นายกฯอารมณ์ดี จ่อตีปี๊บผลงาน สื่อช่วยประเมิน


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ เตรียมเปิดผลการดำเนินงานรัฐบาล สั่งสำนักนายกฯ รวบรวมแจง ปชช. ไฟเขียวสื่อช่วยประเมินผลงาน ครม. วอนเปิดโอกาส รมต.ปิดทองหลังพระได้พูดบ้าง ลงเสาเอกบ้านมั่นคงฯ ปลื้มใจมีเรื่องดีๆ หลายเรื่อง อารมณ์ดีส่งมินิฮาร์ตขอเพลงฮิต "ถ้าเขาจะรัก อยู่เฉยๆ เขาก็รัก" ขอรวมใจไทยสร้างชาติ ลั่นจะล้มเครือข่าย-ตัดตอนสิ่งตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นไม่ได้ สังคมจะอ่อนแอ

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 17 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่ตนให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงชี้แจงงานที่ได้ทำไปให้ประชาชนรับทราบนั้น ตอนนี้ให้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีรวบรวมความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของรัฐบาล เพราะบางทีชี้แจงเป็นงานๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งหลายอย่างทำหลายปีกว่าจะสำเร็จได้ ต้องใช้เวลาระยะยาวสืบทอด ได้เข้าใจว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ชาติไปด้วย หลายๆ คนคิดเร็วหวังผลอยากให้เร็วๆ ตนยิ่งกว่าพวกท่านอีก แต่บางอย่างมันทำไม่ได้เร็วขนาดนั้น เช่น รถไฟฟ้า กี่ปีมาแล้ว ก่อนตนจะเข้ามามีกี่สาย ระยะทางกี่กิโลเมตร และวันนี้มีเท่าไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ อะไรที่ติดขัดหรือเป็นอุปสรรคก็ต้องไปแก้กันมา
    "ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ประชาชนจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด รัฐบาลต้องคิดทุกเรื่องแบบนี้ ไม่ได้เอาผลประโยชน์ใครมาว่า ไม่มี  ผมไม่ต้องการให้ไปสู่จุดนั้นโดยเด็ดขาดอยู่แล้ว ฉะนั้นเราต้องดูทั้งประชาชนได้ประโยชน์ รัฐได้ประโยชน์ตอบแทน และให้ความเป็นธรรมผู้ประกอบการ"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการประเมินงานรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงหรือไม่ อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อประเมินไปก็แล้วกัน เขาจะได้ตอบได้ว่าสิ่งที่ประเมินมามันใช่หรือไม่ใช่ เขาจะได้ชี้แจงบ้าง เพราะบางทีเขาไม่ค่อยได้ชี้แจง บางคนทำงานชอบปิดทองหลังพระ หลายคนบอกไม่รู้จัก แต่เขาก็ทำงาน เพราะในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เขาก็เสนอแผนงานโครงการต่างๆ เข้ามาหารือ แต่พอดีเขาไม่ค่อยชอบออกสื่อ เพราะกลัวสื่อไล่ต้อนใช่หรือไม่ เขาพูดไม่เก่งเหมือนฉัน ขอให้ช่วยกันเดินหน้า ทำให้บ้านเมืองสงบปลอดภัยในช่วงปีใหม่
    ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่หมู่ 7 ถนนเลียบคลองเปรมประชากร ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีลงเสาเอกบ้านมั่นคง "สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด" (บ้านสวย คลองใส วิถีใหม่ ชุมชนริมคลอง) โดยนายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการงานพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองเปรมประชากร พร้อมกล่าวกับนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิตที่นำชมนิทรรศการ ตอนหนึ่งว่า นักศึกษาทำประโยชน์ให้กับประเทศ พร้อมทำความเข้าใจกับชุมชนว่าถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างต้องร่วมมือกัน ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ถ้าคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ไม่ทำด้วยกันแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
    จากนั้น นายกฯ มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเนื้อที่ 22 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา ให้แก่ประธานและกรรมการสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด และมอบใบอนุญาตก่อสร้างของสหกรณ์ฯ ให้แก่ประธานและกรรมการสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด ก่อนกล่าวเปิดงานว่า วันนี้รู้สึกยินดีอีกวันหนึ่ง สัปดาห์นี้มีแต่เรื่องดีๆ มาหลายเรื่อง 2-3 วันนี้ได้ไปเปิดรถไฟฟ้า 3-4 สาย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีผลงานแบบนี้มาให้พี่น้องประชาชนคนไทย โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ควบคู่คุณภาพชีวิตและรายได้ ทั้งหมดเป็นการเดินตามยุทธศาสตร์ชาติ ว่า 5 ปีจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพื่อคัดสรรงบลงไป
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า พระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้คลองทุกคลองเป็นคลองสู่น้ำใสสะอาด ทั้งนี้ ถ้าทุกคลองสวยงาม คนก็จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้นในอนาคตและจะเกิดแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญ วันนี้เห็นรอยยิ้มทุกคนรู้สึกดีใจ สิ่งสำคัญที่สุด นอกจากมีบ้านอยู่แล้ว ต้องช่วยกันให้คนอื่นๆ มาร่วมมือในระยะต่อไปด้วย ถ้าขัดแย้งขัดขวางอยู่ก็ทำไม่ได้สักอัน และวันนี้ทำงานรุ่นสู่รุ่น โดยต้องคิดยาวๆ อย่าคิดเฉพาะหน้า จะได้ไม่ขัดแย้ง และขอให้ทุกคนร่วมกันดูแลประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ที่รักยิ่งของพวกเราให้ดีก็แล้วกัน เพราะนี่เป็นหลักชัยของประเทศ และวันนี้ฝากทุกคนรักตำรวจด้วย ซึ่งในช่วงนี้ประชาชนตะโกนว่า "รักนายกฯ" นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า "อ่อ รักนายกฯ ก็เผื่อถึงตำรวจด้วย เพราะนายกฯ ก็ดูแลตำรวจ และต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน ส่วนกฎหมายก็จำเป็นต้องใช้ แต่จะไม่ได้เป็นศัตรูกัน"
    นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งด้วยว่า พูดแล้วก็เหนื่อย แต่ไม่ได้ ต้องทำได้ ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมกับนายกฯ ก็มีกำลังใจจะทำให้ ทุกหน่วยงานก็รอกำลังใจจากพวกเราทุกคน ซึ่งหลายคนเกี่ยวข้องทุกโครงการ จากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดกันไป ตัดตอนตรงไหนได้หรือไม่ ตัดพ่อสู่ลูก ตัดปู่สู่หลานไม่ได้ สังคมก็จะอ่อนแอ ผมไม่อะไรกับใครเพราะจะขัดแย้งกัน ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่พวกเราต้องเข้มแข็งและรักษาอัตลักษณ์ของเรา โดยเฉพาะสังคมครอบครัว
      "ขอบคุณเด็กนักเรียนและนักศึกษาที่มาในวันนี้ ขอให้ฟังเด็กเขาเยอะๆ และเด็กก็ฟังผู้ใหญ่พูดด้วย ถ้าไม่รวมใจไทยสร้างชาติก็ไปไม่ได้หมด จะล้มเครือข่ายหรือสิ่งที่ตกทอดกันมาไม่ได้หรอก เหมือนหลายประเทศโตขึ้นมาก็แยกบ้าน อายุ 16-17 ก็มีงานทำ แต่ข้อดีคือเสียภาษีให้กับประเทศได้ แต่ประเทศไทยเราเป็นสังคมต้องอยู่กับพ่อแม่ บางคนวันนี้จะแก่อยู่แล้วแต่ยังขอเงินพ่อแม่อยู่เลย ซึ่งพ่อแม่เป็นผู้มีบุญคุณ ซื่อสัตย์ กตัญญู จงรักภักดี จิตอาสา เผื่อแผ่แบ่งปัน หากใครคิดจะโกรธให้นับ 1-10 ให้ได้ก่อน วันนี้ท่านรักผม ผมก็รักท่าน ท่านไม่รักผม ผมก็รักท่าน ไม่เคยน้อยใจใครจะว่าอะไรก็ว่าไป เข้าตัวเขาเอง"
    จากนั้น นายกฯ ได้ทำพิธีลงเสาเอก พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งอย่างอารมณ์ดีว่า มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมเคยฟังและฮิตติดอันดับอยู่ ที่บอกว่า “ถ้าเราจะรักกันอยู่ที่ไหนก็จะรักใช่ไหม” ชื่อเพลงอะไรนะ โดยผู้ร่วมงานตะโกนบอกชื่อเพลง "ถ้าเขาจะรัก" ขับร้องโดยเฟิร์ส อนุวัฒน์ นายกฯ จึงพูดขึ้นว่า อ๋อชื่อเพลง "ถ้าเขาจะรัก อยู่เฉยๆ เขาก็รัก" ถ้าเราเริ่มเกลียดตั้งแต่แรกมันก็ไม่ได้ มันก็จะรักไม่ได้   เมื่อถึงช่วงนี้นายกฯ ได้หันไปถามรัฐมนตรีที่มาร่วมงาน แล้วได้หันมากล่าวอีกว่า ไม่ต้องเหมือนกับเพลง "เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อรักเธอคนเดียว" เราขอฟังเพลงพวกนี้ให้มันสดชื่นไปเรื่อยๆ เพราะมีเรื่องเยอะแยะหนักหนาสาหัส ก็แก้ไปด้วยศรัทธาก็จะสำเร็จ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"