เชียร์ลุงตู่เทงบหมื่นล. เนวินขนคนเต็มสนามต้อนรับ ประยุทธ์ชูบุรีรัมย์สปอร์ตซิตี


เพิ่มเพื่อน    

     “ประยุทธ์” ประเดิมทัวร์ที่สุรินทร์ โปรยยาหอมทั่วรักทุกคน ย้ำเหมือนเนื้อเพลงคืนความสุขขอใช้เวลาอีกไม่นาน ส่วน “เนวิน” โชว์พาวเวอร์แทบจะปิดเมืองบุรีรัมย์รับ ขนประชาชนเกิน 3 หมื่นคนเต็มสนามตะโกนเชียร์ “ลุงตู่ๆ” โอ่เมืองนี้ไม่มีสี เชื่อได้รับงบประมาณไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านแน่ นายกฯ ฟิตบิดมอเตอร์ไซค์ YAMAHA สองรอบสนามแข่ง ก่อนฝากก๊วนภูมิใจไทยช่วยปฏิรูปประเทศ ส่วน “พี่ห้อย”  มอบหมวกกันน็อกเพื่อป้องกันสื่อและการเมือง “อนุทิน” ลั่นไม่มีดูดแน่เพราะติดคอตาย เด็กเพื่อไทยปูดจ่าย 2 พันต่อรถตู้ขนคน

    เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. ในเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางถึงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก  จ.บุรีรัมย์ เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่  3/2561 ในวันที่ 7-8 พ.ค. และติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 2 นำหัวหน้าส่วนราชการ  ทหารและตำรวจให้การต้อนรับ

      จากนั้นเวลา 09.30 น. คณะนายกฯ ได้เดินทางต่อไปที่ จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยการตรวจเยี่ยมที่นี่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ร้องเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทยร่วมกับตัวแทนชาวบ้านและคณะกรรมการพัฒนาสตรีกาบเชิงที่สวมชุดพื้นเมืองมาต้อนรับประมาณ 150 คน ซึ่งชาวบ้านบางส่วนได้นำกระดาษหรือมือถือที่มีเนื้อเพลงขึ้นมาอ่านและร้องตาม เนื่องจากยังจำเนื้อเพลงดังกล่าวไม่ได้ 

    โดยนายกฯ ได้สอบถามชาวบ้านว่าไม่รู้ใครแต่งเพลงนี้ ซึ่งเพลงของตนเองมี 6 เพลง ขอให้ร้องให้ได้เพราะเป็นเพลงของพวกเราทุกคน ที่เขียนขึ้นมาโดยทั้งหมดออกมาจากหัวใจ ไม่ได้ทำให้ทุกคนรัก  แต่ต้องการให้รักประเทศชาติ ทำเพื่อประเทศชาติ แต่ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน รัฐบาลทำอย่างเดียวไม่ได้  และใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้เช่นกัน 
“ผมไม่มุ่งหวังทำร้ายใครและไม่ได้ทำลายรายได้ของประชาชน แต่หลายอย่างจำเป็นต้องจัดระเบียบ  หลายคนจึงไม่รักเรา ยืนยันว่าเข้ามาไม่ได้ทำอะไรให้เสียหาย แต่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และถามว่าวันนี้ประชาชนมีความสุขหรือไม่ ผมดีใจที่ทุกคนมีความสุขและเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเอง” นายกฯ ประกาศ 

    พล.อ.ประยุทธ์ยังถามประชาชนด้วยว่ามีเรื่องร้องเรียนอะไรหรือไม่ หากเป็นเรื่องกฎหมายขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขหรือผู้ว่าฯ โดยตรง ซึ่งตลอด 4 ปีรัฐบาลรับฟังความเห็นประชาชนทุกเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่ต้องคำนึงถึงพื้นที่ป่าและกฎหมายด้วย
'บิ๊กตู่' โปรยยาหอม

    “วันนี้รัฐบาลมาเพื่อช่วยประชาชน ร่วมกันพัฒนาประเทศ และขอให้เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ใช้เวลาอีกไม่นานจะดีขึ้น เพื่อลูกหลานในอนาคต ซึ่งก่อนตายเราต้องทำให้ทุกอย่างดีขึ้นให้ได้ ผมมาด้วยหัวใจ ไม่ได้มาเพื่อให้ทุกคนรัก เพราะผมรักทุกคนอยู่แล้ว และไม่ได้มาจังหวัดนี้แล้วจังหวัดนี้จะต้องได้งบ 20,000 ล้าน เราจะต้องคิดถึงคนทั้ง 77 จังหวัด ต้องดูถึงความจำเป็นและการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปพร้อมกัน” นายกฯ กล่าว 

    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และคณะได้เดินไปเยี่ยมชมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทักทายเจ้าหน้าที่ประจำด่านของกัมพูชา โดยกล่าวว่าขอให้ช่วยกันดูแลให้ดี เพราะเรามีแผนขยายด่านชายแดนออกไป ถ้าสามารถเปิดได้ก็ขอให้เปิดอย่างถูกต้อง อย่าให้มีปัญหาในอนาคต และอวยพรเป็นภาษากัมพูชาว่า "ออกุนเจริญ" ซึ่งแปลว่าขอบคุณ ก่อนเดินกลับมาทักทายและทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมทำมือเป็นรูปหัวใจก่อนขึ้นรถไปยังบ้านท่าสว่างต่อไป

      ต่อมาเวลา 11.00 น. คณะนายกฯ เดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ โดยมีข้าราชการ ประชาชน และนักเรียนมารอให้การต้อนรับประมาณ  4,000 คน โดยนายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้นำช้างแฝดเพศผู้อายุ 8 ปี ชื่อทองคำกับทองแท่ง ซึ่งเป็นช้างแฝดคู่แรกของโลกมาต้อนรับ โดยช้างมอบกระเช้าดอกไม้ให้นายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้ให้กล้วยน้ำว้าและแตงกวาเป็นอาหาร ก่อนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านท่าสว่างและการจัดแสดงสินค้าโอทอป ทั้งนี้นายกฯ ได้ร่วมตีกลองพร้อมร่วมฟ้อนรำกับชาวบ้าน และยังได้ทดลองสีข้าวและตำข้าวด้วยมือ พร้อมลงชื่อและเขียนข้อความเป็นที่ระลึกลงบนผ้าไหมพื้นเมืองว่า "ด้วยรักและห่วงใย" และได้ชิมข้าวพันธุ์ต่างๆ ของ จ.สุรินทร์ด้วย

    จากนั้นนายกฯ ได้กล่าวกับชาวบ้าน พร้อมร่วมจัดรายการวิทยุสำนักงานพัฒนาภาค 5 ว่า วันนี้ร้อนนะ แต่ร้อนด้วยเสื้อผ้า แต่มาที่นี่แล้วอบอุ่นใจเพราะมาเจอพวกเรา รัฐบาลทำเพื่อเราทุกคน วันหน้าใครมาก็มาทำต่อ แต่เราจะเริ่มให้ดีที่สุด คิดถึงทุกคน ต้องส่งใจให้คนทั้ง 70 ล้านคน อย่างที่ จ.สุรินทร์มีคน 1.4 ล้านคน รัฐบาลต้องทำให้ทุกคนที่นี่มีรายได้ จะให้เอาเงินไปแจกคนละพันคงไม่ได้ ทุกคนต้องปรับตัวเองและนึกถึงอนาคตของลูกหลาน

      "วันนี้อยากให้คนเรียนรู้ค้าขายออนไลน์ ถ้าเรายังแข่งขันกับใครไม่ได้ ขายในประเทศผ่านออนไลน์ก่อน แล้วไปปลูกอะไรก็ต้องดูอะไรราคาว่าดีหรือไม่ หากปลูกมากเกินไปขายไม่ได้ก็ต้องแข่งกันเอง ต้องทำอะไรมีเหตุมีผล ถ้าจะให้รัฐบาลช่วยอย่างเดียวคงแก้ปัญหาไม่ได้ อย่าให้ใครมาบิดเบือน ต้องช่วยรัฐบาลอีกทาง สร้างความเข้มแข็ง อย่าให้ใครมาบอกให้เงิน เชื่อผมนะเพราะผมไม่ได้มาเพื่อการเมือง" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งมีประชาชนมาขอถ่ายรูปและนำของมามอบให้ อาทิ พระเครื่อง ผ้าขาวม้า ก่อนเดินชมตลาดผ้าไหม จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และคณะได้เข้าบ้านพักนายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลป์ของแผ่นดินประเภทเครื่องทอ (ผ้าไหมทอง) เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยนายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าฯ จ.สุรินทร์ ได้จัดอาหารพื้นบ้านต้อนรับที่ประกอบด้วย แกงผักหวานปลากรอบใส่ไข่มดแดง แกงจืดปลาร้าบอง ผักสด ไข่เจียวใส่ไข่มดแดง ไก่ย่างเพี้ยราม ลาบหมู ปลาเนื้ออ่อนทอด ตำไก่ใส่มะม่วง ผลไม้มีเมล่อน แตงโม มะม่วงมัน และไอศกรีมกะทิสดในลูกมะพร้าว 
'เสี่ยหนู' ยันไม่มีการเมือง

     ส่วนการรักษาความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแลอย่างเข้มงวด นอกจากนี้หากประชาชนที่ต้องการร้องเรียนปัญหาใดๆ เจ้าหน้ากรมการปกครองได้จัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมชั่วคราวไว้บริเวณทางเข้างาน ซึ่งอยู่คนละด้านกับจุดที่เฮลิคอปเตอร์นายกฯ ลงจอด

    ขณะที่เวลา 14.20 น. ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีประชาชนเดินทางมาต้อนรับคณะ พล.อ.ประยุทธ์ว่า น่าจะเกินความจุของสนามกว่า 3  หมื่นคน ซึ่งไม่ได้เป็นการเกณฑ์มา ต่างคนต่างมา ตามที่ได้รับการประชาสัมพันธ์ เพราะบุรีรัมย์ต้องไม่ธรรมดา เมื่อ ครม.เดินทางมาถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องให้การต้อนรับ และการที่เดินทางมาวันนี้ไม่มีเรื่องการเมือง แต่มาอำนวยความสะดวกในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่นี้ และยังไม่ได้พูดคุยหรือพบเจอใครทั้งสิ้นแม้แต่นายกฯ 

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้อาจมีเรื่องของการเมือง นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครเอาเรื่องการเมืองมาในสนามแห่งนี้ ใครเอามาก็สลบเพราะยังเร็วเกินไปที่จะคิดเรื่องการเมือง วันนี้เป็นเรื่องของประชาชน ซึ่งก็เดินทางมาดูเผื่อจะต้องหาเสียงหรือปราศรัยใหญ่แล้วมาจัดที่สนามแห่งนี้ก็ไม่เลว ถือว่ามาสังเกตการณ์ 

    เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่า ชาวบุรีรัมย์สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลแล้วต่อไปจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หรือไม่ นายอนุทินตอบว่าต้องถามประชาชนแต่ละคน และเมื่อถามย้ำว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าเร็วเกินไปที่จะพูดอะไร เพราะยังไม่รู้ว่าจะมี ส.ส.กี่คน และสมาชิกจะทนพลังดูดได้แค่ไหนก็ไม่รู้ และจะไม่มีวันพูด ไม่มีวันคิด ไม่มีวันทำอะไรโดยที่ยังไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าบ้าง ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อเห็นจำนวน ส.ส.อยู่ในมือ ต้องรอให้เลือกตั้งเรียบร้อยก่อน ไปตกลงในตอนนี้โดยที่เราไม่รู้เรื่องทำไม่ได้ ยืนยันว่าพรรคต้องขายนโยบาย ไม่ใช่ขายทิศทาง 

    เมื่อถามถึงกระแสข่าว คสช.ดูดสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวินให้ไปร่วมงานกับรัฐบาลเช่นเดียวกับนายสนธยา คุณปลื้ม นายอนุทินย้อนว่าใครดูด จะไปคิดอย่างนั้นไม่ได้ วันนี้เราต้อนรับ ครม.ในฐานะที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งพรรคเพิ่งมีอายุ 10 ปี เป็นหัวหน้าพรรคมา 5 ปี จะให้ใครมาดูดใครง่ายๆ ได้อย่างไร ใครดูดติดคอตายแน่นอน 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างสัมภาษณ์นายอนุทิน นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมได้เดินผ่านมาพอดี ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามความคืบหน้าการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายอุตตมได้ปฏิเสธทันทีว่า "ไม่รู้ๆ"
ทั้งนี้ก่อนที่คณะ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางมาถึงสนามช้าง อารีนา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ซักซ้อมกับชาวบุรีรัมย์กว่า 30,000 คนบนอัฒจันทร์ที่มาร่วมต้อนรับว่า พวกเราตากแดดมาชั่วชีวิตในการทำงาน แต่จะตากแดดต้อนรับลุงตู่ไม่ได้หรือ คนบุรีรัมย์ตากแดดไม่นานเพื่อให้กำลังใจลุงตู่ได้อยู่แล้ว เพราะการที่ ครม.จะมาประชุมที่บุรีรัมย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย 8-9 ปีมานี้เราเชียร์ฟุตบอลมาตลอด และได้แชมป์จนเบื่อ และวันนี้มาทำเพื่อจังหวัดอีกครั้ง
'เนวิน' โอ่บุรีรัมย์ไม่มีสี
นายเนวินยังได้ซักซ้อมการเปล่งเสียงของประชาชนบนอัฒจันทร์เพื่อต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยคำว่า “ลุงตู่ๆ” ตามจังหวะกลอง พร้อมบอกว่า “วันนี้บุรีรัมย์ได้ของบประมาณกับรัฐบาล โดยต้องได้ไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ถ้าลุงตู่มาให้เรียกชื่อลุงตู่สู้ๆ อย่าเสียงเบา ถ้าเสียงเบางบหายเลยนะ ทั้งสนามบิน  ถนน งบระบายน้ำ ให้คนไทยทั้งประเทศเห็นพลังของชาวบุรีรัมย์ ว่าเราไม่มีสีเหลืองหรือแดง แต่เราสามัคคีเพื่อประโยชน์ของคนบุรีรัมย์”
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องการเมือง นายเนวินปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่า วันนี้ไม่มีวาระเรื่องการเมือง มีแต่วาระประชาชน ไม่มีการเมือง ไม่ต้องถามอะไร 
จากนั้นเมื่อเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึง นายเนวินพร้อมด้วยนางกรุณา ชิดชอบ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์, นายอนุทิน และนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ และภาคส่วนราชการได้ให้การต้อนรับ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เดินรอบสนามโบกมือทักทายประชาชน ท่ามกลางเสียงตะโกน “ลุงตู่ๆ” ดังทั่วทั้งสนาม
จากนั้นนายกฯ ได้มอบเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินพื้นที่ป่าใน จ.บุรีรัมย์ให้ตัวแทนผู้นำชุมชน  ก่อนกล่าวกับประชาชน นายกฯ ได้แนะนำ ครม.ที่ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับแนะนำตัวนายเนวิน  โดยระบุว่าเมื่อตอนเป็นประธานสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด แข่งกับบุรีรัมย์ทีไรแพ้ทุกที ซึ่งยังจำรอยแค้นนี้ได้อยู่ แต่กีฬาก็คือกีฬา เมื่อสู้ไม่ได้ก็ต้องพยายามกันต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่ามาวันนี้รู้สึกตื่นเต้นและดีใจ โดยได้เห็นความเจริญของ จ.บุรีรัมย์เป็นไปในทิศทางที่ดี และยินดีที่ได้เห็นความรักของพวกเราชาวบุรีรัมย์ คนบุรีรัมย์ไม่มีการทะเลาะขัดแย้ง แบ่งสีเสื้อกัน เราต้องสร้างความเป็นหนึ่งเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ตลอดเวลาที่เป็นนายกฯ มา 4 ปี  ไม่เคยเห็นความขัดแย้งในบุรีรัมย์เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเองและคนทั้งประเทศต้องการ ขอให้รักษาเรื่องเหล่านี้ไว้ ร่วมมือกันทำทุกอย่าง บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งความรื่นรมย์ เมืองแห่งความสุข มีประวัติศาสตร์ยาวนานของอารยธรรมเขมรโบราณที่คนทั่วโลกมาเยี่ยมชม 
นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 8 พ.ค.จะมีการประชุม ครม.สัญจร มีเรื่องให้พิจารณากว่า 200 โครงการ ร่วมกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลจะอนุมัติในบางส่วนตามโครงการเร่งรัด วันนี้ไม่ได้มาเรื่องการเมืองอย่างที่หลายคนพูด เพราะรักทุกคนและต้องการทำให้ประเทศเข้มแข็ง จังหวัดบุรีรัมย์เองก็เป็นหนึ่งใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรที่จะทำให้บุรีรัมย์ไม่ใช่เมืองทางผ่าน คิดว่าการท่องเที่ยวจะมาช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะเมืองนี้มีคนมีชื่อเสียงทั้งนักมวย นักกีฬา และยังมีสนามฟุตบอลที่ทุกคนสามารถมาเยี่ยมได้ 
"วันนี้ก็มีสนามช้างและสนามอื่นๆ แล้วทำไมสนามเหล่านี้ถึงมาอยู่บุรีรัมย์หมดก็ไม่เข้าใจ จังหวัดอื่นต้องช่วยด้วยเพื่อให้วันหน้ามีสนามเสือ สิงห์ และอื่นๆ เพราะประเทศต้องเจริญเติบโตไปพร้อมกัน" นายกฯ กล่าว
ยกเป็น 'สปอร์ตซิตี'
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ราคาที่ดินบางพื้นที่ในบุรีรัมย์ขึ้นจากราคาแสนห้าเป็นล้านห้า เพราะมีกีฬาเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นเราต้องไปดูว่าจะสามารถพัฒนากีฬาอื่นๆ เช่น กีฬาทางน้ำ จักรยาน กีฬาเอ็กซ์ตรีม วิ่งมาราธอน ไตรกีฬาได้หรือไม่ เพื่อสร้างความแข็งแรงของจังหวัด อยากให้บุรีรัมย์เป็นเมืองกีฬาครบวงจรหรือสปอร์ตซิตี เพื่อต่อยอดเป็นเมืองแห่งสุขภาพ เราต้องช่วยกันทำความดีแบบไทยนิยม  หมายถึงคนไทยนิยมทำความดี โครงการไทยนิยมมีทีมขับเคลื่อน ไม่ใช่เอาเงินไปแจกใครอย่างที่กล่าวหากัน แต่เป็นโครงการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงนี้เป็นเวลาใกล้เลือกตั้งจึงถูกกล่าวหา
พล.อ.ประยุทธ์ย้ำว่า การทำงานจากนี้ต่อไปจะเป็นอะไรนั้นเป็นเรื่องของอนาคต ยืนยันว่าการมาวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองหรือต้องการให้ประชาชนมารัก เพราะเป็นเรื่องที่พูดยาก ใครจะไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แต่ขอให้ไม่เกลียดก็พอ ที่ผ่านมาถือว่าเข้ามาทำให้แผ่นดินของเรา ทำหน้าที่เพื่อชาติ ศาสน์  กษัตริย์ และประชาชน ซึ่งรัชกาลที่ 10 ถือว่าเป็นรัชกาลแห่งการปฏิรูป พระองค์มีรับสั่งให้สืบสาน รักษาต่อยอด สืบเนื่องจากรัชกาลที่ 9 ที่ทรงริเริ่มเรื่องต่างๆ มามากมาย ประชาชนต้องช่วยกัน จึงขอให้ประชาชนช่วยกันฟังเรื่องโครงการไทยนิยม และขอให้ทุกคนรักกันเพราะบ้านเมืองจะอยู่ได้เพราะคนไทยทั้งประเทศ คนอยู่ต่างประเทศปล่อยเขาไป 
จากนั้นเวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมนายเนวินเดินทางมายังสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล  เซอร์กิต เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 รายการ PTT Thailand Grand Prix โดยนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์และการแข่งขันของสนามต่างๆ พร้อมให้กำลังใจผู้สนับสนุนและเยาวชนผู้ที่เข้าร่วมแข่งขันและผู้ฝึกสอน ก่อนเปลี่ยนไปสวมชุดเซฟตีสำหรับการขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือชุดนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ และได้เลือกขับขี่รถ YAMAHA MT-09 Tracer ขนาด 900 CC รถแข่งแนวอเนกประสงค์ตัวแรง ประเภททัวริง ป้ายด้านหลังเขียนว่า GU 12 BURIRAM UNITED 1 ขณะที่นายเนวินขับขี่ Honda CB  1100 ทะเบียน 7 กฌ 6922 โดยขี่วน 2 รอบสนาม  

    จากนั้นนายเนวินนำหมวกกันน็อกลายไทยมอบให้นายกฯ พร้อมกล่าวว่า "ขอให้ท่านนายกฯ  ปลอดภัยจากสื่อและนักการเมือง สำหรับหมวกของตนเองไม่แข็งแรงเท่านี้ เพราะไม่ต้องไปยุ่งกับสื่อและนักการเมือง” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้นำหมวกกันน็อกมาใส่ พร้อมให้สื่อมวลชนถ่ายรูปก่อนที่จะทำท่าตั้งการ์ดป้องกัน และก่อนกลับนายกฯ ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบรรดานักแข่งทั้งสองทีม และรวมทั้งได้มอบลายเซ็นบนหมวกเพื่อเป็นที่ระลึกให้เจ้าหน้าที่สนามด้วย
มอบหมวกกันน็อก
ทั้งนี้ก่อนที่นายกฯ จะขึ้นรถยนต์เพื่อกลับไปยังที่พัก โดยมีนายเนวินและนายอนุทินมาส่งและพูดคุยอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะหันมากล่าวว่า “เป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพและช่วยกันปฏิรูปประเทศ” ซึ่งนายเนวินได้กล่าวว่าขอให้นายกฯ เดินทางกลับอย่างปลอดภัย
ในเวลา 19.20 น. ที่ถนนคนเดินเซราะกราว พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมถนนดังกล่าวซึ่งมีกิจกรรมการแสดงพื้นเมือง การออกร้านของกินของใช้ ทั้งนี้เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เดินชมเสร็จสิ้นก่อนจะขึ้นรถยนต์เดินทางกลับ มีประชาชนจำนวนมากมารุมล้อมขอถ่ายรูปและมอบสิ่งของให้ โดยตะโกนเรียกชื่อ "ลุงตู่ๆ" โดยมีบางคนตะโกนว่า "รักลุงตู่" บางคนชมว่า "หล่อกว่าในทีวีอีก" ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีตลอดเวลาที่เดินจนถึงขึ้นรถกลับ

    วันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างๆ ต่างลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ อาทิ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ และคณะเดินทางลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ จ.นครราชสีมา ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ตรวจราชการที่ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายไปเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของมณฑลทหารบกที่ 26, สภ.เมืองบุรีรัมย์ และ สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ 
ด้านนายประกิจ พลเดช อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเหมาะสมกรณี พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่บุรีรัมย์ โดยมีประชาชนกว่า 3 หมื่นคนมารอต้อนรับว่า หากถามว่าเหมาะสมหรือไม่  เมื่อมองถึงหน้าที่นายกฯ ก็ไม่ว่าอะไร แต่การกระทำดังกล่าวสะท้อนว่าเกิดอะไรขึ้น หวังผลอะไรทางการเมืองหรือไม่ เข้าใจว่าคงเป็นวิธีการที่นายกฯ จะหาแนวร่วม หรือที่เขาเรียกกันว่าพลังดูด ให้ทุกคนเป็นส่วนร่วมเพื่อจะได้สืบทอดอำนาจ แต่ไม่ได้หวั่นไหว ถือว่าสุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้ชี้ขาดเอง 
“คนที่เดินทางมาฟังนายกฯ เท่าที่รู้มีทั้งมาด้วยความจำเป็น มีทั้งคนที่มาด้วยความสมัครใจและไม่สมัครใจ ได้ยินมาว่าบางหมู่บ้านให้ค่ารถไป 2,000 บาทต่อคัน แต่ต้องนำคนมาไม่น้อยกว่าเท่านี้ๆ นะ” นายประกิจเผย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"