนวนผู้บริจาคไว้ที่ 1 ล้านคน เท่านั้น โดยจะเริ่มการบริจาคได้ในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป 


ส่วนผู้ที่ร่วมบริจาค ผ่านทาง www.CUEnterprise.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น.เป็นต้นไป สำหรับผู้บริจาคในโครงการ จะมีการตอบแทนน้ำใจผู้บริจาคดังนี้ 
1. สิทธิส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยประเภทบุคคล เช่น สุขภาพ รถยนต์ อัคคีภัย ฯลฯ สำหรับกรมธรรม์ฉบับใหม่จากบริษัทประกันที่เข้าร่วมโครงการ เช่น บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยส่วนลด 12% - 23%**   
2.   ในกรณีผลิตวัคซีนสำเร็จและพร้อมให้บริการแก่บุคคลทั่วไป ผู้บริจาคจะมีสิทธิจองซื้อวัคซีนได้ก่อนบุคคลทั่วไป แต่จะได้สิทธิ “หลังจาก” การให้ การจำหน่าย หรือการใช้วัคซีนให้แก่บุคคลอื่นใด ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายหรือรัฐบาลกำหนด (หากมี
 
นายอนุทินกล่าวว่า ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ถือเป็นวิกฤติที่ส่งผลกระทบในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคงและความปลอดภัยด้านสุขภาพ ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่รัดกุมในระดับสูงสุด ทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สิ่งที่ดำเนินการควบคู่กันคือการเร่งจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพมาตรฐานมาฉีดให้กับคนไทย ขณะนี้ได้จองซื้อวัคซีนจาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ไว้แล้วจำนวน 26 ล้านโดส สำหรับคนไทยกลุ่มแรก  13 ล้านคน และยังได้วางแผนจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่น และให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในประเทศ โดยได้ผนึกกำลังเป็น “ทีมไทยแลนด์” ถือเป็นความหวัง ความภูมิใจ และเป็นขีดความสามารถใหม่ของประเทศไทยที่จะผลิตวัคซีนได้เองตั้งแต่ต้นน้ำ ลดการพึ่งพาต่างชาติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติ องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โครงการวัคซีนเพื่อคนไทยสำเร็จลุล่วง

"สธ. จะสนับสนุนโครงการวัคซีนจากใบยาสูบ ผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติ วงเงิน 150 ล้านบาท  แม้ว่าวัคซีนจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร แต่เราก็ได้ประสบการณ์ เทคโนโลยี   แต่ผมเชื่อว่าเราจะไม่ล้มเหลว ซึ่งในอนาคตเราจะมีพื้นฐานองค์ความรู้เทคโนโลยีวัคซีนของเราเอง  และจะต่อยอดไปสู่การผลิตวัคซีนและยาชนิดอื่นต่อไป "นายอนุทินกล่าว


ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุมิ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ใบยาโฟโตฟาร์ม จำกัด กล่าวว่า  การระดมเงิน 500 ล้านบาท ก็เพื่อนำไปก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีน  ซึ่งขั้นตอนการวิจัยระยะที่ 1และ2 จะเริ่มประมาณกลางปีหน้า และสิ้นสุดการทดลองระยะที่ 3 ราวสิ้นปี2564 ซึ่งจะเป็นการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครที่หลากหลายขึ้น และอาจจะเป็นการทดลองในต่างประเทศ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การะบาดโควิด -19 ในบ้านเราว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ ทางแคนาดา ก็กำลังทดลองด้วยเทคนิคใบยา เช่นเดียวกันโดยอยู่ในการทดลองระยะที่ 3  ถ้าการทดลองประสบความสำเร็จ ก็คาดว่าจะผลิตวัคซีนได้ปีละประมาณ 1 ล้านโด๊ส ส่วนราคาขายของวัคซีนจากใบยาสูบ จะอยู่ที่ประมาณ โด๊สละ 500 บาท ซึ่งจะต้องฉีดคนละ 2โด๊ส และมีขนาดโดีศละ 15--20 ไมโครกรัม 

 

"ถ้าเราสามารถผลิตได้มาก    ๆ ราคาวัคซีนก็จะถูกมากกว่านี้ แต่ของเราก็ถูกกว่าของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ที่มีราคาประมาณโด๊สละ 900-1,000บาท  จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยมาร่วมกันบริจาค คนละ 500 บาท ห้ามเกินมากกว่านี้ และเราจำกัดแค่ 1คน 1 สิทธิ์ และไม่เกิน  1 ล้านคน เพื่อให้วัคซีนนี้ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนไทยทุกคน" ผศ.ภญ.ดร.สุธีรากล่าว


  ด้านนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.อภ.  กล่าวว่า อภ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19   เพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอย่างเร็วที่สุด ครั้งนี้เป็นการผลิตวัคซีนโดยคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงาน โดยได้ร่วมมือจากบริษัทวิจัยในประเทศไทย คือ บริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม เป็นผู้ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา ผลิตวัคซีนตั้งต้น บริษัท คินเจน ไบโอเทค เป็นผู้ทำวัคซีนให้บริสุทธิ์ และอภ จะทำหน้าที่ตั้งตำรับและบรรจุวัคซีนสำเร็จรูป สำหรับการทดสอบทางคลินิกเฟส 1-2 ในมนุษย์


ทั้งนี้ อภ  พัฒนาและจัดหาวัคซีน 4 แนวทาง ได้แก่ 1) การวิจัยและพัฒนาจากต้นน้ำ ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากไข่ไก่ฟัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบความเป็นพิษในสัตว์ทดลอง และจะศึกษาประสิทธิภาพในมนุษย์ต่อไป 2) โครงการนำเข้าวัคซีนมาแบ่งบรรจุ โดยได้ร่วมมือกับบริษัท Sinopharm ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงนามความร่วมมือ และเตรียมความพร้อมการผลิตในระดับอุตสาหกรรม 3)ให้ทุนกับมหาวิทยาลัยในการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบป้องกันโรคโควิด 19 อาทิ วัคซีน Subunit จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  วัคซีน Virus-like particle จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 4)ร่วมมือกับบริษัทวิจัยในประเทศไทย ในการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด 
นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว.กล่าวว่า อยากเรียกโครงการนี้ว่าไม่ใช่วัคซีนเพื่อคนไทย แต่เป็นวัคซีนโดยคนไทย ซึ่งเป็นผลงานของคนไทยที่ยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าก่อนหน้านี้ การวัคซีนเองเรายังเป็นที่ชาดแคลน แต่การที่เรามีการผลิตวัคซีนเอง จะทำให้ประเทศไทยอยู่ใน World map Vaccine ของโลก ซึ่งจะทำให้เรามีความหวัง มีศิลปวิทยากร ที่พึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต 

ผู้สนใจร่วมบริจาคสนับสนุนวัคซีนเพื่อคนไทย ได้ดังนี้ 

1. แสกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนและรับสิทธิในการบริจาคที่ www.CUEnterprise.co.th ได้ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 9.00 น.
2. สามารถเลือกช่องทางการบริจาคได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ 
2.1 ใช้ Mobile Banking Application ของธนาคารใดก็ได้แสกน QR CODE เพื่อบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ เมื่อเสร็จสิ้นการทำรายการจะได้รับ Bill Payment เป็นหลักฐาน
2.2 ทำรายการที่หน้าเคาเตอร์ธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เพียงยื่นบัตรประชาชนและแจ้งว่าบริจาคให้โครงการ “วัคซีนเพื่อคนไทย” จะได้ Pay-in Slip เป็นหลักฐาน  
โดยรับบริจาคท่านละ 500 บาท จำนวน 1 ล้านสิทธิ (จำกัด 1 คนต่อ 1 สิทธิ)
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"