'จุรินทร์'ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิง เคาะจ่ายส่วนต่าง 88,449 ครัวเรือน ชาวไร่รับเงิน 20 ธันวานี้


เพิ่มเพื่อน    

18 ธ.ค.63 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปีพ.ศ.2563 /64 หรือประกันรายได้ข้าวโพดปี2 งวดที่2 สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 - 31 พฤษภาคม 2564 และมีกำหนดเก็บเกี่ยว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 19 ธันวาคม  2563 

โดยเกษตรกรข้าวโพดมีสิทธิ์ได้รับการชดเชยส่วนต่างรอบวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% เนื่องจากปัจจุบันราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงอยู่ที่กิโลกรัมละ 8.18 บาท ทำให้เกษตรกรได้ส่วนต่างชดเชยกิโลกรัมละ 0.32 บาท คำนวณแล้วจะได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 6,844 บาท โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 88,449 ครัวเรือน 122,352 แปลง 1,398,591 ไร่

" ในส่วนของข้าวโพดปี2 นี้เริ่มจ่ายงวดแรกเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2563 สำหรับเกษตรกรที่ปลูกตั้งแต่ 1 มิย.63 และแจ้งเก็บเกี่ยวก่อน 20 พย.63 ส่วนงวดนี้คืองวด2 คือกลุ่มที่แจ้งเก็บเกี่ยวช่วงเดือนที่ผ่านมาก็จะได้รับเงินส่วนต่างเข้าบัญชีโดยตรงในวันที่ 20 ธ.ค.2563 ส่วนเกษตรกรข้าวโพดที่กำลังปลูกอยู่นี้เกษตรกรส่วนใหญ่แจ้งปลูกและแจ้งวันเก็บเกี่ยวไว้แล้วเมื่อถึงเวลาหากราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่รัฐบาลประกันรายได้ไว้ก็จะได้รับส่วนต่างเช่นกันยกเว้นราคาข้าวโพดในช่วงนั้นจะพุ่งขึ้นสูงทะลุราคาที่ประกันรายได้ไว้คือ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม " ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในพืช 5 ชนิดที่รัฐบาลใช้หลักประกันรายได้เกษตรกรตามนโยบายที่นายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แถลงต่อรัฐสภาและเป็นเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้ร่วมรัฐบาลถึงทุกวันนี้โดยข้าวโพดนั้นมีราคาเป้าหมายที่ประกันรายได้ไว้กิโลกรัมละ 8.50 บาทที่ความชื้น 14.5% ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ สำหรับเกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งประเทศมี 4.5 แสนครัวเรือน ปลูกมากที่สุดคือจังหวัดเพชรบูรณ์ รองลงมาคือจังหวัดตาก เชียงราย และกระจายอยู่ 17 จังหวัดภาคเหนือกับหลายจังหวัดในภาคอีสานและมีภูมิภาคอื่นด้วยเล็กน้อย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"