หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  หรือโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลายร้อยคน ส่วนมากเป็นแรงงานชาวเมียนมาที่ทำงานในอุตสาหกรรมประมง  นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อจากสมุทรสาครกระจายอยู่ในพื้นที่อย่างน้อย 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม

                แน่นอนว่าได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่พบหญิงไทยที่ติดเชื้อโดยไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งหมายความว่าผู้ติดเชื้อรายนี้ไม่ได้เป็น "ต้นเชื้อ" ทางกรมควบคุมโรคจึงได้พยายามค้นหาต้นเชื้อหรือสาเหตุการติดเชื้อของหญิงรายนี้ ซึ่งคาดว่าเป็นการติดเชื้อจากแรงงานชาวเมียนมาในตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานเมียนมาอยู่อย่างหนาแน่น

                เมื่อลงไปตรวจก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดย 90% เป็นแรงงานเมียนมา ที่เหลือเป็นคนไทย และราว 90% ของผู้ติดเชื้อพบว่าไม่มีอาการ ซึ่งทำให้เกิดการแพร่ระบาดสู่ผู้อื่นได้ง่าย อีกทั้งแรงงานเมียนมาพักอยู่รวมกันอย่างแออัด จึงเกิดการติดเชื้อจำนวนมาก ร้อนถึงหน่วยงานที่ให้บริการด้านขนส่งสาธารณะ ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ”ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”  ได้สั่งการทุกหน่วยงานให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และดำเนินการตามแผนป้องกันโควิด-19 โดยให้ใช้มาตรการขั้นสูงสุดที่เคร่งครัด และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะทราบทั่วกัน

                ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าในขณะที่ใช้บริการ, รักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing), ใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และผู้ให้บริการต้องทำความสะอาด และพ่นแอลกอฮอล์บนอุปกรณ์ และยานพาหนะที่ให้บริการทุกครั้ง ทั้งนี้ทุกหน่วยงานต้องรายงานผลการปฏิบัติทุกวัน จนกว่าจะเสร็จสิ้นสถานการณ์

                ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกประกาศว่าตามที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมกับมีการประกาศล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร จนถึงวันที่ 3 ม.ค.64 นั้น รฟท.จึงได้งดให้บริการเดินรถ 2 ขบวน ได้แก่ ขบวน 4302 เวลาออกจากสถานีมหาชัย เวลา 04.30 น. ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ เวลา 05.23 น. และขบวน 4303 เวลาออกจากสถานีวงเวียนใหญ่ เวลา 05.30 น.  ถึงสถานีมหาชัยเวลา 06.23 น. รวมถึงปรับการให้บริการเดินรถเส้นทางสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย-วงเวียนใหญ่ 32 ขบวน โดยยังคงวิ่งให้บริการ แต่ให้รับส่งผู้โดยสารได้เฉพาะ 5 สถานี ได้แก่ สถานีวงเวียนใหญ่ ตลาดพลู วัดสิงห์ รางโพธิ์ และมหาชัย

                ขณะเดียวกัน ได้ออกมาตรการเฝ้าระวังตามสถานีและบนขบวนรถขั้นสูงสุดทั่วประเทศ เช่น การคัดกรองผู้โดยสารที่สถานีรถไฟ และบนขบวนรถโดยสาร ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทุกคน และให้กรอกแบบประเมินรับรองตนเอง รวมถึงให้ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ และห้ามมิให้แรงงานต่างด้าวใช้บริการในเส้นทางวงเวียนใหญ่-มหาชัย และห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ฉบับที่ 21)

                องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะที่วิ่งให้บริการใกล้พื้นที่ดังกล่าว มีจำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ สาย ปอ.7 (สมุทรสาคร-หัวลำโพง), 43 (ศึกษานารี 2-เทเวศร์), ปอ.68 (สมุทรสาคร-บางลำพู), 105 (มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน), 140 (เเสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), 141 (แสมดำ-จุฬาฯ), 142 (ปากน้ำ-แสมดำ), 8183 (สมุทรสาคร-ปิ่นทอง) และสาย 8328 (สมุทรสาคร-เคหะธนบุรี)

                แน่นอนว่าก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน ขสมก.จะมีการฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น กริ่งสัญญาณ ราวจับ เบาะที่นั่ง เป็นต้น ด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานประจำรถทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ 

                ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่ติดตั้งบริเวณประตูรถโดยสาร และสแกน QR Code ไทยชนะทุกครั้งขณะใช้บริการ และขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด.

กัลยา ยืนยง