สามัญสำนึกต่อส่วนรวม


เพิ่มเพื่อน    

    การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมานั้น ได้ส่งผลกระทบไปยังทั่วโลก ทำให้ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศดิ่งลงเหวกันอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย หลังจากที่มีการประกาศล็อกดาวน์ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ก็ยิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่ย่ำแย่อยู่แล้วกลับแย่ลงมาอีก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/63 ที่จีดีพีติดลบถึง 12.2% ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดต่ำสุดแบบในประวัติศาสตร์เนื่องจากยังติดลบน้อยกว่าช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่จีดีพีรายไตรมาสติดลบถึง 12.5% 
    อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2563 นี้ จีดีพีไทยหดตัวติดลบ 9.7% โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจไทยคงจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้จากความหวังของวัคซีนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การเบิกจ่ายของภาครัฐ และการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก จึงประมาณการตัวเลขจีดีพีทั้งปี 2563 จะติดลบในช่วงระหว่าง 7.8-7.3% และให้ค่ากลางติดลบอยู่ที่ 7.5%
    และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมาสารพัดในช่วงที่ผ่านมานั้น ก็ทำให้เศรษฐกิจของไทยเริ่มที่จะขยับตัวดีขึ้น จนกระทั่งในไตรมาส 3/65 นั้น จีดีพีของไทยหดตัว ติดลบ 6.4% ถือว่าปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์มาก และปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ซึ่งจีดีพีติดลบ 12.1% โดยมีปัจจัยหนุนมาจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ ที่ส่งผลให้กิจกรรมกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้นหลังจากติดลบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 2/63
    ดังนั้น ทาง สศช.จึงได้ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2563 ดีขึ้นเป็นติดลบ 6% จากเดิมที่คาดไว้ในช่วงเดือนสิงหาคมว่าจะติดลบ 7.5% และเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเป็นบวกได้ในปี 64 ที่ 3.5-4.5% จากปัจจัยการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ เศรษฐกิจไทยได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐ การเปิดสเปเซียลทัวร์ริสต์วีซ่า และการปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจและการค้าโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย ขณะที่การเบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท คาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 70% ของเงินกู้
    เห็นการวิเคราะห์พิจารณาของ สศช.แล็วก็ชื่นใจว่าปีนี้รอดแน่แล้ว   
    แต่ก็ดีใจได้ไม่นานสักเท่าไหรก็เริ่มที่จะเกิดการวิตกกันขึ้นอีก หลังจากที่พบว่ามีสาวไทยที่ข้ามกลับมาประเทศด้วยวิธีการลักลอบ ได้นำเข้าโควิด-19 เข้ามาด้วย แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ยังสามารถที่จะควบคุมได้ทันท่วงนี้ แต่ก็นั่นอีกดีใจได้ไม่ถึงวันข่าวร้ายๆ ก็กระหน่ำมาอย่างคาดไม่ถึง ว่าสมุทรสาครที่แพกุ้งศูนย์กลางซื้อขายอาหารทะเลมีแม่ค้าติดโควิด-19 และเพียงชั่วข้ามคืนกลับเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 500 คน และล่าสุดแตะ 600 คนไปแล้ว 
    พระเจ้าช่วยกลัวทอด ข่าวนี้กลับมาสร้างความกังวลให้กับคนไทยอีกครั้ง แม่ว่าจะมีนักวิชาการ นักธุรกิจหลายคนที่ยังมั่นใจว่าจะไม่กระทบการลงทุน หากกระทบก็เพียงเล็กน้อย 
    แต่ต้องยอมรับนะว่าเล็กน้อยก็คือกระทบ ซึ่งธนวรรธน์ พลวิชัย ที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ได้ประเมินว่า โควิด-19 ที่ยืดเยื้อทำให้เศรษฐกิจชะลอความเปราะบางทางการเมือง ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนลดลง เงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ภัยแล้ง และสงครามการค้าสหรัฐกับจีนยังเสี่ยง 
    เช่นเดียวกับ เกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า การระบาดรอบนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจใน จ.สมุทรสาคร หยุดชะงักชั่วคราว แต่ถ้าในกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หรือเกิดการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัด และการจ้างงานสะดุดได้ ดังนั้น ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลเรื่องการคัดกรองให้ครอบคลุมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการลักลอบเข้ามาของชาวต่างชาติ และแรงงานไทยในต่างแดนอย่างเข้มงวด
    แต่ที่สำคัญนั้นคือทุกคนในประเทศต้องร่วมมือร่วมใจกันป้องกันการระบาดในครั้งนี้ ทุกคนต้องมีวินัย และสามัญสำนึกถึงส่วนร่วมที่จะช่วยกันป้องกันมากกว่าการเห็นแต่ประโยชน์แต่ของตัวเอง โดยไม่คำนึกถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวมและประเทศ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ เชียงราย และสมุทรสาคร   ในครั้งนี้ เพราะความไร้วินัยและสามัญสำนึกของคนเพียงแค่ไม่กี่คน ก็ทำให้ประเทศที่กำลังฟื้นตัวกลับต้องหยุดชะงักการเติบโตอีกครั้ง หรืออาจจะขั้นทรุดฮวบชนิดว่าโงหัวไม่ขึ้นเลยก็ว่าได้ แล้วอย่างนี้จะโทษใคร โทษนายกรัฐมนตรี หรือแก้รัฐธรรมนูญกันอีกหรือเปล่า.

บุญช่วย  ค้ายาดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"